อาชญากรรม

รับศพเหยื่อไฟไหม้คาสิโน ลูกชายเศร้า ได้คุยกับพ่อช่วงหนีตาย ก่อนขาดอากาศหายใจดับสลด

โดย thichaphat_d

1 ม.ค. 2566

118 views

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตชาวไทย จากเหตุไฟไหม้โรงแรมแกรนด์ ไดมอนด์ ซิตี้ กรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา กลับมายังประเทศไทย หลังเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยไทยได้ประกาศยุติภารกิจการช่วยเหลือค้นหาร่าง และคืนพื้นที่เกิดเหตุให้กับทางการกัมพูชา

โดยช่วงสายวานนี้ (31 ธ.ค) ที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุชาวไทย อำเภออรัญประเทศ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิต ที่ลำเลียงร่างมาเมื่อคืนวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา เดินทางมาติดต่อดำเนินการเอกสาร เพื่อขอรับศพผู้เสียชีวิต

โดยลูกชายของนายบุญส่ง บุญชู เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาติดต่อรับร่างของคุณพ่อ เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ ตนก็อยู่ที่โรงแรมดังกล่าวเช่นกัน โดยตนกับภรรยา และคุณพ่อ ได้เดินทางมาเที่ยวที่นี่ ซึ่งมากันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ตอนเกิดเหตุ ตนพักอยู่ในห้องพักที่ชั้น 4 ส่วนคุณพ่อพักอยู่ในห้องพักกับกลุ่มเพื่อนที่ชั้น 11

ลูกชายของนายบุญส่ง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทีมข่าวฟังว่า ตอนเกิดเหตุ ตนนอนหลับไปแล้ว จนเพื่อนโทรมาบอกว่าให้รีบออกมา มีไฟไหม้ ตนเลยออกมาทันทีแบบไม่ได้เอาอะไรติดตัวมา ซึ่งตอนที่ตนออกมาข้างนอกได้ ไฟยังไม่ลามหนัก ควันยังน้อยอยู่ ตอนนั้นก็พยายามจะติดต่อหาพ่อเพื่อบอกให้ออกมา พ่อก็รับสายแล้วบอกว่า ติดอยู่ที่ชั้น 11 วิ่งออกมาจากห้องพักแล้วแต่ควันเยอะมาก ไม่มีทางไป

เลยรวมกลุ่มกับคนอื่นที่วิ่งหนีด้วยกัน เข้าไปอยู่ในห้องๆ หนึ่ง แล้วเอาผ้าชุบน้ำมาอุดรูประตูไว้ แล้วพยายามหายใจ ซึ่งตอนนั้นพ่อยังบอกตนว่าโอเคอยู่ ควันยังไม่เยอะเท่าไหร่ ตนก็บอกว่าให้พยายามหนีควันให้ได้ ซึ่งตนคุยกับพ่ออยู่ตลอดตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงตีสี่ พ่อก็บอกว่า มีผู้หญิงสูงอายุอีกคนหนึ่ง เขาเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ให้ช่วยหากระเช้าขึ้นไปรับหน่อย และหลังจากนั้น พ่อก็ไม่รับสายตนอีก

พอช่วงเช้า ตนก็ทำใจแล้วว่า พ่อน่าจะเสียชีวิตแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับข่าวยืนยัน จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ (30 ธ.ค.) ได้รับการยืนยันว่าพ่อตนเสียชีวิตและพบร่างแล้ว ซึ่งเพื่อนตนที่พักอยู่ห้องด้านบนของพ่อ ก็มาเล่าให้ฟังด้วยว่า วันเกิดเหตุตอน 6 โมงเช้า ได้มีกระเช้าขึ้นไปรับ แต่พ่อตนได้ช่วยพยุงผู้หญิงสูงอายุให้ขึ้นกระเช้าไปก่อน ซึ่งน่าจะเป็นแรงเฮือกสุดท้าย แล้วพ่อก็น่าจะขาดอากาศหายใจ เพราะสภาพศพที่เจอ เหมือนพ่อพยายามจะหายใจอยู่ตรงหน้าต่าง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ที่ตนเคยมาเที่ยวที่นี่ ก็เคยเกิดเหตุการณ์เกือบจะไฟไหม้ ลักษณะเหมือนด้านบนมีช่างกำลังเจียรอะไรบางอย่าง แล้วสะเก็ดไฟตกลงมา จนเกิดควันออกมาจากท่อแอร์เยอะมากในโถงคาสิโนชั้น 1 ซึ่งก็ทำให้ตนคิดอยู่ตลอดว่าต้องระวังตัวและที่มาเที่ยวครั้งนี้ ตนเลือกนอนชั้น 4 เพราะตนดูลักษณะโครงสร้างของตึก 17 ชั้นแล้ว ตนไม่กล้านอน เพราะโครงสร้างดูซับซ้อน มีการต่อเติมเยอะจนดูหนียากหากเกิดเหตุอะไรขึ้น และตัวอาคารรวมถึงวัสดุต่างๆ เช่น สายไฟ ก็ค่อนข้างเก่าแล้วด้วย ซึ่งตอนที่เกิดเหตุก็ไม่มีสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังแม้แต่นิดเดียว

ขณะที่ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับพี่สาวของนางสาวณฤพัชร พานทอง ผู้เสียชีวิตอีกรายหนึ่งที่ตอนนี้ได้รับการยืนยันตัวบุคคลแล้ว แต่ยังต้องรอเคลื่อนย้ายร่างกลับมาจากฝั่งประเทศกัมพูชาอยู่ โดยพี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องสาวตนเดินทางติดตามเจ้านายไปถึงที่โรงแรมตั้งแต่ค่ำวันที่ 25 ธ.ค. โดยก่อนเกิดเหตุ 1 วัน น้องสาวเพิ่งจะโทรศัพท์มาหาเพื่อขอคุยกับหลาน เพราะน้องสาวรักหลานมาก แล้วก็ได้คุยกันแค่นั้น

จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ประมาณ 6 โมงเช้า น้องสาวพยายามจะติดต่อมาหาตน แต่มีแค่การกดสติกเกอร์มาหา ตนพยายามบอกให้พิมพ์หรือให้พูด แต่น้องสาวน่าจะสื่อสารไม่ไหว เพราะไม่ได้ตอบอะไรกลับมานอกจากกดสติกเกอร์ พอทราบข่าวว่ามีไฟไหม้ ตนจึงรีบเดินทางมาที่ศูนย์ประสานงานทันที เพื่อตามหาน้องสาว ซึ่งนั่งรออยู่ทั้งวัน

จนช่วง 3 ทุ่มเมื่อคืนวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าพบร่างของน้องสาวนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพักชั้น 12 ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกหดหู่มาก และทุกคนในครอบครัวก็ยังทำใจไม่ได้ เพราะน้องสาวออกจากบ้านมาอย่างร่าเริง ไม่คิดว่าจะต้องกลับบ้านในสภาพนี้


https://youtu.be/jggoR935WE0

คุณอาจสนใจ

Related News