อาชญากรรม

คนร้ายจ้วงแทงหนุ่มใหญ่ดับ หน้าห้างภูเก็ต อ้างจำคนผิด ครอบครัวคนตายอยากให้ประหาร

โดย passamon_a

30 ต.ค. 2565

126 views

คนร้ายใช้มีดจ้วงแทงหนุ่มใหญ่เสียชีวิต หน้าห้างภูเก็ต มอบตัวแล้ว อ้างจำคนผิด คิดว่าเป็นคู่อริเก่า ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ยืนยันจะเอาเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อยากให้ได้รับโทษประหารชีวิต  


เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 29 ต.ค.65 ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธทำร้ายร่ายกายประชาชน ที่มาซื้อของที่ห้างโกรเซอรี่ ถ.อ๋องชิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และชิงทรัพย์สินหลบหนีไป โดยผู้บาดเจ็บมีพลเมืองนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา  


โดยจุดที่คนร้ายก่อเหตุอยู่ริมถนนสายดังกล่าว ซึ่งจะใกล้กับประตู 1 และ 2 ของห้าง และห่างจากตลาดสดที่มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนเป็นจำนวนมากไม่ถึง 100 เมตร พบรถเอสยูวี ยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์เทา จอดอยู่ริมถนน ด้านข้างรถมีรถเข็นสินค้าจอดวางอยู่ บริเวณท้ายรถถูกเปิดออก ภายในมีข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ จำนวนหนึ่งวางอยู่ ที่พื้นถนนบริเวณฝั่งประตูคนขับมีคราบเลือดเป็นจำนวนมาก ใกล้ ๆ กันเกือบกลางถนน พบมีดปอกผลไม้ด้ามสีดำโค้งงอเปื้อนคราบเลือดตกอยู่ 1 อัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บไว้เป็นหลักฐาน


ส่วนคนเจ็บที่ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายและไปเสียชีวิตที่ รพ. ทราบชื่อคือ นายเจริญ อายุ 49 ปี สภาพศพเบื้องต้นถูกของมีคมแทงเข้าบริเวณหน้าอกและท้องหลายแผล เสียเลือดมาก ทำให้เสียชีวิตในที่สุด


จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่มีการติดตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายดังกล่าว ซึ่งตรงกับจุดที่นายเจริญผู้ตายจอดรถเอสยูวีคันดังกล่าว โดยภาพสามารถบันทึกเหตุการณ์วินาทีที่คนร้ายก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมด โดยเหตุเกิดเวลา 06.30 น. นายเจริญผู้เสียชีวิตกำลังเข็นรถสินค้าออกจากห้างตรงมาที่บริเวณท้ายรถ เพื่อนำสินค้าที่ซื้อใส่รถ ขณะที่นายเจริญกำลังขนของขึ้นรถ ได้มีคนร้ายเข้ามาประชิดตัวในลักษณะพูดคุยกับนายเจริญ จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดพกสั้นกระหน่ำแทงเข้ามาบริเวณลำตัวประมาณ 15 ครั้ง และได้กระชากสร้อยทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์และกระเป๋าสะพายของนายเจริญ แล้ววิ่งหลบหนีไปในห้าง แต่คนร้ายได้ทำสร้อยคอทองคำและกระเป๋าสะพายของผู้ตายตกบริเวณที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ไปเพียงพระเลี่ยมทองหนัก 1 สลึงไปเท่านั้น


โดยคนร้ายใช้เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปภายในห้างเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและได้วิ่งออกทางประตูด้านหลังของห้างและหลบหนีไป โดยชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้าง เพื่อขยายผลรูปพรรณของคนร้ายแล้ว


ส่วนกล้องวงจรปิดอีกจุดบันทึกภาพหลังจากคนร้ายก่อเหตุเสร็จ แล้วเดินทางกลับมาที่บ้านพัก ซึ่งในคลิปผู้ก่อเหตุใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เดินกลับมาที่บริเวณบ้านพัก โดยมีท่าทีนิ่งเฉย


กระทั่งต่อมา เวลา 12.10 น. ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำตัวนายปัณณวิชญ์ อายุ 35 ปี อาชีพกราฟฟิกดีไซด์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหา มาสอบสวน หลังเข้ามอบตัว เบื้องต้นนายปัณณวิชญ์ ให้การรับสารภาพเป็นคนก่อเหตุทำร้ายนายเจริญจนเสียชีวิต แต่เป็นการเข้าใจผิดคิดว่าผู้ตายเป็นคู่อริเก่า แต่เมื่อลงมือไปแล้ว จึงสำนึกผิด และได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ที่ สภ.เมืองภูเก็ต จากนั้นชุดสืบสวนได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ และเส้นทางที่ใช้หลบหนี


โดยเริ่มต้นจากห้างภูเก็ตโกรเซอรี่ ที่นำรถจักรยานยนต์ถอดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดไว้ จากนั้นไปยังจุดก่อเหตุที่ลงมือแทงนายเจริญจนล้มฟุบลงไปริมถนนหน้าห้าง จากนั้นได้นำกระเป๋าสะพาย และเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำไปวางไว้บริเวณจุดขายของหน้าห้าง


จากนั้นไปชี้จุดบริเวณอุปกรณ์ของเล่น นำเสื้อผ้าไปซุกซ่อนเอาไว้ และหลบหนีไปทางด้านหลังห้าง แล้วเดินไปยังซอยกอไผ่ และซอยฮับเอก ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และได้เดินมาบริเวณปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ต.ตลาดใหญ่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต ถนนพูนผล ต.ตลาดใหญ่ ได้เดินต่อไปยังหมู่บ้านพนาสนธิ์ซิตี้ (เทพอนุสรณ์) ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านพักของตัวเอง ก่อนที่จะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต


พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้เข้ามามอบตัวพร้อมให้การสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับชายไทยไม่ทราบชื่อสกุลจริง (ชื่อเล่น ตานิด) ในเรื่องการขับรถแถวถนนขวาง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้มีปากเสียงกันรุนแรง ตนได้มีความคับแค้นเป็นอย่างมาก ต่อมาก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนขี่รถ จยย.มาที่ตลาดเกษตร ถ.อ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 100 เมตร ตนได้สังเกตเห็นผู้ตาย หน้าตาคล้ายกับตานิด


ตอนแรกตนเชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นตานิด จึงได้ติดตามผู้ตายไป เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ตนจึงได้เข้าไปสอบถามผู้ตายว่าใช่ ตานิดหรือไม่ ผู้ตายตอบปฏิเสธว่าไม่ใช่ ไม่รู้จักคนชื่อตานิดแต่อย่างใด ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความโกรธ และได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมากระหน่ำแทงผู้ตายและได้หลบหนีไป โดยผู้ต้องหาระบุด้วยว่าไม่ได้เอาทรัพย์สินของผู้ตายไปแต่อย่างใด เมื่อผู้ต้องหากลับถึงบ้าน เกิดสำนึกผิดและคิดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิด จึงได้เดินทางมายัง สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมาย


ด้าน ภรรยาผู้เสียชีวิต อายุ 47 ปี ระบุว่า โดยปกตินั้น สามีตนเองจะไปพื้นที่เกิดเหตุบริเวณห้างทุก ๆ วันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อไปซื้อของมาเตรียมที่ร้าน โดยวันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ ตนเองและลูกสาวจะออกไปซื้อด้วยกัน 3 คน เป็นประจำ แต่เสาร์-อาทิตย์นั้น สามีจะไปเพียงลำพัง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ค้าขายอาหารมากว่า 10 ปีนั้น สามีตนเองไม่เคยมีปัญหากับใคร เป็นคนพูดเพราะ นิสัยเรียนร้อย ไม่เคยด่าใคร ไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยสักครั้ง ตนเองอยู่ด้วยกันไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด


ซึ่งผู้ต้องหานั้นรับสารภาพพูดออกมาว่า เป็นการก่อเหตุทำร้ายร่างกายผิดคน จึงเดินทางมามอบตัว ตนมองว่าหากก่อเหตุรุนแรงเจตนาฆ่าเอาชีวิตเช่นนี้ ด้วยพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม มองว่าไม่น่าจะพูดว่าทำร้ายร่างกายผิดคน ถ้าหากโกรธแค้นคนใดคนหนึ่งจริง ๆ จะมีหรือที่ไม่สามารถจำหน้าของคนที่เป็นอริได้ ตนเองมองว่าเขาต้องการพยายามพูดคุยหรือจะมาปล้นทรัพย์แน่นอน โดยที่บอกว่าใช่ตานิดหรือไม่นั้น แล้วสามีได้ปฏิเสธไป ทำไมต้องทำร้าย ทำไมเขาถึงไม่คิด


โดยสามีมีสร้อยคอทองคำ และพระสมเด็จเลี่ยมทอง และเงินอีกจำนวนหนึ่ง แล้วเขาจะหยิบขโมยออกไปทำไม ถ้าหากมาแทง ตอนนี้ยอมรับว่ากังวลมาก คนที่ไม่เคยรู้จักไม่เคยพบเจอกันมาก่อน ทำไมถึงทำกันได้ขนาดนี้ และไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ยอมรับว่ากลัวเรื่องคดีนี้จะเงียบลง เนื่องจากว่านายปัณณวิชญ์ มีนามสกุลใหญ่โต เป็นนามสกุลของคนดังในพื้นที่ ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก เกรงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วเงียบลง


ด้าน ลูกสาวผู้เสียชีวิต อายุ 24 ปี ระบุว่า ตนเองยืนยันจะเอาเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ยิ่งประหารชีวิตได้ยิ่งดี เพราะพ่อเสมือนเสาหลักของครอบครัว ตนเองเพียงเรียนจบ จะกลับมาช่วยพ่อแม่ขายอาหาร แต่ตอนนี้เสาหลักไม่อยู่แล้ว ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ซึ่งครอบครัวเราอยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อแม่ลูก ทำงานจันทร์ถึงอาทิตย์ไม่มีหยุดหย่อน ยอมรับว่าเสียใจมาก ไม่อยากจะฝากถึงอะไร ผู้ก่อเหตุนั้น ตนเองไม่อยากพูดอะไรกับคนเช่นนี้ เพราะขนาดผู้ก่อเหตุก็เป็นคนมีครอบครัว ทำไมถึงมาทำเช่นนี้ได้ลง จิตใจทำด้วยอะไร ใช่คนหรือ


อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ดูแลคดี ในเมื่อได้ตัวคนร้ายมาแล้ว อยากให้ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม และให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้หลุดไป นี่ไม่ใช่คดีเล็ก อยากให้ได้รับโทษประหารชีวิต ติดคุกตลอดชีวิตนั้นน้อยไป  



https://youtu.be/-DACWGsqXh4

คุณอาจสนใจ