อาชญากรรม

ย้ายศพคนร้ายทำพิธี จ.อุดรฯ เผาทันทีไม่มีสวด – ญาติสุดเศร้า รับศพเหยื่อกราดยิง บำเพ็ญกุศล

โดย petchpawee_k

8 ต.ค. 2565

51 views

อาสาร่วมกตัญญู รับโลงศพเด็ก จากนครปฐม มารับศพเด็กเหยื่ออดีต ตร. ระบุ เป็นผู้สูญเสีย หลานและญาติ 4 ราย จากการะกระทำของอดีต ตร. แนะหาแนวทางแก้ปัญหาคนติดยาเสพติด เป็นอันตรายต่อสังคม

วานนี้ ช่วงที่แพทย์กำลังชันสูตรศพผู้เสียชีวิต ก็พบว่ามีการนำโลงศพเด็ก ซึ่งเป็นขนาดพอดีตัวกับร่างของเด็กที่เสียชีวิตมามอบให้กับ ทางรพ.เพื่อบรรจุร่างของน้องๆ ที่เสียชีวิต 24 คน


โดย นายพีรพงษ์ เเสนศรี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมตญัญญู เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากจังหวัดนครปฐม พร้อมกับนำโลงศพที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในจังหวัดนครปฐม มาที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี


ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีญาติของตนเสียชีวิตทั้งสิ้น 4 ศพ ประกอบด้วย ด.ช.ภานุชิต อายุ 6 ขวบ / ด.ช.วสันต์  อายุ 4 ขวบ / ด.ช.ชนัศชัย อายุ 3 ขวบ เด็กทั้ง 3 ราย เสียชีวิตภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก / เเละรายที่ 4 คือ . น้าบิ้ง เสียชีวิตระหว่างทางขณะขี่รถมอเตอร์ไซด์ สวนกับรถกระบะของคนก่อเหตุ

ซึ่งตนทราบข่าวเมื่อวานก็รู้สึกเสียใจ ช็อกกับเหตุการณ์ จึงพยายามรวบรวมสติ เเล้วเดินทางมาทันที พร้อมกับนำโลงศพมาด้วย ซึ่งโลงศพเด็กนั้น หาซื้อได้ยากตามท้องตลาด จะต้องสั่งทำ จึงนำมาช่วยบรรจุร่างของน้องๆ ไปบำเพ็ญกุศล


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สะเทือนใจมาก ถึงเเม้ว่าตนจะเป็นกู้ภัย อยู่กับร่างผู้เสียชีวิตจนชิน เเต่กับเหตุการณ์นี้สะเทือนใจมาก เเละยิ่งเป็นคนในครอบครัว เปรียบเหมือนลูกหลานที่เห็นตั้งเเต่เล็กๆ ต้องมาเสียชีวิตในครั้งนี้


ส่วนพฤติกรรม ของคนก่อเหตุที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่เกิดจากผู้คนก่อเหตุที่เกี่ยวข้องกับผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เกิดมาหลายครั้งแล้วในประเทศไทย แต่ก็ไม่ได้รับการเเก้ปัญหา ซึ่งอยากให้สังคมเเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กลับมาทบทวนการดำเนินการกับบุคคลเหล่านี้ ในฐานะที่ตนเป็นญาติของผู้สูญเสียใจครั้งนี้ อยากบอกไปถึงคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ว่าเลิกได้ก็ขอให้เลิก เพราะจะเป็นอันตรายกับบุคคลอื่น


-------------------------------------------------

เจ้าหน้าที่ส่งศพ ผู้เสียชีวิตจากเหตุสลด อดีตตำรวจคลั่ง ส่งญาติรับไปบำเพ็ญกุศล ชาวบ้านค้าน ไม่ให้ศพผู้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่รวมกับผู้สูญเสีย ระบุกระทบกระเทือนจิตใจ ขณะที่ ศพของผู้ก่อเหตุ ไร้วัดรับบำเพ็ญกุศล กู้ภัยจอดรอญาติหลายชั่วโมง ก่อนนำกลับรพ.ศูนย์อุดรธานี

วานนี้ในส่วนของการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตทั้ง 37 รายนั้น ช่วงสาย กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม ทยอยนำร่างของผู้เสียชีวิต นำมาชันสูตรที่แผนกนิติเวชของโรงพยาบาล ซึ่งเหตุผลที่ต้องทยอยนำศพมาชันสูตรนั้น เนื่องจากว่าสถานที่เก็บรักษาศพภายในโรงพยาบาลมีไม่เพียงพอจึงไปฝากที่มูลนิธิ แล้วค่อยๆ ทยอยมาชันสูตร


 โดยกระทรวงสาธารณสุขมีการระดมทีมแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลในสังกัด อาทิ หมอนิติเวชจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี รพ.เพชรบูรณ์ รพ.สกลนคร รพ.เลย และโรงพยาบาลใกล้เคียง มาทำการผ่าพิสูจน์


ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ก็พิสูจน์ศพเสร็จทั้งหมด เมื่อพิสูจน์เสร็จแล้วก็เป็นการแต่งหน้าศพ และเปลี่ยนเสื้อผ้า ทางมูลนิธิส่งเสริมธรรม ได้นำเงินบริจาคของประชาชน ไปซื้อชุดลำลองของเด็ก จำนวน 24 ชุด มาให้น้องๆ ทั้งหมดใส่ เพื่อเป็นการไว้อาลัย


บรรยากาศช่วงนี้ กู้ภัยที่แต่งตัวให้เด็กๆ บอกว่าสลดหดหู่ และบางคนก็น้ำตาไหล เพราะสงสารเด็กตัวเล็กมาก ต้องมาเสียชีวิตแบบนี้


 จากนั้นก็นำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด ขึ้นรถของมูลนิธิ ที่จัดเตรียมไว้ 30 คัน และโลงเย็นอีก 20 ตู้ เคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตที่งหมด รวมทั้งผู้ก่อเหตุด้วย เดินทางจากแผนกนิติเวช รพศูนย์อุดรธานี ไปที่ ศาลาประชาคมอำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู


โดยศพของผู้ก่อเหตุ เป็นศพสุดท้าย ที่ผ่าชันสูตรเสร็จ ซึ่งก่อนเคลื่อนย้ายนั้นเจ้าหน้าที่ มีการปรึกษากันว่า จะนำศพผู้ก่อเหตุไปรวมกับศพผู้สูญเสีย จะเหมาะสมหรือไม่ เพราะอาจส่งผลกระทบกระเทือนจิตใจผู้สูญเสีย แต่เนื่องจากภูมิลำเนาและญาติพี่น้องของผู้ก่อเหตุ ก็เป็นคนในพื้นที่เดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงตกลงนำเคลื่อนร่างออกไปพร้อมๆ กัน


 เมื่อถึงศาลาประชาคม อำเภอนากลาง ก็มีเจ้าหน้าที่อำเภอ สาธารณสุขและหน่วยงานที่้กี่ยวข้อง จัดระเบียบจุดลงทะเบียนรับศพ แสดงเอกสารให้กับญาติ  ในส่วนของกู้ภัยและอาสาสมัครในจังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภูและพื้นที่ใกล้เคียง ก็ยืนเรียงแถวเตรียมยกศพมาส่งมอบญาติ  แต่เจ้าหน้าที่ปรับระบบใหม่ ไม่นำศพไว้จุดนี้แล้ว แต่กระจายให้ญาติตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ อ.นากลาง แบ่งเป็นสถานที่ตั้งศพ


-วัดศรีอุทัย (11 ศพ)

-วัดราษฎร์สามัคคี (หนองกุงศรี) (19ศพ)

-วัดเทพมงคลพิชัย (6 ศพ)

เจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนย้ายรถนำร่างของผู้เสียชีวิต ไปส่งตามวัดดังกล่าว


 ในช่วงระหว่างรอการดำเนินการนั้น ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้สอบถามกลุ่มชาวบ้าน ญาติๆขอลผู้สูญเสีย ซึ่งมายืนรอรับศพ ต่างแสดงความไม่พอใจ เมื่อรู้ว่าศพของคนก่อเหตุ อยู่รวมกับผู้สูญเสีย รับไม่ได้เพราะการกระทำของผู้ก่อเหตุโหดเหี้ยมและฆ่าเด็กๆ และเพื่อนบ้าน จึงเรียกร้องให้ ไม่ให้นำศพของผู้ก่อเหตุ มาไว้ในพื้นที่ จังหวัดหนองบัวลำภูเด็ดขาด เพราะเป็นการย่ำยีหัวใจของคนสูญเสีย


จากนั้นทีมข่าวสังเกตพบว่า เมื่อรถของมูลนิธิขนศพออกไปจากศาลาประชาคมแล้ว ก็พบว่า มีรถตู้พยาบาลอีก 1 คัน จอดสตาร์ทติดเครื่องอยู่ โดยไม่มีญาติหรือเจ้าหน้าที่ มาติดต่อขอรับ เมื่อสอบถามข้อมูล พบว่า ในรถคันนี้ มีศพของผู้ก่อเหตุ อยู่ในรถ โดยไม่มีญาติหรือใครมาติดต่อรับศพ ต้องจอดทิ้งไว้แบบนี้ กว่า 3 ชั่วโมง

 จากนั้นพบว่า แม่และญาติของ ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับศพ โดยแม่ให้ข้อมูลว่า ไม่รู้จะนำศพไปไว้ที่ไหน หากจะนำไปเผาที่นา แบบกองฟอน (เผาฝืน) ก็ไม่มีนา มีแต่ที่ดิน จึงขอให้กู้ภัยรอก่อน กำลังประสานหาวัดนอกพื้นที่

 กู้ภัยก็สตาร์ทรถจอดรอแบบนั้น บรรยากาศช่วงนี้ คือเงียบเหงาและมีเพียงรถที่ขนศพของผู้ก่อเหตุ จอดอยู่คันเดียว กู้ภัยคนขับรถคันนี้ ก็ไม่รู้จะนำศพไปที่ใด ก็ต้องนั่งรอแบบนี้ไปกว่า 3 ชม.

จากนั้นคุณแม่ของผู้ก่อเหตุแจ้งว่าได้วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี แล้ว กู้ภัยก็เตรียมจะเคลื่อนรถนำศพไปส่ง แต่ปรากฎว่า เคลื่อนรถออกไปเพียงไม่นาน ก็ต้องจอดข้างทาง เนื่องจากทางทีมแพทย์ แจ้งว่า ให้นำศพกลับมาชันสูตรเพิ่มเติมอีกครั้ง ที่แผนกนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี  


กู้ภัยก็ต้องขับรถนำศพผู้ก่อเหตุ ย้อนกลับมาที่แผนกนิติเวช จุดเดิมที่รับศพไปเมื่อช่วงเช้านำศพ กลับเข้าไปที่ห้องชันสูตรเป็นรอบที่ 2


 ซึ่งกรณีที่ชาวบ้านและญาติผู้สูญเสีย ไม่พอใจและไม่ต้องการให้ศพของผู้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่เดียวกันนั้น เกิดกระแสวิพากวิจารณ์อย่างหนัก ทั้งในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู อุดรธานี และในโลกโซเชียล เนื่องจากมองว่าส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจผู้สูญเสีย

------------------------------------------------------------------------------

ชาวบ้านมีมติ ไม่ให้ร่างอดีตตำรวจคลั่งกราดยิง ประกอบพิธีร่วมเหยื่อ พร้อมเผยพฤติการณ์ชอบยิงปืนอยู่เป็นประจำ ด้าน ภรรยา-ลูกเลี้ยง นำร่างประกอบพิธีได้ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

จากกรณีที่ชาวบ้านไม่พอใจ และมีมติไม่ให้ร่างของผู้ก่อเหตุ มาประกอบพิธีทางศาสนาในวัดร่วมกับผู้เสียชีวิตจากน้ำมือของผู้ก่อเหตุ


ปกติแล้ววัดศรีอุทัยจะเป็นวัดประจำหมู่บ้านของ บ้านท่าอุทัยหมู่ 1 กับบ้านท่าอุทัยเหนือหมู่ที่ 12 ซึ่งทั้ง 11 รายส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 2 หมู่บ้านนี้ รวมทั้งผู้ก่อเหตุด้วยเช่นกันที่เป็นคนบ้านท่าอุทัยหมู่ที่ 1 แต่ชาวบ้านมีมติ และไม่ยอมให้นำศพมาประกอบพิธีที่วัดแห่งนี้


โดยชาวบ้านท่าอุทัยทั้ง หมู่1 และหมู่ 12 เผยกับทีมข่าว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกหดหู่เศร้าสลดใจเป็นอย่างมาก มองว่าชั่วมาก ทำได้ยังไง ฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กเล็กๆที่นอนอยู่อย่างไร้เดียงสา มติชาวบ้านจึงรับไม่ได้ที่จะให้เอาศพมาประกอบพิธีที่วัดของหมู่บ้าน รับไม่ได้เลย สะเทือนใจมาก จะเอาศพไปที่ไหนก็ไป

ส่วนศพของภรรยาและลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านอนุญาตให้ประกอบพิธีทางศาสนาในวัดของหมู่บ้านได้ชาวบ้านรับได้เพราะมองว่าไม่รู้เรื่องอะไร

 ชาวบ้านส่วนใหญ่มองว่าสาเหตุเกิดจากยาเสพติด มองว่าผู้ก่อเหตุคลั่งยา แต่ส่วนผลที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่พบสารเสพติด ชาวบ้านบอกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสาเหตุจะเกิดเพราะอะไร

ขณะเดียวกัน ชาวบ้าน ยังเล่าถึง พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุด้วยว่าชอบยิงปืนในหมู่บ้านอยู่เป็นประจำ  แต่ไม่มีการอาละวาดชาวบ้านแต่อย่างใด



รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/E-yraPCt8Hs

คุณอาจสนใจ

Related News