อาชญากรรม

‘แม่แตงโม’ กลัว ‘ปอ’ โกรธ หลัง ‘อัจฉริยะ’ ฟ้องคนบนเรือไม่ขออนุญาต ลั่นมีสมองไม่ได้กินหญ้า

โดย nicharee_m

18 มิ.ย. 2565

9.5K views

‘แม่แตงโม’ เปิดใจหลัง ส.ส.เต้ ถอนตัวดูแลคดี เผยได้ทนายใหม่แล้วค่าจ้าง 100 บาท  โมโห ‘อัจฉริยะ’ ฉกฉวยนำเอกสารมอบอำนาจไปฟ้องคนบนเรือไม่ขออนุญาต ลั่น! ไม่ชอบคนหยาบคายโกหกด่าคนออกทีวีเก่ง “แม่มีสมองไม่ได้กินหญ้ารู้สึกหลงทาง หลงผิด” ยันไม่มีใครเท ต้องการฟ้องแค่ ม.290

จากกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ประกาศขอถอนตัวจากการทำคดีแตงโม 100% ทั้งทีมทนายความ  ทีมที่ปรึกษากฎหมาย ทีมดูแลคุณแม่ ทีมบอดี้การ์ดคุณแม่ โดยระบุว่าเพื่อความสบายใจของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่จะได้มาดูแลคดีนี้อย่างเต็มที่

โดยนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ตอนนี้มีทนายความคนใหม่แล้วคือทนายชนบท ศุภศรี จะเข้ามาทำคดีนี้ต่อ ตนกับ ส.ส.เต้ ไม่ได้โกรธหรือมีปัญหากัน ส.ส.เต้ ดูแลคุณแม่อย่างดี พอ ส.ส.เต้ ถอนตัวก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ จบแยกย้ายกันไป โดย ส.ส.เต้ บอกว่าเหนื่อย แต่ยังห่วงคุณแม่เหมือนเดิม ดูแลห่างๆ แม่ก็ไม่ได้โกรธเป็นสิทธิ์ของเขา ตนก็อยากให้ ส.ส.เต้ พักเพราะจะเปลี่ยนทนาย ไม่ได้เลิกคบกัน แม่มีทนายคนใหม่ก็ต้องปรึกษาทนายคนใหม่มากกว่า

ก่อนหน้าที่ ส.ส.เต้ จะถอนตัวเป็นตัวกลางช่วยแนะนำเรื่องต่างๆ และเป็นตัวกลางระหว่างคุณแม่กับนายอัจฉริยะ โดยเมื่อ 8 โมงเช้า วันที่ 14 มิ.ย. นายอัจฉริยะ โทรมาแจ้งกับ ส.ส.เต้ เพื่อขอถอนตัวโดยไม่บอกเหตุผล คุณแม่เชื่อว่าเหตุผลของนายอัจฉริยะ คือไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรมาแสดง

ในวันเดียวกันก็มีการประชุมกันเรื่องดคีแตงโม ซึ่งนายอัจฉริยะ จะต้องนำเอกสารหลักฐานทางดดีมาแสดง ซึ่งตนก็หวังจะได้เห็นหลักฐาน แต่นายอัจฉริยะไม่มา กลับฉกฉวยเอกสารของคุณแม่ไปทำเรื่องฟ้องร้องกับศาลจังหวัดนนทบุรี เอาผิดกับ 5 คนบนเรือในข้อหาฆาตกรรมอำพราง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณแม่ ไม่ปรึกษาตนกับ ส.ส.เต้  และไปแจ้งความ ส.ส.เต้ ใช้เอกสารเท็จเพิกถอนการฟ้องคดีแตงโม ทุกคนตกใจ นายอัจฉริยะ ทำให้คุณแม่โกรธ กลัว ปอ-ตนุภัทร โกรธ ไปฟ้องเขาโดยไม่บอกเขา เพราะคุณแม่ยังคุยกับปอ ปกติดี

“ยอมรับว่าคุณแม่มอบหมายอำนาจให้นายอัจฉริยะ แต่ไม่เคยยอมรับว่านายอัจฉริยะ เป็นทนายความ ซึ่ง ส.ส.เต้ แต่งตั้งให้เป็นตัวแทนมาช่วยดูคดี แต่คุณแม่ไม่ได้ว่าอะไร คุณแม่ก็มีสมอง ทำแบบนี้กับเราก็ต้องปกป้องตัวเอง ถ้าไปยอมรับเรื่องคดีก็จะเสียหาย นายอัจฉริยะ เที่ยวด่าคนนั้นคนนี้ออกทีวี ด่าอัยการดาว จะให้คุณแม่ยอมรับได้ยังไง คุณแม่คิดเสมอจะต้องเปลี่ยนทนายใหม่ ไม่คิดว่าจะต้องเจอเหตุการณ์ที่จะต้องเปลี่ยนทนาย คนเป็นโจทย์สามารถเปลี่ยนทนายเมื่อไหร่ก็ได้ กี่คนก็ได้ จะจ้างใครใหม่ก็เรื่องของเรา”

นางภนิดา กล่าวอีกว่า “มั่นใจในตัวทนายชนบท น่าจะจ้างตั้งนานแล้ว ไม่ควรไปยอมรับนายอัจฉริยะด้วยซ้ำ โกหกเก่ง ด่าคนก็เก่ง โกหกซึ่งหน้าออกทีวีก็เก่ง แม่ไม่ชอบอัจฉริยะ ไปไหนด้วยกันก็ไปด่าเขา ไม่ชอบคนหยาบคายแบบนี้ จะให้คุณแม่ไปยอมรับได้ยังไง ไม่มีใครเทคุณแม่ และคุณแม่ก็ไม่ได้เทใคร มันเป็นสิทธิ์ของคุณแม่ที่จะเปลี่ยนทนาย ถ้าเราจะโง่ไปจ้างให้เขาว่าความซึ่งไม่ได้เป็นทนาย ก็ต้องแพ้ คุณแม่ก็ต้องหาทางออกด้วยตัวเอง”

คุณแม่ มองทนายชนบทไว้ตั้งแต่วันแรกที่แตงโมตกน้ำแล้ว โดยท่านถามว่า “คุณแม่จ้างผมมั้ยครับ ถ้าคุณแม่จ้างผมคิดแค่ 100 เดียว” คุณแม่จ้างไม่เกี่ยวกับค่าจ้าง 100 บาท แต่ความสามารถของทนายชนบทมีพร้อม มั่นใจที่จะให้เป็นทนายความให้คุณแม่ แต่คุณแม่ดันไปโง่อยู่กับทนายเดชา และนายอัจฉริยะ ไม่ดูให้ละเอียด และตนก็มั่นใจในตัว ส.ส.เต้

ส่วนทนายกฤษณะ เพิ่งเป็นทนายความได้เพียง 2 เดือน แต่มือไม่ถึง คุณแม่กลัวเสียหายจึงเลิกจ้าง กระทั่งมาเจอทนายเดชา ทำงานเก่งแต่ความคิดเห็นของเราไม่ตรงกัน เพราะแม่มองว่าเป็นเรื่องฆาตกรรมเพราะเห็นสภาพศพเชื่อว่าแตงโม ไม่น่าจะตกน้ำธรรมดา จนเปลี่ยนทีมทำงานชุดใหม่ เป็นทีมของ ส.ส.เต้ “ยืนยันไม่กลับไปซบทนายเดชา เป็นเพื่อนกัน ทนายเดชาก็แนะนำถ้ามีอะไรให้โทรมาหาได้ตลอด เราคุยกันเหมือนเพื่อน”

นางภนิดา กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช้คำว่าฆาตกรรม ภาษากฎหมายเรียกว่าทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ถ้าฆาตกรรมต้องมีหลักฐาน ทุกเรื่องต้องมีหลักฐานใช้ทนายความเก่งๆ คุณแม่เป็นโจทย์ไม่ใช่จำเลยสามารถเปลี่ยนทนายได้ ทนายที่คุณแม่เปลี่ยนมีความชำนาญการเก่งมากๆ “คุณแม่รู้สึกหลงทาง หลงผิด คุณแม่ไม่ใช่คนกินหญ้า ไม่ใช่ว่าเห็นคุณแม่เป็นผู้หญิงแล้วจะมาหลอกล่อทำอะไรได้ตามใจ แต่คุณแม่ไม่โกรธ ส.ส.เต้ เพราะดูแลอย่างดี จ้างบอดี้การ์ดให้ พาไปทานข้าวคุยเรื่องคดีให้กำลังใจ ก็ดีใจมีคนปกป้องดูแลคุณแม่”

คุณแม่บอกว่าไม่เหนื่อยที่ให้สัมภาษณ์นักข่าว ขอให้ตนได้พูดความจริง บางครั้งเหมือนโดนปิดกั้นถูกสั่งห้ามพูด ตนเขียนความรู้สึกในใจหลังจากแตงโมตกน้ำ แล้วให้เพื่อนไปโพสต์เฟซบุ๊ก ก็โดนบล็อกเพราะมีข้อความว่า “คุณแม่มิได้ต้องการเป็นคดีกับใคร ชีวิตคุณแม่ชอบความเรียบ ๆ ความสงบ” เขาบอกว่าคุณแม่ไปพิมพ์อย่างนั้นไม่ได้ เพราะนายอัจฉริยะ จะฟ้องคนบนเรือเรื่องฆาตกรรม จะให้คุณแม่ไปเป็นคดีความสั่งฆ่าใครด้วยมาตรานั้นมาตรานี้ คุณแม่ไม่ทำ ซึ่งคุณแม่รู้จักปอกับโรเบิร์ต ทำบุญให้แตงโมตลอด กราบขมาต่อหน้าสื่อ ส่วนกระติกจนถึงวันนี้ไม่เคยขอโทษคุณแม่เลย

ประเด็นว่าคุณแม่ไม่ได้ต่อสู้คดีเพื่อความยุติธรรมให้แตงโม หวังเป็นเรื่องอื่น นางภนิดา กล่าวว่า ไม่เคยคุยเรื่องเงินเยียวยาเลย โดยปอ-ตนุภัทร โทรมาคุยถามสารทุกข์สุขดิบ ไม่เคยไปบอกว่าอยากได้เงิน 30 ล้านบาท จากปอ เขาบอกเพียงจะรับผิดชอบจะดูแลคุณแม่อย่างดี ตอนนี้ตนยังเสียใจอยู่จะไปเรียกเงินเลยเหรอ เขามีเงินให้อยู่แล้วถ้าคุณแม่จะเรียก แต่มันยังไม่ถึงเวลา เพราะยังไม่พร้อมเรื่องทนายความที่จะไปเจรจาด้วย

โดยคุณแม่ต้องการให้มีการฟ้องในมาตรา 290 เขาเป็นคนเรียบร้อยพูดเพราะมีมารยาท ฉะนั้นคุณแม่ทำลาย จะให้ติดคุก 20 ปี หรือประหารชีวิตเพื่ออะไรเป็นบาปต่อตัวเราด้วยจะให้จองเวรจองกรรมกันเหรอ คุณแม่คุยกับปอ แล้วจะไม่ทำร้ายใคร เอาเท่าที่เยียวยาคุณแม่ได้ เขาจะได้กลับไปทำมาหากิน


https://youtu.be/24A0n-zpHwU

คุณอาจสนใจ

Related News