'ทนายตั้ม' เสียใจ ปมกระทบกระทั่งแม่ผู้เสียหาย - เผยมีผู้ใหญ่ 'ช' บอกให้เบาๆ

'ทนายตั้ม' แฉอีก มีผู้ใหญ่ คนดังอักษรย่อ 'ช' เข้าพบครอบครัว ขอให้เบา ๆ คดีอดีตนักการเมืองลวนลามและข่มขืน ขณะที่ผู้เสียหายรายที่ 16 เตรียมแจ้งความวันจันทร์


ยังคงเป็นประเด็นที่ต่อเนื่องกับกรณีของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ  ที่ออกมาเปิดโปงและพาผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี กับอดีตนักการเมืองชื่อดัง จนเป็นข่าวโด่งดัง


วันที่ 23 เม.ย.65 ก็มีประเด็นของผู้เสียหายรายแรก ที่อายุ 18 ปี ถูกลวนลาม เหตุเกิดวันที่ 11 เม.ย. โดยแม่ของผู้เสียหายให้ข้อมูลกับสื่อสำนักหนึ่ง แต่พอสอบถามทนายตั้ม ระบุว่า แม่บอกว่าข้อมูลที่สื่อช่องดังกล่าวนำเสนอบิดเบือน และไม่อยากให้ทนายตั้มเสียกำลังใจ  


ทนายตั้ม เปิดใจกับทีมข่าวว่า ประเด็นกรณีของน้องผู้เสียหายอายุ 18 ปี ตอนนี้ยอมรับว่า ติดต่อยากและไม่ได้ติดต่อกันมาสักระยะแล้ว โดยกระแสข่าวที่ออกมาว่าคุณแม่ไม่พอใจที่ตนไปถ่ายรูปลูกสาวและโพสต์เฟซบุ๊กนั้น ขอยืนยันว่าแจ้งให้ทราบแล้วก่อนถ่าย ก่อนโพสต์ แต่พอโพสต์แล้วเป็นกระแส เป็นข่าวดัง จะขอให้ตนลบ ตนไม่ลบเพราะลบไปส่งผลกระทบหลายด้านและการถ่ายภาพและข้อความก็ไม่ได้ละเมิดน้องผู้เสียหาย


หลังเป็นประเด็นกับคุณแม่ที่ให้ข้อมูลกับสื่อบางสำนัก นั้นก็ไม่ได้คุยโทรศัพท์หรือไลน์กับคุณแม่อีก ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามรูปคดี ซึ่งหากคุณแม่มีทนายส่วนตัว ตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไร เพราะคดีนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว เหลือในขั้นตอนของการส่งสำนวน


ส่วนคดีของผู้เสียหายอีก 14 ราย ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะไม่มีรายใดถอนตัวระหว่างทาง ยอมรับว่าเกิดความกังวลใจในช่วงรอระหว่างสรุปสำนวนส่งอัยการ เวลานานก็อาจทำให้ผู้เสียหายบางรายเปลี่ยนใจได้


ส่วนผู้เสียหายคดีนี้ รวมแล้ว 15 ราย และมีรายล่าสุด รายที่ 16 อยู่ทางภาคใต้ ซึ่งขอปรึกษาก่อนว่าจะเข้ามา กทม.เพื่อแจ้งความ ในวันจันทร์ที่ 25 เม.ย. หรือไม่ โดยกรณีรายที่ 16 นี้ก็ถูกลวนลาม หลังจากจบงานเสวนา


ส่วนกรณี ทนายเดชา ระบุว่า คดีข่มขืน ผู้เสียหายที่แจ้งความ อาจจะเข้าข่ายเป็นการสมยอม  


ทนายตั้ม ระบุว่า ก็มีในส่วนของผู้เสียหายรายที่ 6 ที่ยอมรับว่า ครั้งแรกถูกนักการเมืองคนนี้ข่มขืนจริง และต่อมามีการนัดพบกันอีก และมีการรับข้อเสนอจากฝ่ายชาย ซึ่งรายนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะแจ้งความ หรือเป็นพยานเพราะช่วงที่ก่อเหตุ ครั้งแรกผู้เสียหายไม่ได้ยินยอม


หรือจะเป็นกรณีของน้องรายแรก อายุ 18 ปีที่อาจจะนำแชท หลังเกิดเหตุ ที่มีการสนทนากับคุณแม่และนักการเมือง ในลักษณะขอบคุณ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนที่จะรู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีนี้ทนายตั้ม ไม่ได้กังวลใจเพราะข้อมูลเปิดเผยผ่านสื่อไปหมดแล้ว


ส่วนการสอบปากคำผู้เสียหายที่ทยอยเข้าแจ้งความ ตำรวจก็โทรมาสอบถามว่า จะมีผู้เสียหายรายใหม่มาเพิ่มหรือไม่ ตนก็ตอบไม่ได้ และตำรวจก็ต้องมาสอบปากคำตนในฐานะพยานคดีของน้องรายแรกด้วย และผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่แจ้งความ ก็คาดว่าน่าจะคืบหน้าไปมาก ซึ่งหากเสร็จสิ้นก็ต้องมีการเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อหาเพิ่ม


ตนตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้ตำรวจทำงานเร็ว แต่ไม่เข้าใจว่าการที่จะออกหมายจับต้องแจ้งล่วงหน้า รอบที่แล้วก็บอกก่อน 1 วัน รอบนี้มาบอกเป็นอาทิตย์ หากเปรียบเทียบคดีอื่น ๆ ไม่มีใครมาบอกผู้ต้องหาล่วงหน้าแบบนี้


ซึ่งการออกมาเดินหน้าพาผู้เสียหายแจ้งความครั้งนี้ ทนายตั้มยอมรับว่าเกิดผลกระทบแล้ว โดยก่อนหน้านี้ เคยมีผู้ใหญ่มาเตือนว่า ให้ระวังพรรคสวนกลับ และมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง ล่าสุดทนายตั้มบอกว่า มีผู้ใหญ่ที่เคารพมาก และรู้จักกับพ่อของตน และรู้จักกับพรรคการเมืองนี้ เรียกว่า คุณอาชอช้าง 'ช' ซึ่งเข้าหาคุณพ่อของตน และบอกว่าให้เบา ๆ


"ที่ไปเล่นงานทำให้เขาเดือดร้อนกันทั้งพรรคแบบนี้ จะไม่เอาใครไว้เลยหรอ พร้อมบอกอีกว่าอย่าเดินเกมหนักเดียวจะโดนโต้กลับทางการเมือง"


ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะทำตามกฎหมายและมีผู้เสียหายจริง ตอนนี้กระแสตีกลับเข้าหาครอบครัวเพื่อให้ตนยุติการเดินหน้าเอาผิดอดีตนักการเมืองรายนี้


ส่วนตัวเชื่อว่า คดีนี้เริ่มเริ่มมีเกมการเมือง มีการทำงานเป็นระบบ และเชื่อว่ามีสื่อบางช่องรับงานจากพรรคการเมืองเพื่อหาประเด็นในคดีมาโจมตีตน เพราะตนเป็นคนที่ออกมาเปิดประเด็นในคดีนี้ เป็นหัวหมู่ในการดำเนินการเอาผิดกับนักการเมืองรายนี้ที่อยู่ในพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง ซึ่งทำให้พรรคเขาได้รับความเสียหายคะแนนนิยมตก


เขาจึงต้องทำลายความน่าเชื่อถือของผม โดยการสร้างประเด็นออกข่าวมาดิสเครดิตผม อาทิประเด็นที่มีสื่อช่องหนึ่งออกข่าวว่าครอบครัวของเหยื่อวัย 18 ปี ไม่ได้ตั้งผมเป็นทนาย ซึ่งผมก็อยากตั้งคำถามกลับว่าถ้าไม่ตั้งแล้วโทรมาทำไมตั้งแต่แรก ซึ่งผมมองว่าเป็นการรับงานจากพรรคการเมืองบางพรรคอย่างแน่นอน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Tditncxz9dw