'อ.อ๊อด' เผยคดีแตงโม พิรุธมหาศาล เชื่อเครื่องจับเท็จช่วยได้ - ของเหลวนัยน์ตาแตงโม มีประโยชน์ต่อรูปคดี

#คดีแตงโม รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า คราบปัสสาวะสามารถตรวจพบได้ด้วยวิธีนำตัวอย่างที่สงสัยว่าจะมีคราบปัสสาวะติดอยู่ เช่น ชุดชั้นใน หรือแผ่นอนามัย ไปสกัดหาโปรตีน หรือยูเรีย หรือดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจหาคราบปัสสาวะได้จากพื้นที่บนเรือ หรืออีกจุดหนึ่งที่จะตรวจได้คือ ภายในตัวผู้เสียชีวิต


ซึ่งผลการตรวจพบว่ากระเพาะปัสสาวะเริ่มเน่า ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน การเก็บตัวอย่างกรณีนี้ถือว่ายากลำบาก เพราะเป็นการจมน้ำ ทำให้แผ่นอนามัย กางเกงใน หรือบอดี้สูท โดนกระแสน้ำพัดพาสารเคมีหลุดไปได้ แต่อาจจะไม่หลุดไปทั้งหมด ซึ่งนักนิติวิทยาศาสตร์อาจต้องสกัดตัวอย่าง เช่น บอดี้สูทที่อยู่ใกล้อวัยวะเพศมาตรวจสอบคราบปัสสาวะอย่างละเอียด


หากพยายามจนถึงที่สุดยังไม่สามารถตรวจพบคราบปัสสาวะได้ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับข้อเท็จจริงจากปากของพยานในเรือที่เห็นแตงโมเป็นคนสุดท้าย คือ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ว่าแตงโมปัสสาวะท้ายเรือจริง


รศ.ดร.วีรชัย กล่าวอีกว่า คดีเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง ในคดีฆาตกรรมผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ที่ใช้เทคนิคตรวจพบคราบเลือดบนพรมจนนำไปสู่การค้นหาคราบเลือดในท่อระบายน้ำ กลายเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางจริง และสิ่งที่ควรติดตามก่อนการหาคราบปัสสาวะก็คือ คราบเลือดที่อาจอยู่บนเรือเพื่อตอบสมมติฐานที่ว่าบาดแผลเกิดก่อนการจมน้ำเสียชีวิตหรือไม่ และหากไม่มีคราบเลือดบนเรือเลยมูลเหตุจูงใจในเรื่องฆาตกรรมแฝงก็จะหายไป ประเด็นต่อมาหากพยานบอกว่าแตงโมไปปัสสาวะก็ต้องตรวจหาหลักฐานอื่น เช่น ลายนิ้วมือ แตงโม ที่จับท้ายเรือว่ามีจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่เจอก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าแตงโมปัสสาวะจริง


รศ.ดร.วีรชัย กล่าวว่า เชื่อว่าเครื่องจับเท็จจะช่วยได้ เพราะถ้าโกหก หัวใจจะเต้นเร็ว ความดันจะขึ้น และบอกว่า ถ้าตนเป็นหัวหน้าคณะสอบสวน จะนำแซนเข้าเครื่องจับเท็จ และซักกรณีว่าแตงโมปัสสาวะท้ายเรือจริงหรือไม่ ถ้าโกหกเครื่องจับเท็จจะบอกทันที และยกตัวอย่างคดีหม่อมลูกปลา ว่าเครื่องจับเท็จก็ถูกนำมาใช้ได้ผลเช่นเดียวกัน


พร้อมตั้งข้อสังเกตคดีนี้ ถ้าเป็นปกติหลังเพื่อนตกน้ำ ทุกคนต้องอยู่รอจนเหตุการณ์ยุติที่สถานีตำรวจ ไม่ใช่ไปเตรียมการนัดแนะกันเช่นนั้น มีการนำเรือไปเก็บทำลายหลักฐาน จึงน่าจะมีการโกหกกันอยู่ สิ่งสุดท้ายที่จะยืนยันได้คือเครื่องจับเท็จเท่านั้น พร้อมบอกว่า ไม่รู้ว่าคราบปัสสาวะที่บริเวณช่องคลอดนิติเวชจะส่งตรวจหรือไม่ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เนื้อเยื่อในท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ น่าจะตรวจได้ว่ายังมีคราบของโปรตีน หรือไข่ขาว อธิบายได้ว่าผ่านการปัสสาวะมาจริง แต่ไม่รู้ปัสสาวะช่วงไหน คดีนี้มีพิรุธมหาศาล เครื่องจับเท็จจะช่วยได้ ซึ่งถ้าสาวไปไม่ถึงประเด็นฆาตกรรมก็อาจจะเหลือเพียงประเด็นเดียวคือ อุบัติเหตุ


ส่วนกระแสข่าวเรื่องการตรวจเลือดในดวงตาแตงโม ซึ่งจะเป็นหลักฐานเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตายของแตงโม ตามรายงานการชันสูตรศพของแตงโม ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ที่แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับทีมข่าว พบว่า ในนัยน์ตาของแตงโม มีของเหลวชนิดหนึ่ง ที่มีประโยชน์ต่อการรูปคดี เพราะร่างกายของแตงโมอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน แพทย์จึงไม่สามารถที่จะตรวจเลือดในร่างกายเพื่อหาแอลกอฮอล์ได้


แพทย์นิติเวชจึงมีการตรวจของเหลวในนัยน์ตา เพื่อไปตรวจสอบซึ่งการที่ได้ค่าแอลกอฮอล์นี้ ซึ่งเป็นเพียงหลักฐานหนึ่งที่ใช้ประกอบเท่านั้น ยังมีหลักฐานแวดล้อมอีกจำนวนมาก ที่ตำรวจจะรวบรวมเข้าในสำนวน


ส่วนเหตุผลที่ต้องตรวจหาแอลกอฮอล์ เพื่อจะได้ผลยืนยันว่า เหตุการณ์ในเรือ มีการดื่มกันไปมากน้อยเพียงใด เพื่อมาเปรียบเทียบกับคำให้การของคนบนเรือทั้ง 5 คน


โดยก่อนหน้านี้ คำให้การของ ปอ ระบุว่า ในเรือมีการดื่มไวน์กันจริง แต่ไม่ได้ดื่มมาก และก็ยังมีภาพแตงโม ดื่มไวน์ในเรือด้วย แต่ในการตรวจสอบว่าตรงกับคำให้การหรือไม่นั้น พบว่า การตรวจแอลกอฮอล์ในปัสสาวะของคนบนเรือหลังเกิดเหตุ ปล่อยเวลาไปเนิ่นนาน จึงไม่สามารถตรวจในปัสสาวะได้ และต่อมาก็มีการตรวจเลือด แต่ก็ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์  อีกทั้งมี 2 คนที่ไม่ยอมให้ตรวจเลือดด้วย


และยังมีการทิ้งขวดไวน์ แก้วไวน์ หลักฐานการดื่มลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตำรวจน้ำได้งมค้นหาจนพบหลักฐาน รวมถึงการตรวจสอบแอลกอฮอล์ที่บ้านของนายโรเบิร์ต ด้วย


พนักงานสอบสวนจำเป็นต้องหาข้อมูลจุดนี้ เพื่อยืนยันว่าในเรือ มีการดื่มแอลกอฮอล์ มากน้อยเพียงใด เพราะหากดื่มปริมาณมาก แล้วเกิดเหตุการณ์แตงโมตกเรือ ก็อาจจะส่งผลต่อการพิจารณาคดีได้


ตามรายงานล่าสุด ยังไม่ปรากฏผลการตรวจนัยน์ตาแตงโม ว่าพบปริมาณแอลกอฮอล์ปริมาณเท่าใด แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยไขปริศนาเรื่องนี้

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Wu10jrHtV5c