อาชญากรรม

ตร.เร่งรวมหลักฐาน จ่อออกหมายจับ 4 ผตห. วางแผนยิง 'เสี่ยต้น' คลี่ปมดับปริศนา

โดย panwilai_c

30 พ.ค. 2567

196 views

ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของเสี่ยต้น เจ้าของร้านนวดแผนไทย ที่เสียชีวิตปริศนาที่บ้านของภรรยา ในจังหวัดมหาสารคาม ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 4 คน



กรณีนาย พิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย โดนลอบยิงเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ริมถนนเลียบทางด่วนรามอินทราแต่รอดไปได้ ก่อนจะไปนอนเสียชีวิตปริศนาที่บ้านภรรยาในจังหวัดมหาสารคาม เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน คดีนี้พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงมาดูคดีด้วยตัวเอง พร้อมยืนยันว่า ทั้ง 2 เหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกัน



ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดตามหามือปืน พบว่า 4 ทุ่ม 4 นาที วันที่ 8 เมษายน คนร้าย 2 คน ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ออกมาจากซอยรามอินทรา 62 ก่อนเลี้ยวซ้ายไปถนนรามอินทรา มุ่งหน้าเลียบทางด่วนรามอินทรา



คนร้ายมีมอเตอร์ไซต์มาซุ่มดูเสี่ยต้นอยู่แถวถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งเป็นเส้นทางที่เสี่ยต้นต้องใช้เดินทางกลับ ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซต์ไปเติมน้ำมัน



จากนั้น 5 ทุ่ม 23 นาที คนร้ายไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งคนขี่มอเตอร์ไซต์ใส่เสื้อไรเดอร์สีส้ม สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ส่วนคนซ้อน คือ มือปืน สวมเสื้อคลุมเเขนยาวสีดำ แต่ไม่ได้สวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้าตั้งแต่ต้นทาง นอกจากนี้ยังพบว่า มือปืนมีการถือโทรศัพท์ในลักษณะติดต่อกับใครอยู่ตลอดเวลา



กล้องวงจรปิดที่สถานบันเทิงเลียบด่วนรามอินทรา บันทึกภาพตอน 4 ทุ่ม 32 นาที ซึ่ง จริงๆ เป็นเวลา 5 ทุ่ม 32 เนื่องจากกล้องช้ากว่าเวลาจริง 1 ชั่วโมง จับภาพขณะเสี่ยต้นในชุดเสื้อโปโลแขนสั้น กางเกงขาสั้น เดินออกจากสถานบันเทิง ไปขึ้นรถตู้อัลพาร์ทสีดำ ก่อนจะขับออกไปถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวไม่มีท่าทีระแวงว่าจะโดนลอบทำร้าย



และพอขับออกไปได้ไม่ถึง 1 นาที จากนั้น 5 ทุ่ม 33 นาที คนร้ายขี่มอเตอร์ไซต์ตามไปประกบยิงรถตู้อัลพาร์ทสีดำของเสี่ยต้น ซึ่งขณะนั้นกำลังขี่เข้าช่องทางด่วน ถึง 4 นัด กระสุนเข้าที่กระจังหน้ารถ 1 นัด ประคูฝั่งซ้าย 2 นัด และกระจกซ้าย 1 นัด ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป



หลังก่อเหตุ กล้องวงจรปิดจับภาพได้อีกทีตอน 5 ทุ่ม 50 นาที คนร้าย 2 คน ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ย้อนศร มาบนถนนรามอินทรา ก่อนเลี้ยวขวากลับเข้าไปในซอยรามอินทรา 62 ซึ่งหลังก่อเหตุสังเกตเห็นว่า คนร้ายที่เป็นคนขับ ได้ถอดเสื้อคลุมสีส้มที่เป็นเสื้อไรเดอร์ออก แต่ยังใส่หมวกกันน็อคเต็มใบเช่นเดิม ส่วนมือปืน ก็ได้ถอดเสื้อคลุมสีดำออก เพื่อเป็นการอำพรางตัวขณะหลบหนี



พันตำรวจเอกเจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยข้อมูลว่า ตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับในวันนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ทั้งกลุ่มพนักงานในโรงเรียนสอนตัดผม โรงเรียนสอนนวดสปา และธุรกิจโรงไม้ เพื่อดูในเรื่องความเป็นอยู่ และความสัมพันธ์ของเสี่ยต้นและภรรยา



ทีมข่าวไปพูดคุยกับ "เจ" น้องสาวของ "เสี่ยต้น" บอกว่าดีใจที่คดีเริ่มจะสิ้นสุด และได้ข้อสรุปแล้ว ขอบคุณทั้งตำรวจ สื่อมวลชน รวมถึงคนที่เข้ามาให้กำลังใจ ซึ่งความชัดเจนในตอนนี้ต้องรอตำรวจสรุปความเชื่อมโยงระหว่างที่ สน.วังทองหลาง และ สภ.ยางสีสุราช ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ส่วนประเด็นเรื่องที่พี่ชายกับพี่สะใภ้มีความขัดแย้ง หรือมีจุดแตกหักกันนั้นต้องรอความชัดเจนจากตำรวจ ไม่ขอลงรายละเอียดเรื่องนี้เพราะเกรงว่าจะกระทบกับสำนวนคดี รวมถึงไม่ขอระบุรายละเอียดในวันที่พี่ชายกำลังจะเดินทางไปที่บ้านของพี่สะใภ้ ที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเรื่องนี้ตำรวจได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องไปทั้งหมดแล้ว รวมถึงได้ตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปด้วย



ฝากไปถึงกลุ่มผู้จ้างวานซึ่งตอนนี้มีอย่างน้อย 2 คน ว่า "กฎแห่งกรรมมีจริง" ซึ่งหากเป็นบุคคลใกล้ชิดที่ตัวเองมีคำตอบอยู่ในใจแล้วพอจะรู้สาเหตุแต่ขอไม่ระบุขอให้ตำรวจตำรวจเป็นผู้สรุปเอง พร้อมย้ำว่า "หากระบุปมสาเหตุไปก็สามารถเชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่บงการฆ่าพี่ชายได้"



ช่วงบ่ายวันนี้ทนายความของภรรยาของเสี่ยต้น ได้รับมอบหมายให้พาลูก ทั้ง 3 คน ของเธอและเสี่ยต้น มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ โดยเมื่อสอบถามทนายความว่า มาสอบในประเด็นอะไร ก็ขอยังให้ข้อมูลใด ๆ และขอให้ไม่บันทึกภาพลูกทั้ง 3 คนเพราะเป็นเยาวชน พร้อมกับบอกว่าจะให้ข้อมูลหลังสอบปากคำ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/de1X7eCRwW8

คุณอาจสนใจ