ออกหมายจับ 'เจษฎา' เมีย 'เอ็ม' แจ้ง 5 ข้อหา หลังผลดีเอ็นเอมัดตัว ตรงกัน 2 ศพ

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยันขออนุมัติศาลออกหมายจับนางสาวเจษฎา ซึ่งเป็นเมียของเอ็มเพิ่ม หลังดีเอนเอ 2 ศพทารกที่ถูกทิ้งที่ย่านจตุจักร ระบุชัดเป็นพ่อแม่ลูกกัน ส่วนผลการตรวจกระดูกมนุษย์ที่พบในย่านสายไหม จะทราบผลในสัปดาห์หน้า



พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่นายเอ็ม ร่วมกับนางสาวจุ๋ม ก่อเหตุฆาตกรรมลูกอายุ 2 ขวบ แล้วนำร่างไปฝังดินโบกปูนทับที่จังหวัดกำแพงเพชร



นอกจากนี้จากการสืบสวนยังพบว่านายเอ็ม ยังร่วมกับนางสาวเจษฎา ซึ่งเป็นภรรยาอีกคน ก่อเหตุฆาตกรรมลูกชายถึง 4 ศพ โดยเอาศพไปทิ้งที่ในพื้นที่ สน.บางซื่อ 2 ศพ และ สน.สายไหมอีก 2 ศพ



โดยพลตำรวจตรีนพศิลป์ เปิดเผยถึงในคดีที่นายเอ็มฆาตกรรมลูกชาย 2 ศพร่วมกับนางสาวเจษฎา แล้วนำศพไปทิ้งที่ย่านจตุจักร ในพื้นที่ สน.บางซื่อ เมื่อปี 2556 และปี 2557 ว่าคำให้การรับสารภาพของทั้งสองคนเป็นความจริง



โดยพนักงานสอบสวนจะนำพยานหลักฐานและผลการตรวจดีเอนเอ ของทารกทั้ง 2 ศพที่พบก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่าดีเอนเอของทารกทั้ง 2 ศพเข้ากันกับของนายเอ็มและนางสาวเจษฎา ซึ่งทำให้ยืนยันได้ว่าทั้งสองคนเป็นพ่อและแม่ของทารกทั้ง 2 ศพที่พบ เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับทั้ง 2 คนในวันนี้



โดยดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย / ร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน / ช่วยกันซ่อนเร้นอำพรางศพ / และข้อหาทำลายศพที่ต้องชันสูตรพลิกศพ



ทั้งนี้ผลการชันสูตรพบว่าเด็กทารกเพศชายอายุ 10 เดือน ที่พบเมื่อวันที่10 ตุลาคม 2556 เสียชีวิตจากภาวะระบบหายใจล้มเหลว ส่วนเด็กทารกเพศชาย อายุ 2 เดือน ที่พบศพเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 เสียชีวิตเนื่องจากศีรษะแตก



พลตำรวจตรีนพศิลป์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงผลตรวจค้นพี่พักทั้ง 4 จุดของนายเอ็มเมื่อวานนี้ว่า ที่แมนชั่นภายในซอยพหลโยธิน 71 พบตู้ทีวีอยู่ภายในห้อง ซึ่งหลังจากได้นำรูปตู้ทีวีไปให้นางสาวเจษฎาตรวจสอบ ซึ่งตู้วางทีวีถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ ที่นางเจษฎาให้การว่า หลังจากที่นายเอ็มทำร้ายลูกแล้วได้เอาลูกไปขังไว้ในตู้จนทำให้ลูกเสียชีวิต เมื่อปี 2557



ส่วนลูกอีกคนซึ่งไม่สบายนางสาวได้เอาผ้าอุดปากไว้แล้วเอาไปขังไว้ในตู้ทีวี และลูกก็เสียชีวิตเหตุเกิดเมื่อปี 2561



โดยนางสาวเจษฎาระบุว่า ตู้ทีวีดังกล่าวเป็นตู้ใหม่ เนื่องจากตู้ทีวีเดิมเป็นตู้แนวนอนเรียงกันมีกระจก 3 ตอน แต่ตู้ทีวีที่ตรวจพบเมื่อวานนี้เป็นตู้ทีวีแบบแนวตั้งสูง จึงเป็นคนละตู้ที่ใช้ในการก่อเหตุฆาตกรรมลูกชาย ส่วนตู้เก่าใบนั้นไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหนแล้ว



ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวนว่า พฤติการณ์ของนายเอ็มทั้งหมดนั้น มีเจตนาถึงการฆ่าผู้อื่นหรือไม่



นอกจากนี้ตำรวจยังได้นำตัวนางสาวเจษฎาไปตรวจร่างกายเพื่อดูสภาพบาดแผลตามร่างกายว่าตรงกับที่ให้การก่อนหน้านี้ว่าถูกนายเอ็มทำร้ายหรือไม่ รวมถึงได้นำตัวนางสาวเจษฎาไปตรวจเกี่ยวกับสภาพจิตใจด้วย



ส่วนประเด็นที่นายเอ็มโพสต์ภาพรูปของลูกสาวอายุ 4 ขวบ ประกาศเรี่ยไรหาเงินจากผู้ใจบุญ โดยบอกว่าเด็กปากแหว่ง เพดานโหว่ ตาบอด โดยใช้บัญชีของนางสาวเจษฎาเป็นผู้รับบริจาคนั้น จากการสอบปากคำนางสาวเจษฎา ยืนยันว่า ในช่วงปี 2564 ถึง 2565 เด็กหญิงอายุ 4 ขวบรายนี้ยังมีอาการปกติ



แต่ตอนปี 2566 ช่วงที่นายเอ็มนำน้องมาฝาก มีสภาพร่างกายเป็นปากแหว่งแล้ว อ้างว่าเนื่องจากเป็นเชื้อรา ทางฝั่งของเจษฎาก็ไปหายาม่วงมาทา โดยหลังจากนี้จะต้องไปตรวจสอบประวัติที่โรงพยาบาล และสอบปากคำบรรดาญาติอย่างละเอียด เพื่อดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ต่อไป



ส่วนการตรวจสอบบัญชีที่รับบริจาค พบว่าตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีเงินโอนเข้ามา 17 รายการ รวมยอดเงินประมาณ 3,500 บาท ซึ่งยอดที่โอนส่วนใหญ่จะเป็น 7 บาท และ 100 บาท // โดยมียอดที่โอนมาครั้งเดียวมากสุดคือ 1,500 บาท ซึ่งนางสาวเจษฎาบอกว่านำเงินไปใช้จ่าย



ขณะที่พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า แม้ผลตรวจดีเอนเอของศพทารกเพศชาย 2 ศพที่ สน.บางซื่อ จะยืนยันว่าดีเอนเอตรงกับนายเอ็มและนางสาวเจษฎา



แต่ตำรวจก็ต้องรอผลการตรวจดีเอนเอของกระดูกที่พบที่ย่านสายไหม ซึ่งเป็นจุดที่นางสาวเจษฎา ได้บอกว่าเอาศพลูกชายอีก 2 คนไปทิ้งที่ย่านสายไหม ซึ่งหากพบว่าดีเอนเอตรงกันหมด พนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาเปลี่ยนข้อหาผู้ที่เกี่ยวข้องจากทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเป็นร่วมกันฆ่าผู้อื่น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dEMcsbLl3X8