อาชญากรรม

‘ดีเอสไอ’ แจงการยึดรถ 'แอสตัน มาร์ติน' เชื่อ ‘ปราปต์ปฎล’ รู้ที่มาของรถ

โดย attayuth_b

8 มี.ค. 2566

154 views

DSI แจง ปมยึดรถแอสตันมาร์ติน มูลค่า 20 ล้านของ "กู๋กี๋" เชื่อ "ปราปต์ปฎล" รู้ที่มาของรถ เพราะเคยเสนอขายเพื่อนเจ้าของบ้านที่ราชบุรีขณะฝากจอด และยังบอกว่ารถไม่มีทะเบียน จดทะเบียนไม่ได้


หลังจากเมื่อวานนี้ นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดง ยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าคดีฟอกเงินของตัวเองต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกล่าวพาดพิงถึงนายพงษธร อินอำนวย หรือ ผอ.เค ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่องการบุกเข้าคอนโดมิเนียมของสาว LGBTQ ซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.ภคมน สีลุน หรือ กู๋กี๋ แฟนสาวของเขา และตรวจยึดทรัพย์สินภายในห้องพักโดยไม่มีหมายค้นจากศาล รวมถึงยึดรถยนต์หรู แอสตันมาร์ติน ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี หลังจากนาย ปราปต์ปฎล อ้างว่าขับไปฝากจอดหนีน้ำท่วม และหนีเพื่อนสาวLGBTQ ซึ่งถือว่านาย พงษธร ตรวจยึดรายการทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย


เมื่อทีมข่าวสอบถามไปยัง นายพงษธร ได้ชี้แจงว่า รถแอสตันมาตินคันนี้ถูกซื้อมาในชื่อของ นายอภรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหารฟอร์เร็ก 3ดี ที่ตอนนี้เป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ด้วยเงินสดในราคา 20 ล้าน แล้วให้ กู๋กี๋ อดีตภรรยาเป็นคนนำไปใช้ จากนั้นเมื่อทั้ง 2 คนเลิกกัน รถคันนี้กู๋กี๋ได้นำมาด้วย พร้อมทรัพย์สินบางส่วนที่นำไปฝากไว้ที่ห้องเพื่อนสาว LGBTQ ต่อมาให้นาย ปราปต์ปฎล แฟนหนุ่มนำไปจอดไว้ที่บ้านเพื่อนที่จังหวัดราชบุรี กระทั่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเจอและอายัดกลับมา เพราะรถคันนี้เป็นชื่อของ นาย อภิรักษ์ ผู้ต้องหาในคดี ดังนั้นรถคันนี้จึงตกอยู่ในสถานะของกลางที่ต้องถูกยึดอายัด


นายพงษธร ยังบอกถึงสาเหตุที่ทำให้เจอรถคันนี้ว่า ตั้งแต่วันที่เขาตรวจยึดทรัพย์สินของ นาย อภิรักษ์ เจ้าหน้าที่หารถคันนี้ไม่พบ กระทั่งเพื่อนสาว LGBTQ ของ กู๋กี๋ ส่งทนายมาติดต่อ แจ้งว่าทรัพย์สินของกู๋กี๋ที่ย้ายออกมาจากบ้านนาย อภิรักษ์ อยู่ที่คอนโดมิเนียมของเธอ ขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เพราะเกรงว่าอาจจะเป็นของกลางและทำให้เธอโดนหางเลขไปด้วย และนี่คือสาเหตุที่ไม่ต้องมีหมายค้น เพราะเป็นห้องของสาว LGBTQ ที่มีชื่อเป็นเจ้าของห้องและอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเอง


เมื่อเข้าไปภายในห้องสาว LGBTQ นำกระเป๋าเดินทางที่กู๋กี๋นำมาฝากไว้มาให้เจ้าหน้าที่ และบอกว่ายังไม่ได้เปิด เจ้าหน้าที่จึงขอให้เปิดและนำของในกระเป๋าออกมาบันทึกภาพ เพื่อทำบันทึกรายการทรัพย์สิน และให้เซ็นกำกับว่าเจ้าหน้าที่ยึดเพื่อนำส่งให้พนักงานสอบสวน ซึ่งในกระเป๋ามี "กุญแจรถแอสตันมาร์ติน" ซึ่งสาว LGBTQ บอกว่า เป็นรถของ กู๋กี๋ ที่นายปราปต์ปฎลนำไปจอดไว้ที่ต่างจังหวัด จึงแกะรอยจากจีพีเอส จนตามไปเจอว่าจอดอยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี เมื่อเรียกเจ้าของบ้านมาสอบถาม ก็บอกว่านาย ปราปต์ปฎล นำรถมาฝากจอดที่นี่ 2 รอบแล้ว โดยบอกว่าเป็นรถของ แฟนสาวที่ชื่อ กู๋กี๋ และนาย ปราปต์ปฎล ยังเคยถามขายรถคันนี้กับเพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้านที่ราชบุรีด้วย เมื่อเพื่อนถามว่าทะเบียนรถอยู่ไหน นาย ปราปต์ปฎล ก็บอกว่า "ทะเบียนไม่มี รถจดทะเบียนไม่ได้"


ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ยึดรถคันดังกล่าว ทำให้นาย ปราปต์ปฎล ไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร ว่า เขา บุกเข้าคอนโดมิเนียม ตรวจยึดทรัพย์สินต่าง ๆ และเข้าไปยึดรถแอสตันมาร์ตินโดยมิชอบด้วยกฏหมาย และร้องเรียนมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน จากนั้นได้นำหลักฐานไปแสดงกับตำรวจ สน.สุทธิสาร และคณะกรรมการ จึงไม่ถูกแจ้งข้อหาหรือถูกลงโทษ รวมไปถึงอัยการก็สั่งไม่ฟ้อง เพราะของทุกชิ้นเป็นของกลางจริงๆ


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายปราปต์ปฎล รู้หรือไม่ว่า รถแอสตันมาร์ติน คันนี้ เป็นหนึ่งในรายการทรัพย์สินจากคดี Forex-3D นาย พงษธร ระบุว่า ในวันที่แชร์ Forex-3D ล้ม ประชาชนทราบกันทั่วประเทศ และกู๋กี๋กับนาย ปราปต์ปฎลเคยคบกันมา ก่อนที่กู๋กี๋จะไปแต่งงานกับนาย อภิรักษ์ หลังจากแต่งงานกับนาย อภิรักษ์ กู๋กี๋ก็มีรถแอสตันมาร์ตินทันที พอแชร์ Forex-3D ล้ม รถคันนี้ก็จดทะเบียนไม่ได้มาสองปีกว่า และยังเสนอขายรถให้เพื่อน นายพงศธร จึงตั้งคำถามว่า แล้วแบบนี้ นาย ปราปต์ปฎล จะไม่ทราบที่มาของรถแอสตันมาร์ตินได้อย่างไร



รับชมทางยูทูปที่ :  https://youtu.be/IBkbP_8qo3Y

คุณอาจสนใจ

Related News