'เสี่ยยศ' น้ำตาคลอ ลั่น!! ผมรักลูก ต้องดิ้นช่วยลูก สายหน้า! ปัดเป็นเจ้าของผับ

"เสี่ยยศ" น้ำตาคลอ ลั่น!! ผมรักลูกผมยังไงผมก็ต้องดิ้น ไปหาเงินมาช่วยเยียวยาผู้เสียหาย ยอมรับตกใจถูกออกหมายจับ จึงรีบเข้ามามอบตัวตำรวจ เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน พร้อมส่ายหน้า ปฏิเสธไม่ใช่เจ้าของ เมาน์เทนบี


นายสมยศ ปั้นประสงค์ หรือเสี่ยยศ เดินทางมาแสดงตัวกับตำรวจ สภ. พลูตาหลวง จังหวัดชลบุรี ตำรวจจึงทำการจับกุมตัว ตามหมายจับ โดยเสี่ยยศมีสีหน้าเรียบเฉย เจ้าหน้าที่สอบสวนนานกว่า 20 นาที จากนั้นจึงคุมตัวมาที่ห้องสอบสวนชั้น 1 เพื่อสอบปากคำและทำบันทึกจับกุม


จนกระทั่ง เวลา 15.00น. ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง คุมตัว เสี่ยยศออกจากห้องสอบสวน เพื่อเตรียมคุมตัวไปค้นที่บ้านพัก หาหลักฐานเพิ่มเติม


ระหว่างนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเสี่ยยศ ว่าที่หายไปเพราะหลบหนีหรือไม่ เสี่ยยศตอบว่า ตนไปธุระที่ต่างจังหวัดมา เมื่อถามว่าไปหาเงินมาเยียวยาผู้เสียหายหรืงไม่ ตอบว่าใช่ แลส่วนการเยียวยา ต้องค่อยเป็นค่อยไป และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกตกใจหรือไม่ที่ถูกออกหมายจับ เสี่ยยศก็เริ่มน้ำตาคลอ บอกว่า "ตกใจ จึงรีบมา ทั้งชีวิตก็ไม่เคยเจอ ผมก็รักลูกผม ยังไงผมก็ต้องดิ้น"


เมื่อถามว่า เป็นเจ้าของกิจการเม้าท์เท่หนบีบจริงหรือไม่ เสี่ยส่ายหน้าก่อนที่จะรีบเดินฝ่าวงล้อมของผู้สื่อข่าวขึ้นรถตู้ตำรวจ


ด้านนายอนุชา วงศ์ศรีรัตน์ ทนายความของเสี่ยบี พร้อมด้วย เฟิร์น ภรรยาเสี่ยบี เดินทางมาที่ สภ.พูลตาหลวง เพื่อประสานงานกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยสั้นๆว่า ได้พานายสมยศมาแล้ว อยู่ระหว่างการเตรียมหลักทรัพย์ขอยื่นประกันตัว โดยระบุว่า นายสมยศไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี


แต่ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อไปช่วยลูกหาเงินเยียวยาผู้เสียหาย และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเม้าท์เท่นบี อ้างว่านายสมยศ เขียนหนังสือไม่ได้ จึงโยนกิจการทั้งหมดให้เสี่ยบี และภรรยาเป็นผู้ดูแล ทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยนายสมยศ มีช่วยดูแลบ้าง แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารกิจการ


และเมื่อเห็นลูกโต ก็ปล่อยให้ลูกทำมาหาเลี้ยงเป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งมีหลักฐาน ยืนยันเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน คนถือเงิน และสัญญาการก่อสร้างทั้งหมด


พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เดินทางมาสอบปากคำ เสี่ยยศด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากตำรวจมีหมายจับ และเสี่ยยศทราบรายละเอียด ทางทนายความจึงพาตัวมาที่ สภ.พลูตาหลวง


จากนั้นตำรวจจึงได้แสดงหมายจับและเข้าจับกุมตัว พร้อมยืนยันว่า ตำรวจมีหลักฐาน ที่พบว่า เสี่ยยศมีความเชื่อมโยงกับเมาท์เทนบีจริง ซึ่งเป็นรายละเอียดในสำนวน และขณะนี้ยังไม่พบผู้เกี่ยวข้องรายอื่นเพิ่มเติม ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม โดยในวันนี้ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน


ส่วนกรณีที่ปรากฎภาพถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจเมาท์เทนบีนั้น อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ในเบื้องต้น ทราบว่าเป็นการไปตรวจตามวงรอบในการสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเข้าตรวจสถานบริการ และสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการทุกแห่ง ส่วนเจ้าหน้าที่จะทราบหรือไม่ว่า มีการเปิดเป็นผับ และไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายอย่างถูกต้อง รวมถึงทราบหรือไม่ว่า เสี่ยบีและเสี่ยยศอยู่ในวันที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง


ขณะที่ ตัวแทนครอบครัวผู้เสียหาย 7 คน พร้อมนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเดินทางมายื่นหนังสือ ที่ สภ.พลูตาหลวง เพื่อขอคัดค้านการประกันตัวเสี่ยยศ พร้อมนำเอกสารรายละเอียดข้อกฎหมายมายื่น


ทนายรณณรงค์ บอกว่า ครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวม 20 ครอบครัวที่ได้ยื่นร้องเรียนไว้ มีความกังวลว่าอาจจะได้ไม่รับความเป็นธรรม และอาจไม่ได้รับเงินเยียวยา เพราะหากได้รับการประกันตัวออกไป อาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และข่มขู่พยาน อีกทั้งอาจทำให้พยานในพื้นที่ไม่กล้าออกมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง


โดยจะยื่นคัดค้านการประกันตัวทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน ที่ สภ.พลูตาหลวง และในชั้นศาล ที่ศาลจังหวัดพัทยา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/kaAlfVsDya4