อาชญากรรม

หนุ่มหัวร้อนต่อยตำรวจ ถูกล็อกล้อจอดในที่ห้ามจอด ผกก.ยันไม่มีคนโทรเคลียร์ แจ้งอ่วม 5 ข้อหา

1 พ.ย. 2568

3.1K views

หนุ่มหัวร้อนถูกล็อกล้อจอดรถในที่ห้ามจอด เข้าทำร้ายตำรวจจราจร ด้าน ผกก.ยันไม่มีการโทรเคลียร์ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมแจ้ง 5 ข้อหา ด้านผู้ก่อเหตุยื่นประกันตัว 60,000 บาทเมื่อคืนนี้

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก พระจันทร์ ลายกระต่าย V5 ออกมาโพสต์ภาพรถยนต์สีเทา-ดำ จอดอยู่ในบริเวณห้ามจอด พร้อมระบุข้อความว่า “จอดรถในที่ห้ามจอด ตำรวจจราจรไปล็อกล้อเกิดอาการไม่พอใจ เข้าชกต่อยทำร้ายร่างกายตำรวจ หลังเกิดเหตุตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ต่อมามีคนโทรมาขอเคลียร์ ขอให้ปรับแค่ พรบ.จราจร (เเล้วที่ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ มึงจะให้เอาไปทิ้งไว้ในถังขยะหรืออย่างไร) เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 16.30 น. หน้าร้านข้าวแกงร้านดังย่านบางขุนนนท์ ผู้เสียหายคือ ร.ต.ต.ชาญศักดิ์ ชูแก้ว จราจร สน.บางขุนนนท์”

ล่าสุดทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง พ.ต.ท.ณัฐวิทย์ วาสิกานนท์. สว.จร.สน.บางขุนนนท์ เล่าว่าในวันที่เกิดเหตุ ร.ต.ต.ชาญศักดิ์ ชูแก้ว จราจร สน.บางขุนนนท์ ได้พบรถยนต์โตโยต้า สีเทา-ดำ จอดอยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ตรงข้ามซอยบางขุนนนท์ 14 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ซึ่งปกติแล้วบริเวณตรงนั้นเป็นที่ห้ามจอด (ขาว-แดง) รวมถึงรถยนต์คันดังกล่าวจอดขวางทางม้าลาย และจอดย้อนศร

เมื่อ ร.ต.ต.ชาญศักดิ์ พบจึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ และจะทำการล็อคล้อ แต่ยังไม่ทันได้ล็อกล้อได้มีชายคนหนึ่งแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถ และแสดงท่าทีไม่พอใจ โวยวายไม่ให้ล็อกล้อ ขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย ร.ต.ต.ชาญศักดิ์ จนได้รับบาดเจ็บ

และจากสอบถามข้อมูลกับเพื่อนสาวของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุมีปัญหาส่วนตัวที่มีความเครียดเรื่องบ้านที่กำลังจะถูกยึดจึงทำให้ในวันนั้นกำลังจะเดินทางมาที่กรมบังคับคดี แต่ได้จอดแวะกินข้าวที่หน้าร้านจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ในเบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัว รวมถึงแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 5 ข้อหา ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน, ทำให้เสียทรัพย์ ส่วน พ.ร.บ.จราจร ได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ 1.จอดรถในที่ห้ามจอด 2.จอดรถย้อนศร

ด้าน พ.ต.อ.อุเทน ตั้งพิทักษ์เสมอ ผกก.สน.บางขุนนนท์ ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนนนท์ ทำตามขั้นตอนมีการทำบันทึกจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหาไปตามระเบียบข้อกฎหมาย ไม่มีใครโทรมาให้ดำเนินคดี หรือดำเนินคดีแค่ พ.ร.บ.จราจร โดยเมื่อคืนนี้หลังจากที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ก็ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาไว้ภายในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาของ สน.บางขุนนนท์ และ ทราบภายหลังว่าเวลาประมาณ 22.00 น. ญาติและทนายความของผู้ก่อเหตุได้มาขอยื่นประกันตัวผู้ก่อเหตุ ด้วยวงเงิน 60,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ทำการประกันตัว

นอกจากนี้ทางด้านผู้กำกับ สน.บางขุนนนท์ ยังให้ข้อมูลว่า คดีนี้เป็นโทษทางอาญาที่มีความผิดมากกว่า 3 ปีขึ้นไป จำเป็นจะต้องมีการพิมพ์ลายนิ้วมือ รวมถึงต้องทำเป็นสำนวนคดีก่อนจะส่งฟ้องศาลแขวงตลิ่งชันต่อไป

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ คือหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ตรงข้ามซอย บางขุนนนท์ 14 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร พบว่าในบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ห้ามจอด (ขาว-แดง) มีทางม้าลาย รวมถึงมีป้ายห้ามจอด แต่ยังพบว่าบริเวณสองข้างทางนั้นก็มีรถจอดอยู่บ้าง แต่ไม่มีรถคันไหนมาจอดที่บริเวณทางม้าลาย หรือจอดย้อนศร

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 68 ปี แม่ค้าขายของอยู่ในบริเวณดังกล่าวให้ข้อมูลว่า ตัวเองยืนขายของอยู่ตามปกติก่อนที่เวลาประมาณ 16.00 น. ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดังมาก ก่อนจะเห็นชายคนหนึ่งเดินออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยว และมายืนโวยวายหน้าร้าน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนอยู่ด้วย และได้ยินเสียงเหมือนคนเอาหมวกกันน็อคมาตีกัน แต่เธอก็ไม่ได้หันไปดูเพราะขายของอยู่

ซึ่งสังเกตเห็นว่าตอนแรกตำรวจไม่ได้มากันเยอะ แต่พอผู้ก่อเหตุเริ่มโวยวายอาละวาดหนักขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเรียกกำลังเสริม จากนั้นตำรวจก็มาอีกประมาณ 10 กว่าคนเพื่อเข้ามาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ตำรวจพยายามที่จะเข้าไปควบคุมตัว พยายามจะล็อกตัวเอาตัวไปที่สถานีตำรวจ แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอมขัดขืนโวยวายอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใส่กุญแจมือและควบคุมตัวมาที่ สน.บางขุนนนท์

คุณอาจสนใจ

Related News