อาชญากรรม
“หลวงพ่ออลงกต” แจงปมเงินบริจาค จ่อเอาผิด “หมอบี” หากยักยอกเงินวัด พบเงินหาย 5.4 ล้านบาท
7 ส.ค. 2568
776 views
วัดพระบาทน้ำพุถกเครียด “หลวงพ่ออลงกต” แจงปมเงินบริจาค ออก 5 มาตรการ สั่ง “หมอบี” ห้ามยุ่งเกี่ยวกิจการวัด
วันนี้ (7 ส.ค.) เวลา 13.30 น. พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ “หลวงพ่ออลงกต” เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมกรรมการวัด และ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ในฐานะทนายความของวัด ได้ประชุมใหญ่ที่ห้องประชุมวัดพระพุทธบาท ในประเด็นเกี่ยวกับหมอบี และเรื่องเงินบริจาค โดยมีสำนักพุทธเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยทันทีที่หลวงพ่ออลงกตมาถึง ก็ได้เข้าไปในห้องประชุม ซึ่งมีการกล่าวในห้องประชุมก่อนการประชุม ย้ำว่า ต่อไปนี้บัญชีของวัดจะเป็นชื่อวัดเท่านั้น ไม่มีบัญชีอื่น และคณะกรรมการมีความเห็นว่า จะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเปิดบัญชีโดยใช้ชื่อวัด หรือชื่อหลวงพ่อรับบริจาค
ส่วนอีกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมอบีนั้น หลวงพ่อกำลังจะพูด ทางทนายเกิดผล และเจ้าหน้าที่วัดก็ถามแทรกขึ้นมาว่า หลวงพ่อจะเริ่มประชุมเลยไหม จะได้เชิญสื่อออกจากห้องประชุมก่อน ก่อนที่หลวงพ่อจะบอกว่า เดี๋ยวจะขอประชุม แล้วเดี๋ยวจะชี้แจงกับสื่อมวลชน ก่อนเปรยว่าเรื่องนี้ทนายเกิดผลเองก็เพิ่งทราบเรื่อง จึงอยากขอเวลาประชุมก่อน
ทั้งนี้ ระหว่างประชุมไปได้สักระยะ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์
จากนั้นหลังจากการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง หลวงพ่ออลงกต พร้อมด้วยทนายเกิดผล และไวยาวัจกร เล่าว่า ย้อนกลับไป 10 ปี หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ เข้ามาปวารณาตัวเป็นจิตอาสา จึงยืนยันว่าหมอบีไม่ได้มีตำแหน่งของวัด เป็นเพียงจิตอาสา เริ่มจากเป็นคนจัดการสัมมนา บรรยายธรรม ปฎิบัติธรรม และนิมนต์หลวงพ่อไป
กระทั่งปี 62 ปี 63 หมอบีก็มาขออนุญาตหลวงพ่อเปิดบัญชี “ใจฟ้าอาทรประชานาถ” สำหรับจัดกิจกรรม และนำเงินบริจาคไว้ให้หลวงพ่อ
ช่วงปีแรก กิจกรรมยังไม่ค่อยใหญ่โตมากนัก มีคนบริจาคประมาณ 4-5 ล้านบาท ก่อนที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุผลว่า หมอบีเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เลยทำให้มีการทำบุญอะไรบ้าง เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ที่อยุธยา สามารถรวบรวมศรัทธาผู้คนได้หลาย 100 ตัว เป็นเงินหลาย 10 ล้านบาท แต่กิจกรรมเหล่านี้ หมอบีจะใช้วิธีการโอนเงินไปยังปลายทางเลย เช่น โอนไปยังโรงฆ่าสัตว์ไปเลย
ต่อมาทำกิจกรรมหลายอย่าง ก็ทำวิธีเดียวกัน ยังมีโปรเจกต์มากขึ้น ใหญ่ขึ้น แต่ปัญหาคือ บัญชีใจฟ้าอาทรประชานารถ ที่ไปร้องเรียนว่าหมอบียักยอกเอาเงินหลวงพ่อไป หลวงพ่อทราบทีแรกเมื่อปลายปี 67 ก่อนที่คนที่เรื่องนี้จะลาออกไป เค้ามาบอกว่าหมอบีถวายเงินไม่ครบ จึงได้มีการเรียกหมอบีมา และพูดอย่างตรงไปตรง และที่เป็นที่มาที่มีการสืบเสาะแสวงหาจากเจ้าหน้ลที่ตำรวจ ที่มาหาหลวงพ่อสองครั้ง
หลังจากนี้ หลวงพ่อจะเชิญหมอบีมานั่งตอบคำถามทุกคน เพราะมีบางคนที่หลวงพ่อก็มองไม่เห็นรู้สึกสลัวอยู่ และวันนี้หากหลวงพ่อไม่ดำเนินการ ก็เหมือนเราละเลยเราอาจจะกลายเป็นสมคบคิด
หมอบี บอกหลวงพ่อว่า เงินต่างๆ ที่เอาไปทำกิจกรรม เช่น ซื้อเครื่องมือแพทย์ ก็โอนเงินจากบัญชีก็โอนไปที่ผู้ขายเครื่องมือแพทย์เลย ซึ่งมีเป็น 100 โปรเจกต์เลย
ส่วนยอดเงินในบัญชี จะเบิกเงินมาถวายเดือนละ 2 ครั้งทุก 15 วัน โดยเลขาเป็นคนเบิกจากธนาคาร และเอาให้หมอบี มาถวายให้หลวงพ่อ ซึ่งเลขกลมๆ รวมในบัญชีดังกล่าวน่าจะร้อยล้านบาทได้ ซึ่งยืนยันว่า ตัวเลขมีในสารบบ ตั้งแต่ 62 ที่เปิดบัญชีมา
ส่วนเรื่องที่ว่ามีการนำเงินสำหรับสร้างสถานปฎิบัติธรรมไปสร้างบ้านนั้น เรื่องนี้ หมอบี ไม่ได้สารภาพ แต่เคยพูดว่าอยากสร้างสถานที่ปฎิบัติธรรม และสร้างที่ทำงานด้วย ซึ่งเค้าบอกหลายปีแล้ว จนมาเห็นในข่าวจากคนใกล้ตัวเค้าที่มาบอกหลวงพ่อ ว่าพี่บีมีทรัพย์สินตรงโน้นตรงนี้ พอได้ยินทีแรกก็งง หากเป็นจริง ถ้ามีบ้าน 40 - 50 ล้านบาทไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเอาเงินมาจากไหน เช่นเดียวกับเรื่องรถยนต์และกระเป๋าแบรนด์เนม
เมื่อถามว่ามีการตกลงเรื่องส่วนแบ่ง 70 -30 หรือไม่ หลวงพ่ออลงกตบอกว่า “เธอดูหน้าหลวงพ่อ” หลวงพ่อจะเป็นอย่างนั้นไหม หลวงพ่อทำมา 30 ปี ถ้าพ่อทำแบบนี้ พ่อจะเป็นยังไง จะอยู่ได้ไหม
เรื่องนี้ ทนายเกิดผล กล่าวเสริมว่า ใครพูด ถ้าบีพูด ผมขอหลักฐาน ผมปล่อยไม่ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจจะไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน
ส่วนที่ดินที่ว่ามีการซื้อที่ดิน และใช้ชื่อบุคคลที่สาม หลวงพ่อยืนยันว่า เรามีพื้นที่ที่ทำกิจกรรมเยอะมาก ที่เป็นประโยชน์ แต่หากซื้อเงินวัด ก็จะเป็นชื่อของวัด
ภายหลังการประชุม ทนายเกิดผล ได้เปิดเผยข้อสรุปจากที่ประชุม โดยมีมติชัดเจนทั้งหมด 5 ข้อ ดังนี้
1. ห้ามหมอบีเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการใด ๆ ของวัดพระบาทน้ำพุ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรม การดำเนินงาน หรือการใช้สถานที่วัดในทุกกรณี
2. เรียกร้องให้หมอบีปิดบัญชีทุกบัญชี ที่มีความเชื่อมโยงกับชื่อวัดพระบาทน้ำพุหรือกิจกรรมในนามของวัดทั้งหมดทันที เพื่อยุติความสับสนและข้อครหาจากสังคม
3. ให้หมอบีเข้าร่วมแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน เพื่อชี้แจงข้อสงสัยที่สังคมตั้งคำถาม โดยทางวัดพร้อมเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา
4. งดกิจกรรมจิตอาสาทั้งหมดชั่วคราว เพื่อให้ทางวัดตรวจสอบความเชื่อมโยง และความโปร่งใสของโครงการหรือกลุ่มต่างๆ ที่ดำเนินงานภายใต้ชื่อวัดในช่วงที่ผ่านมา
5. มอบหมายให้ทนายความดำเนินการแจ้งความและลงบันทึกประจำวันทันที ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของวัดว่าพบความเสียหาย และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ
นายเกิดผล ระบุเพิ่มเติมว่า การแจ้งความในครั้งนี้ เบื้องต้นจะเป็นการลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยหากพบมูลความผิด ก็จะพิจารณายื่นคำร้องดำเนินคดีในขั้นต่อไป
ทั้งนี้ ทนายความยืนยันว่า วัดพระบาทน้ำพุและหลวงพ่ออลงกต ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินจากบัญชีใจฟ้าอาทรประชานาถ โดยเงินบริจาคที่วัดได้รับนั้น จะมีระบบการจัดการภายในที่ชัดเจน และพร้อมให้ตรวจสอบได้ทุกเมื่อ
นายเกิดผลทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ คือการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชน และทำให้สังคมมั่นใจว่าวัดพระบาทน้ำพุยังคงยึดมั่นในความโปร่งใส โดยเรียกร้องให้หมอบีออกมาชี้แจงทุกประเด็นต่อหน้าสื่อ เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดแก่สาธารณชน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นของทางเจ้าหน้าที่ สรุปการรับเงินบริจาคจาก หมอบี ที่ถวายหลวงพ่อเพื่อใช้ในโครงการตามดำริ ยอดรวมจากธนาคารอยู่ที่ 31,145,300 บาท แต่มียอดถวายหลวงพ่ออยู่ที่ 25,741,100 บาท โดยมียอดรวมต่างกันอยู่ที่ 5,404,200 บาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง หลวงพ่ออลงกต ,วัดพระบาทน้ำพุ ,หมอบีทูตสื่อวิญญาณ