อาชญากรรม

ฆ่าโหดเผานั่งยางคนดูแลสวนปาล์ม 3 ศพ อึ้งพบอีก 1 ศพถูกเผามาแล้ว 2 สัปดาห์

โดย chutikan_o

11 พ.ค. 2568

1.5K views

ฆ่าโหดเผานั่งยางคนดูแลสวนปาล์ม เนื้อที่กว่า 100 ไร่ พร้อมลูกน้อง รวม 3 ศพ ขโมยรถยนต์-มือถือคนตายหลบหนี อึ้งพบศพถูกเผาฝังกลบมา 2 สัปดาห์อีก 1 ศพ คาดมูลเหตุจากความขัดแย้งผลประโยชน์ ตร.ระดมกำลังล่าตัวผู้ก่อเหตุ


เมื่อเวลาประมาณ 01.10 น. วันนี้ (11 พ.ค. 2568) ร.ต.อ.จักรกริช แก้วทอง รอง สว. (สอบสวน) สภ.สิเกา ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกเผานั่งยางเสียชีวิต จำนวน 3 ราย เหตุเกิดภายในร่องน้ำสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ หมู่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง


ถึงที่เกิดเหตุพบโครงกระดูกและชิ้นส่วนมนุษย์ รวมจำนวน 3 ร่าง ถูกเผานั่งยางรถยนต์อยู่ในร่องคูน้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างสวนปาล์มน้ำมัน 2 สวนติดกัน ทราบชื่อคือ นายสุรเชษฐ์ อายุ 69 ปี, นายอนันต์ อายุ 49 ปี และนายวีระยุทธ อายุ 41 ปี ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นลูกน้องของนายสุรเชษฐ์ ถัดขึ้นมาประมาณ 10 เมตร ในที่พักร้างภายในสวนปาล์มน้ำมันที่อยู่ติดกัน พบคราบเลือดกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น มีการนำน้ำมาราด และนำดินมากลบเพื่อทำลายหลักฐาน ใกล้กันพบแกลลอนสำหรับตักน้ำ 1 ถังตั้งอยู่ ปลอกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 ปลอก และปลอกกระสุนขนาด 11 มม. อีก 1 ปลอก ถัดออกไปด้านหน้าที่พักร้างพบขวดเปล่าซึ่งใช้ใส่น้ำมันที่เป็นเชื้อเพลิง 1 ขวด เจ้าหน้าที่หน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายทั้งหมดหายไป โดยคาดว่ากลุ่มคนร้ายนำหลบหนีไป




ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง ตำรวจ กก.สส.ภ.9 ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ตรัง และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ลงมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมฝั่งศพที่ถูกเผานั่งยางในหลุมอีก 1 แห่ง ซึ่งอยู่ภายในสวนปาล์มน้ำมันที่ผู้ตายดูแลอยู่ ถัดจากจุดที่เผานั่งยางทั้ง 3 รายประมาณ 300 เมตร พบบริเวณปากหลุมฝังกลบมีกิ่งต้นกระถินป่าแห้งปกคลุมอยู่ ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้นำจอบมาขุดลึกประมาณ 1 ฟุต พบเศษยางรถยนต์และรถสิบล้อมีร่องรอยถูกเผา ข้างกันมีเศษกระดูกมนุษย์จึงขุดหลุมขุดเพิ่มพบโครงกระดูกมนุษย์และชิ้นเนื้อที่กำลังเน่า ไม่ทราบเพศฝังอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งกระจาย นอกจากนี้พบกระป๋องกาแฟตกอยู่ 2 กระป๋องและรอยหักกิ่งไม้หน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน คาดว่ามีการกลบฝังมาประมาณ 2-4 สัปดาห์


เบื้องต้น พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมประสานหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบรายชื่อบุคคลสูญหาย ทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เผานั่งยาง 3 ด้วยหรือไม่


ลูกชายของนายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า พ่อทำงานดูแลสวนปาล์มแห่งนี้ให้เจ้าของสวนมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือขัดแย้งกับใครเลย เท่าที่รู้ พ่อก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับใคร หรือมีเรื่องอะไรผิดปกติ ก่อนเกิดเหตุ พ่อได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยทะลายปาล์มน้ำมันในสวน จึงรีบเดินทางออกมาตรวจสอบพร้อมลูกน้องอีกสองคน โดยออกจากบ้าน ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ในเวลาประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ของเมื่อวานนี้ หลังจากนั้นช่วงเย็น เริ่มเอะใจว่าทำไมพ่อยังไม่กลับบ้าน ปกติพ่อจะกลับมาให้อาหารหมาทุกวัน ก็เลยเริ่มออกตามหา ได้สอบถามไปยังลูกน้องคนอื่นๆ จนทราบว่าพ่อเดินทางมาที่ จ.ตรัง จึงพยายามออกตามหาตามสวนปาล์มที่พ่อดูแล จนกระทั่งช่วงประมาณ 19.00 น. เข้ามาถึงสวนแห่งนี้ ก็เห็นแสงไฟลุกขึ้นจากร่องน้ำข้างสวน ตอนนั้นใจไม่ดีเลย รีบเข้าไปดู ก็เห็นเลยว่ามีคนถูกเผาอยู่ตรงนั้น รู้เลยว่าน่าจะเป็นพ่อกับลูกน้องแล้ว ก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที โดยตอนนั้นยังโดนไฟเผาไม่ทั้งหมด เห็นหัวกะโหลก คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้



นายจำลอง ตี้พั้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 กล่าวว่า สำหรับผู้ตายนั้นดูแลสวนปาล์มแห่งนี้มานานแล้ว ให้กับเจ้าของสวนที่อยู่ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีเนื้อที่ 100 กว่าไร่ แต่บางส่วนอยู่ในที่ดินป่าชายเลน ซึ่งได้ถูกตรวจยึดไปแล้วบางส่วน โดยเข้ามาใส่ปุ๋ย และดูแลความเรียบร้อยเป็นประจำ ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับคนในพื้นที่แต่อย่างใด แต่เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้โทรหาตนเองเรื่องที่มีคนมาลักขโมยลูกปาล์มในสวน และยังบอกกับตนเองว่าให้คุยกับนายบิน ซึ่งดูแลสวนปาล์มที่อยู่ติดกันอีกสวนหนึ่งประมาณ 36 ไร่ เรื่องจะให้ดูแลสวนปาล์มเพื่อกันขโมย และต้นเดือน พ.ค. โทรหาอีกรอบแต่ตนเองไม่ได้รับสาย จนมาเกิดเหตุสลดครั้งนี้ ส่วนสาเหตุมองว่าสาเหตุอาจจะมาจากปัญหาเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับสวนยางพารา และปัญหาที่มีคนร้ายเข้ามาขโมยผลปาล์มน้ำมัน เพราะเท่าที่ทราบไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน


เบื้องต้นนายศุภกรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลปาล์มน้ำมันจำนวน 36 ไร่ ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ติดกัน ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยขณะนี้ยังติดตามไม่พบตัว ส่วนมูลเหตุคาดว่าเป็นความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมัน โดยคาดว่ากลุ่มคนร้ายต้องมีไม่ต่ำกว่า 3 คนในการลงมือก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย ได้กระจายกำลังออกหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


แท็กที่เกี่ยวข้อง  ฆ่าเผานั่งยาง ,สวนปาล์ม ,ตรัง

คุณอาจสนใจ

Related News