อาชญากรรม
แฟน-น้องสาว แฉผู้คุมทำร้าย “อดีต ผกก.โจ้” สั่งขังเดี่ยว มีผู้ใหญ่ขอให้ถอนแจ้งความ
โดย nicharee_m
8 มี.ค. 2568
1.7K views
ครอบครัวส่งร่าง “อดีต ผกก.โจ้” ชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ด้าน แฟนสาว-น้องสาว แฉอดีต ผกก.โจ้ ถูกผู้คุมขังเดียว ปมไม่พอใจข้างห้องสูบบุหรี่ ร้องขอความเป็นธรรม แต่ไม่ถูกตรวจสอบ ยันเมื่อวานยังวางแผนชีวิตหลังออกคุก ยืนยันยังติดใจสาเหตุการตาย
หลังจากที่นำร่างของ นายนิธิสรรค์ อุทธนผล หรือ “อดีต ผกก.โจ้” อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม ทางครอบครัวของอดีต ผกก.โจ้ ได้นำร่างมา ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม จังหวัดปทุมธานี เพื่อนำร่างของอดีตผู้กำกับโจ้มาชันสูตรพลิกศพโดยละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของ “อดีตผกก.โจ้” ซึ่งในขณะที่ครอบครัวนั่งรออยู่ที่บริเวณด้านหน้า แม่ของ “อดีตชาติผกก.โจ้. ได้เข้าไปดำเนินการในเรื่องของเอกสารการชันสูตรพลิกศพ ช่วงขณะเดียวกันทีมข่าวก็สังเกตุเห็นน้องสาวของผู้กำกับโจ้ที่นั่งรออยู่บริเวณด้านหน้านั้นมีอาการร่ำไห้อยู่เป็นระยะระหว่างที่พูดคุยกันในครอบครัว
ต่อมา น.ส.ธนัญญา น้องสาว ผกก.โจ้ อายุ 34 ปี และ นางสาวทราย แฟนสาวของ ผกก.โจ้ ได้เปิดเผยว่า ผกก.โจ้ ถูกกลั่นแกล้งตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจากผู้คุมท่านหนึ่ง เล่าว่า วันที่ 8 มกราคมผู้กำกับโจ้นั้นถูกผู้คุมต่อยท้องสองครั้ง สาเหตุมาจากการที่ไม่พอใจเนื่องจากนักโทษข้างห้องดูดบุหรี่ ทำให้ผู้กำกับโจ้เหม็นจึงไปบอกกับผู้คุมแต่ผู้คุมไม่พอใจในเรื่องนี้ เพราะเขาไม่ต้องการให้ใครมายุ่งกับนักโทษของเขา
ต่อมาที่ 10 ม.ค. ญาติได้เข้าเยี่ยม ผกก.โจ้เล่าให้ฟังว่า จึงเล่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 มกราคมให้กับทางครอบครัวฟัง แต่ทางด้านผู้กำกับโจ้ก็บอกว่าไม่ได้ถือสาอะไรมาก แต่หลังจากที่ญาติเขามาเยี่ยมระหว่างนั้นทางผู้คุมที่ทำร้ายผู้กำกับโจ้ได้มีการทำเอกสาร และขอสั่งให้ผู้กำกับโจ้ถูกคุมขังแยกหรือขังเดี่ยว ทางผู้คุมอ้างว่าผู้กำกับโจ้มีพฤติกรรมที่ไม่เชื่อฟังกระด้างกระเดื่อง
จนเมื่อวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. ทนายความได้เข้าไปเยี่ยมได้ความว่า ผกก.โจ้ จึงบอกกับทางทนายความว่าตนเองถูกขังเดี่ยว และมีการเรียกไปต่อว่าพูดจารุนแรงหยาบคาย มีการขู่ทำร้ายร่างกาย จากนั้น ผกก.โจ้ ได้มอบอำนาจให้ทางทนายความไปแจ้งความ หลังแจ้งความทางตำวจยังไม่ได้มีการสอบปากคำ เพราะทางราชทัณฑ์ไม่อนุญาตให้ตำรวจเข้าไปสอบปากคำ ผกก.โจ้ ทั้งที่มีผลการตรวจร่างกาย
และเรื่องนี้ตนเองก็ได้ร้องเรียนไปที่ผู้บัญชาการท่านเดิม ส่งเอกสารไป4ครั้ง เป็นผู้บัญชาการท่านเดิม 2 ครั้ง และผู้บัญชาการท่านใหม่ 2 ครั้ง ไปตามเอกสารที่ห้องธุรการ มีการลงเลขรับแต่เอกสารหาย จึงส่งไปที่ผู้บัญชาการท่านใหม่ จากนั้นก็มียื่นคำร้องไปที่เรือนจำกลางคลองเปรม กรมราชทัณฑ์ ปปช. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และอัยการสูงสุด กลับกันถ้าเป็นนักโทษคนอื่นตำรวจก็สามารถเข้าไปสอบปากคำได้ตามปกติ จึงมองว่าเรื่องนี้ไม่ยุติธรรม
ในทุกครั้งที่ญาติเข้าไปเยี่ยม สภาพร่างกายของ ผกก.โจ้นั้นทรุดโทรม เพราะการถูกขังในห้องเดี่ยว ทำให้ผู้กำกับโจ้ไม่ได้รับสารอาหารตามโภชนาการที่ถูกต้อง และทาง ผกก.โจ้ทานเผ็ดไม่ได้ จึงมีการร้องขอนมกับขนมปังให้กับผู้กำกับโจ้ แต่กลับไม่ได้รับอนุญาต
โดยเมื่อวานมีเพื่อนที่เป็นตำรวจเข้าไปเยี่ยมพร้อมกับแฟนของ ผกก.โจ้ เขาเล่าให้ฟังว่า ผกก.โจ้ยังพูดถึงเรื่องอนาคตอยู่เลยว่า ถ้าออกไปจะมาทำอะไร ทำธุรกิจอะไรดี นั่งนับวันว่าอีกกี่ปีจะได้ออก แล้วก็ยังพูดอยู่เลยว่าอาทิตย์หน้าเจอกัน และทิ้งท้ายไว้ว่า “เขาจะสู้” ในตอนนี้ตนติดใจ เพราะไปสืบรู้มาว่ามีนักโทษที่โดนกลั่นแกล้งแบบนี้เหมือนกัน และเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเยอะมาก เบื้องต้น 5 คนแล้ว
และติดใจตรงที่ไม่มีใครพยายามช่วย ผกก.โจ้ หรือพาเขาไปที่โรงพยาบาล เมื่อคืนมีสายจากเจ้าหน้าที่ ราชทัณฑ์โทรมาหาตนเวลาประมาณ 5 ทุ่ม - เที่ยงคืน ว่าเกิดเหตุขึ้น และขอแสดงความเสียใจ ตนจึงถามว่า ผกก.โจ้อยู่ที่ไหน ด้านเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่กับหมอ แต่ไม่สามารถให้ไปดูได้เนื่องจากเป็นกฎให้รอมาตอนเช้า
และหลังจากได้รับแจ้งวันนี้ก็เดินทางเข้ามาที่เรือนจำกลางคลองเปรมประมาณเที่ยงก็ยังพบว่า ผกก.โจ้นั้นยังคงอยู่ในสภาพเดิมอยู่ที่เดิมไม่มีการเข้าไปช่วยเหลือ จากการสังเกตก็เห็นว่าที่ข้อมือรอยบางอย่างอยู่ เป็นรอยแดงกลมๆ และมีเลือดที่พื้นจำนวนหนึ่ง โดยที่ไม่ทราบว่ารอยแดงและเลือดเกิดจากอะไร และในห้องมีผ้าเช็ดตัว ลักษณะเป็นผ้าขนหนูอีก 1 ผืน จึงอยากได้ความจริงถึงการเสียชีวิต
และพอไปดูกล้องวงจรปิด พบว่าไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ไม่มีการพาออกจากห้องขัง ซึ่งมันขัดจากที่เขาพูด เพราะว่าผู้กำกับโจ้เสียชีวิตตั้งแต่ 20.30 น. หรืออาจจะก่อนหน้านั้น เมื่อถามว่าหลังจากนี้ทางครอบครัวกังวลใจเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ ระบุว่า ไม่ได้กังวลใจ ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย ส่วนในเรื่องของคดีจะกังวลใจหรือไม่ ระบุว่าวันนี้ได้คุยกับทางพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แล้วก็ไม่ได้กังวลใจอะไร
นอกจากนี้น้องสาวของ ผกก.โจ้ยังเปิดเผยอีกว่า ตอนที่มีการแจ้งความ มีผู้ใหญ่ในราชทัณฑ์พยายามติดต่อเพื่อจะพูดคุยกับตนและแม่มาตลอดในเรื่องของการถอนแจ้งความ มีครั้งนีงตนไปเยี่ยม ผกก.โจ้ ผู้ใหญ่ท่านนี้ก็ได้มาคุยว่าขอให้ตนไปถอนแจ้งความเพื่อแลกกับการไม่ขังเดี่ยวผู้กำกับโจ้ แต่ตอนนั้นตนยังไม่ได้ตอบอะไรเพราะว่าเข้าไปข้างในเพียงคนเดียว จึงบอกกับผู้ใหญ่ท่านนั้นไปว่าจะขอปรึกษากับแม่ก่อน ในส่วนนี้ตนไม่มีหลักฐานอะไรเพราะตอนเข้าไปข้างในมีการเก็บโทรศัพท์และกระเป๋า
ส่วนการชันสูตรพลิกศพต้องใช้เวลา 1-2 วันจึงจะนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ ทางญาติได้ปรึกษากันแล้วว่าจะจัดงานศพแต่จะยังไม่เผาจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง ผู้กำกับโจ้