อาชญากรรม
รวบ 2 นายร้อยปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์สาย 1 วิดีโอคอลหลอกเหยื่อ
โดย nutda_t
3 ก.พ. 2568
913 views
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ภัททสักก์ ธนสุกาญจน์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายรามิล อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น" และนายธนาวุฒิ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยหลอกระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยการตกลกกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้ที่ได้มีการสมคบกัน
สืบเนื่องจากตำรวจสอบสวนกลาง โดย กก.1 บก.ปอท. ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่า มีคนร้ายแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิดีโอคอลมาข่มขู่ผู้เสียหาย โดยแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินและคดียาเสพติด พร้อมส่งเอกสารปลอมต่างๆ มาให้ผู้เสียหายดู จนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและหลงเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ต่อมาคนร้ายจึงได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย รวมเป็นเงินมูลค่ากว่าล้านบาท
จากการตรวจสอบข้อมูลจากระบบแจ้งความออนไลน์และฐานข้อมูลพบว่า มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันนี้มากถึง 163 เคส เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งรัดดำเนินการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนภายหลังสามารถระบุตัวคนร้ายที่แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิดีโอคอลมาหลอกลวงผู้เสียหาย
โดยในวันที่ 30 ม.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายรามิล อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บ้านพัก หมู่ 1 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองทำหน้าที่เป็นสาย 1 ในการติดต่อเหยื่อจากระบบ Sim Box ที่มีการเช็ตระบบไว้ โดยตนเองจะได้ขัอมูลของเหยื่อ และจะต้องพูดตามสคริปต์ที่บอสชาวจีน และคนคุมงานซึ่งเป็นคนไทยส่งมาให้ ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาพูดชักจูงเหยื่อจนเริ่มหลงเชื่อแล้ว จากนั้นจะมีการส่งต่อไปให้กับสาย 2 เพื่อดำเนินการ
ต่อมาในวันที่ 2 ก.พ. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสามารถจับกุม นายธนาวุฒิ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่บ้านพัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ร่วมขบวนการของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิดีโอคอลเพื่อหลอกลอกลวงเหยื่อจริง นอกจากนี้ผู้ต้องหายังยอมรับอีกว่า ตนเองแต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและวิดีโอคอลไปหลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายราย รวมไปถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การว่า ในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนเองจะมีหน้าที่วิดีโอคอลเพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ และทำหน้าที่ควบคุมเหยื่อผ่านการวิดีโอคอลในระหว่างการหลอกลวง โดยเมื่อเหยื่อหลงเชื่อแล้ว จะมีคนร้ายที่เรียกว่าสาย 3 ทำหน้าที่ปิดดีล หลอกให้เหยื่อโอนเงิน ซึ่งในระหว่างการหลอกลวงจะมีทั้งคนไทยและคนจีน ทำหน้าที่เป็นคนควบคุม และคิดสคริปต์ในการหลอกลวงเหยื่อเพื่อให้เป็นไปตามบทที่วางไว้ โดยหากตนไม่ปฏิบัติตาม หรือต่อต้าน จะถูกทำร้ายร่างกาย และหากตนสามารถหลอกจนเหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินมาให้ได้ ตนจะได้รับส่วนแบ่งจากมูลค่าที่หลอกลวงเหยื่อ
แท็กที่เกี่ยวข้อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,นายร้อยปอยเปต