อาชญากรรม

"ทนายตั้ม-เอกภพ" เผยDSI รับเรื่องตรวจสอบปมเทวดาคุ้มครองดิไอคอน ย้ำพรุ่งนี้เปิดตัวละครลับ ธ.

โดย nutda_t

8 ชั่วโมงที่แล้ว

101 views

วันนี้ (16 ต.ค.67) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เวลา 10.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พาพยานสำคัญที่รู้เห็นการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่ DSI ระดับสูง เข้าพบนายยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลลับ

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าช่วงที่เทวดาเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอน คือช่วงปี 2563 เทวดาได้มีการฝากฝัง “บุคคลคนหนึ่ง” ให้เข้ามาอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยให้มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยงานที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่โดยตรง ซึ่งเรื่องนี้มีมูลความจริง ในปีนั้นมีการฝาก และระบุเฉพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่คนนี้มาดูแลหน้าที่ตรงนี้

ซึ่งคอยดูแลคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องแชร์ลูกโซ่โดยตรง โดยจะมีการนำเครื่องเซ่นไหว้มาถวายให้ ซึ่งสายลับอาจจะเคยเป็นผู้ประสานเพื่อที่จะนำเครื่องเซ่นไหว้มาให้กับเทวดาที่ดีเอสไอ เพราะว่าสายลับคนดังกล่าวรู้เบื้องลึกเบื้องหลังรู้ขั้นตอน รวมถึงรู้ว่าจะต้องไปเบิกเงินถอนเงินเป็นนามสกุลอะไร พร้อมบอกว่าเทวดาที่ดีเอสไอเป็นระดับผู้บริหารแน่นอน จะต้องมีลูกน้องที่ตามอยู่ด้วย

เมื่อถามว่าบุคคลที่อยู่ในคลิปเสียงที่มีการหลุดออกมานั้น จะเชื่อมโยงกับเทวดาหรือไม่ นายเอกภพ ระบุว่า บุคคลในคลิปเสียงเป็นเพียงแค่ลูกกรอกของเทวดา ไม่ใช่เทวดาตัวจริง ถ้ามีการเปิดเผยตัวจริงของเทวดาออกมา หลายคนน่าจะตกใจ

เมื่อถามว่าเป็นระดับรัฐมนตรีหรือไม่ นายเอกภพ บอกว่ารัฐมนตรีอาจจะเป็นลูกน้องก็ได้ ข้าราชการที่หน่วยงานนี้รู้แก่ใจว่าเทวดาฝากมาจริงไหม แต่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษคนปัจจุบันยังไม่รู้เรื่อง เนื่องจากเป็นรองอธิบดีและอยู่ที่กรมอื่น โดยที่จะต้องให้ความเป็นธรรมกับท่านอธิบดีคนปัจจุบันด้วย

และที่สายลับบอกว่ามีการเซ่นไหว้ให้ 4 หน่วยงาน เมื่อวานที่ปรากฏมานี้ ถ้ารู้ว่าใครเป็นหน้าเสือในการดูแลทุกคนจะต้องตกใจ แล้วตนเองกับทนายตั้ม ยืนยันว่าจะเดินทางยื่นหนังสือกับอีก 3 หน่วยงานที่ถูกกล่าวอ้างว่ารับเครื่องเซ่นไหว้ ถ้าหากไปแล้วไม่มีใครออกมารับหนังสือ ก็จะฝากหนังสือไว้กับศาลพระภูมิ หรือรปภ.

และที่ก่อนหน้านี้บอสพอล ออกมาพูดว่าไม่รู้ว่าตนเองกำลังสู้อยู่กับอะไร นายเอกภพ ระบุว่าบอสพอลอาจจะสู้อยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คลิปที่หลุดออกมาอาจจะเป็นการพยายามสื่อไปถึงเทวดาว่าจะต้องปกป้องคุ้มครองบอสพอล เพราะถ้าหากไม่ปกป้องบอสพอล ก็จะพาทุกคนไปตายด้วยกันทั้งหมด จึงอยากเรียกร้องให้บอสพอล ออกมาเปิดเผยข้อมูลหากกลัวตายก็ให้ประสานมาที่นายเอกภพ หรือทนายตั้ม ยืนยันว่าก็จะปลอดภัยส่วนทรัพย์สินต่างๆให้นำไปขายคืนกับผู้เสียหาย

ด้าน ทนายตั้ม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวละคร “ธ” ในวันนี้ไม่อยากที่จะเปิดเผยข้อมูล เนื่องจากกลัวเจ้าตัวจะไหวตัวทัน แต่ได้บอกว่าบุคคลคนนี้เป็นเหมือนเกจิอาจารย์ของบอสพอล เคยติดต่อมาหาทนายตั้มตั้งแต่ปี 61 ก็ได้มีการติดต่อมาหาทนายตั้มไปทำธุรกิจร่วมลงทุน แต่ทนายตั้มได้ปฏิเสธไปและมั่นใจว่าไม่เคยเจอแต่น่าจะเคยคุยโทรศัพท์และเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวตนรู้จักเป็นอย่างดี

ส่วนกรณีที่ “ธ” ได้มีการออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบอสพอล ทนายตั้ม ย้ำว่าพรุ่งนี้ก็จะได้รู้ เพราะจะงัดหลักฐานเด็ดมาให้ได้ดูกัน  พร้อมบอกว่าขอขอบคุณปปง. ที่มีการยึดทรัพย์ของบอสพอล และเหล่าบอส เชื่อว่าน่าจะเป็นจากการกดดันที่ตัวเอง และเพื่อนทนายรวมไปถึงนายเอกภพสายไหมต้องรอดออกมาเรียกร้องให้ปปง.มีการยึดทรัพย์ก่อนที่จะประชุมวันที่ 17 ตุลาคม เพราะถ้าหากไม่มีการฟรีซทรัพย์สินไว้ ก็อาจจะมีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปที่อื่นแต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เงินสด ที่มีมูลค่าหลักร้อยล้านแต่ก็ยังมีที่ดินอีกเชื่อว่าถ้ายึดมาได้จะมีมูลค่าเป็นหลัก 1 พันล้าน

เมื่อถามว่าทำไมถึงมีการยึดทรัพย์สินเพียงแค่ 3 บุคคลทนายตั้ม ให้ข้อมูลว่าในการยึดครั้งนี้จะยึดเฉพาะตัวการที่สำคัญก่อน หลังจากนี้ก็จะมีการขยายผล และก็จะมีการอายัดเพิ่มเติม และเมื่อถามอีกว่าทำไมถึงยึดเพียงแค่ 90 วัน ทนายตั้ม ระบุว่าเป็นเพียงแค่การป้องกันการถ่ายโอนทรัพย์สินเท่านั้น หลังจากนี้ถ้าหากพบว่ามีความผิดก็จะสามารถยึดทรัพย์สินไว้ได้จนจบคดี

และในช่วงบ่ายนี้ ทนายตั้ม จะมีการไปยื่นหนังสือที่พรรคพลังประชารัฐ ถึงผู้บริหารพรรค ซึ่งมีการประสานไปแล้ว ปรากฎว่าทางพรรคแจ้งกลับมาว่าไม่มีใครอยู่ที่พรรค ตนเองก็ยืนยันว่าจะไปยื่นหนังสือเหมือนเดิม ถ้าหากไม่มีใครออกมารับก็จะยื่นไว้กับรปภ.


ต่อมาเวลา 12.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาให้ข้อมูลหลังพูดคุยกับทาง พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ


ทนายตั้ม ระบุว่าข้อมูลที่ทางสายลับของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ให้มานั้น เป็นข้อมูลที่สำคัญ ก็จะต้องดูว่าหลังจากที่ทางสายลับของนายเอกภพ มาให้ข้อมูลแล้วหลังจากนี้ทางดีเอสไอจะทำอย่างไรต่อไป เบื้องต้นจากการให้ข้อมูลไป ทางดีเอสไอก็ไม่ได้ยอมรับ แต่บอกว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น

พร้อมบอกวันนี้ที่มีการพูดคุยกัน ก็จะเน้นไปเรื่องบริษัทดิไอคอน ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปหลังจากนี้ ส่วนในเรื่องของราชการที่เกี่ยวข้อง ทางทนายตั้ม และนายเอกภพ ไม่อยากที่จะไปละลาบละล้วงเรื่องภายในมาก อยากจะให้รอทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก่อน

ซึ่ง นายเอกภพ ก็ได้เสริมขึ้นมาว่า รองอธิบดีบอกว่าหากพบใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็พร้อมที่จะสั่งย้ายและตรวจสอบความถูกต้อง นายเอกภพ บอกว่าจากการที่พูดคิดว่าคุยกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็รู้สึกสบายใจ เพราะมีการยืนยันว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องหรือใครก็ตามที่เข้ามาขัดขวางหรือรู้เห็นกับเรื่องนี้ ก็พร้อมที่จะสั่งย้าย

พร้อมบอกว่าภายในวันนี้ หรือภายในวันพรุ่งนี้ จะได้เห็นการทำงานของดีเอสไอ ซึ่งในช่วงบ่ายของวันนี้ดีเอสไอจะมีปฏิบัติการ ก็ขอให้ติดตามยืนยันว่ามีข้อมูลเชิญเหลืออีกเยอะ ซึ่งต้องดูว่าหน่วยงานออกมา ตรวจสอบมากแค่ไหน ถ้าหากมีหน่วยงานไหนละเลยตัวเองก็จะเดินทางไปที่หน่วยงานนั้น ซึ่งจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเป็นหน่วยงานราชการที่เข้ามามีส่วนพัวพันดิไอคอนทั้งหมด

คุณอาจสนใจ

Related News