อาชญากรรม
"บอล เชิญยิ้ม-เจนนี่-ผู้ใหญ่บ้าน ฟินแลนด์ พบ ปคบ. ยันบริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวข้องคดีทองแม่ตั๊ก
โดย nutda_t
2 ต.ค. 2567
111 views
นักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น - บอล เชิญยิ้ม และ ผู้ใหญ่บ้าน ฟินแลนด์ เดินทางมาพร้อมทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังเคยร่วมงานกับ "แม่ตั๊ก - ป๋าเบียร์" พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของทั้งคู่
วันนี้ทั้งสามคนนำทรัพย์สิน ของมีค่าที่เคยได้รับจาก แม่ตั๊กและเบียร์ มาส่งมอบให้กับตำรวจเพื่อตรวจสอบที่มาและเส้นทางการเงิน ว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยเจนนี่บอกว่า หลังพฤติกรรมของแม่ตั๊กถูกแฉ ตนเองก็ถูกกระแสโซเชียลมีเดียถล่มอย่างหนัก จึงอยากออกมาเคลียร์ทุกอย่างโดยเร็วที่สุด
แต่ที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะก่อนหน้านี้ยังติดสัญญาพรีเซนเตอร์อยู่ กลัวว่าจะผิดสัญญา และแม้จะรู้จักกันมานาน แต่ที่ผ่านมาก็เชื่อโดยสนิทใจมาตลอดว่า แม่ตั๊กร่ำรวยจริง แต่หลังเกิดเรื่อง ก็ได้นำทรัพย์สินเป็นกำไลที่ได้รับมาจากแม่ตั๊ก มาให้ตำรวจตรวจสอบว่า เงินที่นำมาซื้อกำไลนี้ เป็นเงินบริสุทธิ์ หรือเป็นเงินผิดกฎหมาย หากเป็นเงินผิดกฎหมาย ตนเองก็ยินดีที่จะคืนทรัพย์สินเหล่านี้
ขณะที่ บอล เชิญยิ้ม บอกว่า แม้ไม่อยู่ในรายชื่อดาราที่ร่วมไลฟ์ขายทองกับแม่ตั๊ก แต่ก็เคยร่วมงานไลฟ์ขายโกโก้ โปรตีน อาหารเสริมของแม่ตั๊ก เคยไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และงานคอนเสิร์ต ช่วงปี 2565 ตนเองจึงไม่อยากอยู่เฉย ขอออกมาแสดงความบริสุทธิ์ พร้อมยืนยันไม่ได้สนิทสนมกับแม่ตั๊กนอกเหนือจากงานที่รับ ไม่มีไปกินข้าวกันเป็นการส่วนตัว และไม่เคยรับสิ่งของอื่นใดนอกจากค่าตัวครั้งละ 1 แสนบาท และที่ยอมรับงานไลฟ์ ก็เพราะพิจารณาแล้วว่ามีคนเคยไปร่วมไลฟ์จำนวนมาก จึงคิดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น และพร้อมจะคืนเงินค่าตัวรวมทั้งทั้งหมด เพื่อให้นำเงินดังกล่าวไปเยียวยาผู้เสียหาย
ส่วน ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ บอกว่า ตนเองเคยไลฟ์สดขายทองกับแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ด้วยแต่เป็นการไลฟ์สดโดยที่ให้ตนเองยืนอยู่เฉยๆไม่ได้มีบทพูดอะไรมากมายและตนก็ไม่ทราบมาก่อนว่าแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ขายทองไม่ได้คุณภาพเห็นว่ามีร้านทองอยู่จริงดูน่าเชื่อถือ โดยตนได้รับค่าจ้าง ชั่วโมงละ 150,000 บาท
ด้าน ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ เปิดเผยว่า เงินและทรัพย์สินที่กลุ่มดาราและอินฟลูเอนเซอร์นำมาวันนี้ เป็นเงินที่เหล่าดาราและอินฟลูเอนเซอร์ได้มาอย่างสุจริต ตรวจสอบได้ และเป็นการส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ใช่การนำมาคืน เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ก็จะทำเรื่องร้องขอคืนภายหลัง ส่วนดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่รู้ตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่ยังไม่มาพบตำรวจ ก็ขอให้รีบมาพบ มิฉะนั้นจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมแนะนำด้วยว่าดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่จะรับงานไลฟ์สดเพื่อขายสินค้าทางออนไลน์หลังจากนี้ ให้ระมัดระวังว่าจะเข้าข่ายลักษณะกู้ระดมทุนในการฉ้อโกง หรือแชร์ลูกโซ่ แนะนำให้ไปจดทะเบียนกับ สคบ. ให้ถูกต้อง ส่วนคอนเทนต์เกี่ยวกับการทำบุญ สามารถทำได้ แต่อย่านำมาใช้หาประโยชน์ในทางธุรกิจ เพราะการให้เงินสดกับผู้อื่น ทำให้ผู้รับไม่ทราบที่มาที่ไปของเงิน