อาชญากรรม

เปิดคลิปนาที ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ดับสลด 23 ราย พลเมืองดีเล่านาทีเกิดเหตุ เพลิงโหมไว จนช่วยไม่ไหว

โดย petchpawee_k

2 ต.ค. 2567

190 views

สลด ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา นร.จากอุทัยธานี เสียชีวิต 23 ราย รอพิสูจน์อัตลักษ์บุคคล เปิดคลิปไฟโหมรถบัส  สุดเศร้า! นาทีผู้ปกครองโทรศัพท์หาครู ถามความปลอดภัยของลูก ครูถึงกับปล่อยโฮ คุยปลายสายทั้งน้ำตา คนเห็นเหตุการณ์ เล่านาทีเกิดเหตุ ไฟไหม้ไวมาก 

วานนี้ 1 ต.ค.67 เวลาประมาณ 12.08 น. มีรายงานว่าเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี​ ซึ่งเดินไปทางไปทัศน​ศึกษาจุดแรกที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา  มาแล้วในช่วงเช้า  และอยู่ระหว่างจะเดินทางไปจุดที่ 2 คือ ศูนย์การเรียนรู้ส่วนกลาง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.นนทบุรี


โดยเดินทางมาจำนวน 3 คัน จำนวน 110 คน (เฉพาะนักเรียน) ตั้งแต่ระดับชั้น อนุบาล 2 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ปรากฏว่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณเลนขวาสุดของช่องเลนด่วน ถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงหัวโค้งหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ  ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี  หรือห่างจากด้านหน้าเซียรังสิต ฝั่งขาเข้า กทม. ประมาณไม่ถึงกิโลเมตร รถบัสคันที่ 2 เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น  ซึ่งบนรถคันดังกล่าวมีครูและนักเรียนจำนวน 45 คน รวมคนขับอีก 1 เป็น 46 มีครู 6 คน นักเรียน 39 คน 


ซึ่งต่อมาพบว่า มีผู้สูญหาย 23 ราย เป็นครู 3 รายและนักเรียน 20 ราย ซึ่งหลัง จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรถบัสคันเกิดเหตุ พบทั้ง 23 ร่าง  แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นใคร ต้องรอพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล / ส่วนเด็กที่รอดชีวิต นำตัวออกมาพักที่ศูนย์พักคอย  โดยพบว่ามีผู้บาดเจ็บรวม 5 ราย เป็นครู 2 ราย เด็ก 3  ราย เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาล


นอกจากนี้ จากการตรวจสอบรายชื่อของนักเรียนที่เดินทางมาทัศนศึกษาในครั้งนี้ พบว่า มีนักเรียนที่ลงชื่อไว้ แต่ไม่ได้เดินทางมาทัศนศึกษาในครั้งนี้ด้วย 8 คน  


สำหรับเหตุการณ์นี้  มีหลายคนบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ ทุกคลิปจะเห็นว่ารถบัสถูกไฟโหมไหม้อย่างหนัก ทั่วทั้งคันรถ กลุ่มควันพวยพุ่งออกมาไม่หยุด


ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดจังหวะไฟเริ่มไหม้ พบว่าพอรถจอดนิ่ง  ไฟเริ่มไหม้จากฝั่งโซนหน้ารถ บริเวณบรรจุก๊าซ  จังหวะนี้ไฟเริ่มไหม้โซนหน้าของทั้ง 2 ฝั่งแล้ว พอไฟเริ่มไหม้ พบว่าคนขับได้ลงจากรถฝั่งขวา จากนั้นก็พยายามไปเปิดประตูกลางรถ เมื่อเปิดไม่ออก จึงเดินไปบริเวณประตูฉุกเฉินที่อยู่ด้านท้ายรถแล้วพยายามจะเปิดประตูอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าเปิดประตูไม่ออกประกอบไฟได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงวิ่งอ้อมไปทางด้านท้ายรถ


ขณะเดียวกันมีผู้ใช้ TikTok : Wiwat20052536 โพสต์คลิปนาทีไฟเริ่มไหม้ในช่วงแรกๆ ซึ่งคลิปนี้จะเห็นว่าเริ่มโหมไหม้อย่างหนักตรงโซนประตูกลางของรถ (ประตูกลาง ไม่ถึงกับซ้าย) ไปยังล้อหน้ารถฝั่งซ้าย ขณะที่ประตูด้านหน้ามีเด็กนักเรียนหญิงวิ่งออกมาอย่างทุลักทุเล จำนวน 2 คน ส่วนประตูกลางของรถ แง้มเล็กน้อย ไม่มีใครวิ่งออกมา ซึ่งคลิปนี้มีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า กระจกทึบและหนามาก มองเข้ามีแต่ควันเต็มรถแล้ว 


นอกจากนี้ ยังพบว่ามีชายคนหนึ่ง สวมใส่เสื้อยืดสีขาว ลายเสื้อแนวขวางสีน้ำเงิน-แดง พยายามเอาที่ดับเพลิงไปฉีดดับไฟอีกด้วย  ทีมข่าวทราบในเวลาต่อมาว่าชายคนนี้คือคนขับ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุพบว่าชายคนขับรายนี้ได้หลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ


ย้อนกลับไปก่อนไฟลุกไหม้รถบัส ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดช่วงก่อนเกิดเหตุ เวลา 12.07 น.พบว่ารถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม วิ่งมาด้วยกัน 3 คัน ในลักษณะตามๆกันมา คันที่ 2 มีควันสีขาวออกมาจากรถ


ต่อเนื่องอีกคลิปมุม เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ รถบัสคันที่ 2 ที่วิ่งอยู่ตรงกลางขับในลักษณะเซไปเซมา ก่อนเสียหลักขับไปชนกับรถเบนซ์สีดำที่ขับอยู่ด้านข้าง จากนั้นในจังหวะเข้าโค้งรถบัสก็ได้เสียหลักไปชนกับแท่งแบริเออร์บริเวณเกาะกลางถนน ครูดเป็นทางยาวหลายร้อยเมตร ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคัน


เหตุการณ์นี้ยังพบด้วยว่า มีภาพสะเทือนใจ คือภาพของนักเรียนหญิงชั้น ม.ต้นคนหนึ่ง ถูกไฟคลอกตามร่างกาย ใบหน้า และแขนทั้ง 2 ข้าง โดยน้องได้รับการช่วยเหลือออกมาจากรถ ก่อนนำ ส่ง รพ. 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์นี้กู้ภัยใช้เวลากว่า 40 นาที ถึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ กระทั่ง 13.30 น. ทีมข่าวลงพื้นที่ถึงจุดเกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่กูภัยยังคงฉีดน้ำดับไฟที่ตัวรถบัสต่อเนื่อง  เนื่องจากที่บรรจุก๊าซของรถบัสยังมีควันปะทุต่อเนื่อง


ทีมข่าวได้คุยกับหนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์   คือ นายไกรเลิศ อิสวัสดิ์   เล่าว่า ตนขับรถคู่มากับรถบัสคันดังกล่าว โดยรถบัสขับตามมาต่อกันมา 3 คัน แต่รถคันที่เกิดเหตุ ตนสังเกตเห็นว่ามีควันขึ้นที่หลังคารถ จึงจอดรถเพื่อที่จะหาถังดับเพลิง เป็นจังหวะที่รถเมล์ขับผ่านมาพอดี ตนจึงได้โบกรถเมล์ให้จอดแล้วเอาถังดับเพลิงมาฉีด  ทุกคนพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่อยู่ด้านใน แต่ว่าไฟมันแรงมาก ใช้เวลาเพียง 4 นาที ไฟโหมทั้งคัน จึงถอยออกมาก่อน


จากนั้นก็เห็นว่าไฟมันลุกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตนมองไม่เห็นเลยว่า จำนวนเด็กมีประมาณเท่าไหร่และไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องเลย เห็นเพียงเด็ก 2 คนวิ่งออกมา  มีไฟท่วมทั้งตัว พร้อมกับครูอีก 1 คน


ขณะที่จุดเกิดเหตุ ทีมข่าวได้เจอกับนายเอกริน อายุ 41 ปี ครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ที่เดินทางมากับรถบัสคันที่ 1 พอทราบข่าว ก็วนรถกลับมาจุดเกิดเหตุเพื่อเช็คจำนวนนักเรียน ปรากฏว่าตลอดเวลา  มีผู้ปกครองโทรศัพท์มาหาครูเอกริน เพื่อสอบถามว่าลูกของตัวเองปลอดภัยหรือไม่  บางครั้งครูเอกริน ถึงกลับปล่อยโฮออกมา เพราะสามารถบอกผู้ปกครองได้เพียงว่ากำลังตรวจสอบอยู่  บางสาย โทรศัพท์มาสอบถามถึงความปลอดภัยของครูเอกรินเอง เจ้าตัวบอกปลายสายไปว่าปลอดภัยดี  แต่บนรถคันเกิดเหตุนี่สิ มีแต่เด็ก มีแต่เด็กตัวน้อยๆ แล้วครูก็อยู่บนรถ 3 คนลงมาไม่ได้เหมือนกัน


ต่อมาครูเอกริน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนมารถคันที่ 1 ขับนำไปก่อน  ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดคืออะไร  แต่ทราบว่า คนขับรถด้วยกันเองโทรศัพท์หาคนขับรถคัน ที่ 2 ไม่ติด  จึงลองให้ตนโทรหาครูด้วยกัน  แต่ก็ไม่มีใครโทรติดเลย  จึงย้อนรถกลับมาดู ก็เห็นว่ามีควัน พอมาถึงไฟก็ลุกไหม้รถหมดแล้ว พอมาเห็นเหตุการณ์  ทุกคนได้แต่ร้องไห้ เพราะทำอะไรไม่ได้ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ทำอะไรไม่ถูกกันเลย


นอกจากนี้ ทีมข่าวได้คุยกับนายปรีชา อายุ 50 ปี นักการภารโรง ที่มากับรถคันที่ 3 เล่าว่า ตนมาเห็น ก็ตอนจังหวะที่ไฟลุกแล้ว จากนั้นก็มีคนพยายามมาช่วยและเอาถังดับเพลิงไปฉีด  แต่ก็เอาไฟไม่อยู่ก่อนจะลุกไหม้ไปทั้งรถ  จากนั้นตนเห็นเด็กวิ่งออกมา 16 คน  โดยมีเด็กหนึ่งคนที่โดนไฟคลอกตามร่างกาย  ส่วนครูออกมาได้ 3 คน  จังหวะนั้นไม่ได้มีการสอบถามครูว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกคนพยายามช่วยเด็กก่อน  แต่ตนได้ข้อมูลว่ารถบัสยางระเบิด ก่อนหักหัวรถไปชนแบริเออร์ พอไปจอดก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น


ส่วนตนเองนั่งมาในคันที่ 3 ห่างกันประมาณ 200 เมตร พอลงไปดูก็เห็นจังหวะที่เด็กลงมาแล้ว ไฟมันไหม้ จนเอาไม่อยู่ ไฟลุกเร็ว


 โดยการเดินทางครั้งนี้ ตอนเช้าพอแวะที่อุทยานประวัติศาสตร์วัดพระศรีสรรเพชญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็จะมุ่งหน้าไปที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนนทบุรีต่อ ซึ่งประมาณ 13.00 น. คาดว่าจะไปชมนิทรรศการกัน แต่จะแวะทานข้าวเที่ยงกันก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้ ซึ่งตามกำหนดการครั้งนี้  เป็นการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับและคาดว่าจะกลับจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประมาณ 15.00 น. ก่อนเดินทางกลับจังหวัดอุทัยธานี เวลา 20.00 น. ส่วนตัวรู้สึกหดหู่กับเหตุการณ์ครั้งนี้ พูดไม่ออก


ทีมข่าวได้เจอกับนายสานนท์ คนขับรถคันที่ 3 ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนวิ่งไปช่วยคนบนรถบัสคันเกิดเหตุ จนถูกไฟลวกเล็กน้อย ผมด้านบนก็มีร่องรอยของการถูกไฟไหม้บางส่วน  แต่เบื้องต้นปลอดภัยดี


โดยนายสานนท์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนขับรถตามหลังคันที่เกิดเหตุ มาถึงก็เจอไฟไหม้แล้ว มองไม่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก เพราะจังหวะนั้นเป็นทางโค้ง จากนั้นพอเห็นไฟไหม้ ตนก็ลงรถแล้ววิ่งไปช่วย  แต่ขึ้นไปบนรถบัส ไฟก็ลุกไหม้มาทุกทิศทุกทางแล้ว ช่วยเด็กลงมาได้บางส่วน แค่ตรงบริเวณประตูด้านหน้า ไม่รู้ว่าตอนนั้นเหลือคนมากน้อยแค่ไหน ไม่นับว่าใครเป็นใคร ช่วยใครได้ช่วยลงมาก่อน  ส่วนคนขับรถคันเกิดเหตุ ตนไม่ทราบว่าขณะนั้นหายไปไหนอย่างไร เพราะชุลมุนมากๆ ส่วนคนขับรถคันที่เกิดเหตุ ก็พอจะรู้จัก แต่ไม่ได้สนิทอะไร


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/UG2se_GCFFs


คุณอาจสนใจ

Related News