อาชญากรรม

ผู้เสียหายบุกแจ้งความเอาผิด "แม่ตุ๊ก" เท้าแชร์และอ้างตัวเป็นนักลงทุน สูญกว่า 100 ล้าน เผยที่เชื่อเพราะโปรไฟล์ดี

โดย kanyapak_w

28 ก.ย. 2567

8K views

วันที่ 28 ก.ย.67 น.ส.สกุลกาญจน์ ,น.ส.วรนิษฐา และ น.ส.จุฑาพร 3 ในผู้เสียหายเบื้องต้น 93 ราย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.มานพ อัษรณรงค์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองบุรีรัมย์



เพื่อให้เอาผิด น.ส.วิลาสินี หรือตุ๊กอายุประมาณ 35 ปีชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่าตอนนี้หลบหนีไปต่างประเทศ โดยทั้ง 3 กล่าวหา น.ส.วิลาสินี ฐานฉ้อโกง และเชื่อว่าน่าจะมีคนถูกหลอกมากกว่า 100-200 คน ทั่วประเทศ



น.ส.กิ๊ก อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดยโสธร หนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาแจ้งความ เล่าว่าตนเล่นแชร์กับ น.ส.ตุ๊กติ๊ก หรือที่เรียกในวงแชร์ว่า "แม่ติ๊ก" สูญเงินไปทั้งหมดกว่า 400,000 บาท ตนเล่นแบบรับเงินก้อนเดียว พอเขาแกล้งล้มจึงไม่มีโอกาสได้เงินกับเขา



นอกจากนี้ยังมีอีกมุมหนึ่งคือหลอกให้เราลงทุนเพื่อได้เงินดอกระยะสั้น จะได้ดอกเบี้ยง 1-3 เปอร์เซ็นต์ จะได้ค่าตอบแทนภายใน 2 วันหรือ 3 วันแล้วแต่คนจะไม่เหมือนกัน



แม่ติ๊ก จะบอกตลอดเวลาว่า "ฉันเป็นเมียตำรวจ”มีระดับรู้จักกับนายใหญ่ โดยจะระบุสั้นๆ ว่ารู้จัก "นาย" สาเหตุที่เชื่อเพราะโปรไฟล์เขาดี ชอบทำบุญล่าสุดเอาเงินไปบริจาคมูลนิธิที่บุรีรัมย์ให้ไปช่วยน้ำท่วมครั้งละ 100,000 บาท ทั้งยังใช้ของแบรนด์เนมที่ดูน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการจัดงานวันของแม่ติ๊ก เขาจะไม่ว่างบอกว่ายุ่งคอยรับนายที่จะมาร่วมงานวันเกิด



เช่นเดียวกับ น.ส.กบ(นามสมมุติ)ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า ตอนนี้ได้มีการแยกกันแจ้งความ กลุ่มหนึ่งจะไปร้องที่กองปราบเพื่อขอความช่วยเหลือ ตอนนี้มีผู้เสียหายตั้งแต่หลักหมื่นไปถึงหลัก 3 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายเฉพาะกลุ่มพวกตน 93 คน เสียหายไปประมาณ 50 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมกับจังหวัดอื่นซึ่งคาดว่าจะมีอีกเป็นจำนวนมากน่าจะเกินกว่า 100 ล้านบาท



ตอนแรกดูเหมือนว่าจะไม่ได้หลอก แต่เขาใช้เงินมากในการสร้างโปรไฟล์ เอาเงินของพวกตนเปย์ความสุขให้กับตนเองและครอบครัว ต่อมายังทราบอีกว่าก่อนหน้านี้เคยทำในลักษณะนี้มาแล้ว ด้วยการหลอกเอาเงินพอได้เงินหนีไปต่างประเทศ 2 ปี แล้วกลับมาด้วยสภาพใบหน้าเปลี่ยนไป



น.ส.กบ เล่าอีกว่าหลังจากสมาชิกรู้ว่าว่าถูกหลอก ได้มีการแชททางไลน์ทวงเงินกันสารพัด แม่ติ๊กใช้วิธีสกปรกอีกคือสัญญาว่าจะคืนเงินให้ทั้งหมดแต่ขอทยอยจ่ายให้ สมาชิกดีใจที่จะได้รับเงินคืน แต่ปรากฏว่าโอนเข้าบัญชีแต่ละคนครั้งละ 100 บาทเท่านั้น และพยายามโอนมาเป็นประจำ ส่วนตัวเชื่อว่าเขาจะเลี่ยงให้เป็นคดีแพ่งหรือไม่ตนไม่ทราบ



ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลว่าประมาณ 21.40 น.(27 ก.ย.)ตำรวจ สภ.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น แรนเจอร์ สีดำทะเบียนกรุงเทพชนแท่นแบริเออร์บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)สาขาโชคชัย



ตรวจสอบภายในรถพบ ด.ต.ณัฐพล อายุ 42 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ (นปพ.) กก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ ผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งบริเวณที่นั่งคนขับสันนิษฐานเป็นผู้ขับรถดังกล่าวจากนั้นได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาตัวที่ โรงพยาบาลโชคชัย ซึ่งภายหลัง ด.ต.ณัฐพลฯ ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา



ตรวจสอบเบื้องต้นพบบาดแผลถูกยิงห้วยอาวุธปืนที่บริเวณศีรษะด้านขวา ด.ต.ณัฐพลฯ และพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น พี320 ตกอยู่บริเวณที่พักเท้าด้านคนขับ จำนวน 1 กระบอก



สอบถามเพื่อนร่วมงาน ทราบว่า น.ส.วิลาสินี ภรรยาของผู้ตายกำลังถูกดำเนินคดีเรื่องความผิดตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ ในพื้นที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ขณะเกิดเหตุ ผู้ตายขับรถยนต์อยู่ ได้โทรศัพท์คุยกับภรรยา แล้วเกิดความเครียด จึงได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าว ยิงฆ่าตัวตัวตาย แล้วรถยนต์เสียหลักไปเฉี่ยวชนกับแท่งแบริเออร์



สำหรับ น.ส.วิลาสินี ก่อนหน้านั้นเคยทำในลักษณะเดียวกัน และทราบว่าสามีเป็นคนเคลียร์ปัญหาให้ พอกลับมาจากต่างประเทศมีพฤติกรรมเช่นเดิม ซึ่งอาจจะทำให้ ด.ต.ณัฐพล หมดกำลังใจที่จะสู้กับภรรยาคนนี้ต่อ จึงคิดสั้นดังกล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,หลอกลงทุน ,แม่ตุ๊ก

คุณอาจสนใจ

Related News