อาชญากรรม

มิจฉาชีพฉกเงิน 1 หมื่นบาทที่รัฐบาลแจกให้กลุ่มเปราะบาง ผู้จัดการธนาคารโพสต์ให้นำมาคืน

โดย kanyapak_w

6 ชั่วโมงที่แล้ว

634 views

มิจฉาชีพฉกเงิน 1 หมื่นบาทที่รัฐบาลแจกให้กลุ่มเปราะบาง ผู้จัดการ ธ.ก.ส.อำเภอโนนไทยโพสต์ประกาศให้มิจฉาชีพนำเงินมาคืนเจ้าของ หลังผู้เสียหายไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มแล้วเงินออกช้า ก่อนถูกมือดีตามมาหยิบเอาเงินไป วอนคนที่หยิบไปให้รีบนำมาคืน



วันนี้ (27 กันยายน 2567) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาโนนไทย อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสอบถามกรณีที่ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาโนนไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กลงใน “กลุ่มโนนไทยบ้านฉัน” ว่า ท่านผู้ที่เอาเงินหมื่นของคนแก่ไป ให้รีบนำเอามาคืนนะครับ ภาพท่านอยู่ในกล้องวงจรปิด ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาโนนไทย



นายมทนะ ผู้จัดการธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาโนนไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วานนี้ (26 กันยายน 2567) โดยหญิงอายุ 47 ปี คนหนึ่งที่เป็นผู้เสียหายได้ไปทำการกดเงิน 1 หมื่นบาทที่รัฐบาลแจกให้ ที่ตู้เอทีเอ็มในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ซึ่งหลังจากทำการกดไปแล้ว หญิงผู้เสียหายได้ยืนรอสักครู่ แต่เงินไม่ยอมออกจากตู้เอทีเอ็ม ออกคืนมาเพียงแต่บัตรเอทีเอ็มเท่านั้น



ทางผู้เสียหายจึงได้ยืนรออยู่สักพัก ก่อนที่จะทำการเดินทางไปยังธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาจอหอ เพื่อไปทำการกดเงินอีกรอบ แต่หลังจากผู้เสียหายได้นำสมุดบัญชีไปปรับที่ ธ.ก.ส.สาขาจอหอ ก็พบว่า จำนวนเงิน 10,000 บาท ที่กดออกมาที่ตู้เอทีเอ็มในปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.โนนไทย ก่อนหน้านี้ได้ออกมาแล้ว



ผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงกับทาง ธ.ก.ส.สาขาโนนไทย ว่า เงินที่กดไปดังกล่าวนั้นออกมาจริงหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จำนวนเงิน 10,000 บาท ที่ผู้เสียหายกดไปได้ออกจากตู้เอทีเอ็มที่ผู้เสียหายไปกดในปั๊มน้ำมันแล้ว และน่าจะมีคนหยิบไปหลังจากที่ผู้เสียหายเดินออกไปเพราะคิดว่าเงินไม่ออก ตนจึงได้โพสต์เตือนในเฟซบุ๊กเพื่อให้คนที่หยิบเงินของผู้เสียหายไปรีบนำเอามาคืน เพราะกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงเอทีเอ็มสามารถจับภาพคนที่หยิบเงินไปได้ และตำรวจสามารถติดตามตัวได้อย่างแน่นอน



นางเกษร อายุ 47 ปี ชาวอำเภอโนนไทย ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (26 กันยายน 2567) เวลาประมาณ11.00 น. ตนได้เดินทางมากดเงิน 10,000 บาท ที่ ธ.ก.ส. สาขาโนนไทย แต่เนื่องจากมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ตนจึงเดินทางไปที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเพื่อไปกดเงินยังตู้เอทีเอ็มภายในปั๊ม โดยตนได้กดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพฯ ที่อยู่ภายในปั๊ม แต่ปรากฏว่าเงินไม่ออก มีแค่บัตรเอทีเอ็มที่เด้งออกมาคืน ตนจึงพยายามเดินไปกดเงินกับตู้เอทีเอ็มอื่นที่อยู่ในปั๊มทุกตู้แต่ปรากฏว่า กดเงินไม่ได้เช่นกัน ตนจึงเดินทางไปยัง ธ.ก.ส.สาขาจอหอ เพื่อลองไปกดเงินดู แต่ก็กดไม่ได้



ตนจึงได้เข้าติดต่อกับธนาคารฯ จึงทราบว่า เงินดังกล่าวได้ถูกกดออกไปแล้วจากตู้เอทีเอ็มภายในปั๊มน้ำมัน เมื่อได้ยินตามนั้นตนจึงรีบเดินทางไปพบกับผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาโนนไทย เพื่อให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่าเงินดังกล่าวถูกกดออกจากตู้เอทีเอ็มที่ปั๊มน้ำมันจริง ตนจึงได้เดินทางเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่หน้าตู้เอทีเอ็มดังกล่าว ซึ่งตำรวจได้บอกกับตนว่า ได้ยื่นเรื่องขอภาพกล้องวงจรปิดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพฯ แล้ว และต้องรอผลประมาณ 7 วัน



นางเกสร เปิดเผยอีกว่า เงิน 10,000 บาท ที่ตนเดินทางไปกดนั้น คือ เงิน 10,000 บาท ที่รัฐบาลแจกให้ ตนต้องรีบไปกดเงินเพราะจะนำเงินไปรักษาญาติซึ่งป่วยหนัก ซึ่งเงิน 10,000 บาทก้อนนี้จำเป็นสำหรับครอบครัวของตนอย่างมาก เพราะนอกจากจะใช้มาเป็นค่าใช้จ่ายรักษาญาติที่ป่วยแล้ว ยังจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ซึ่งครอบครัวของตนยากจน เสาหลักของครอบครัวก็คือ ลูกสาว ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ และกำลังฝึกงาน ทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์ลูกสาวของตนจะต้องเดินทางกลับจากอำเภอสีคิ้วซึ่งเป็นสถานที่ฝึกงาน กลับมายังอำเภอโนนไทย เพื่อรับจ้างล้างจานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อจะได้มีเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว



ตนจึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางธนาคารให้เร่งตรวจสอบเรื่องเพื่อนำเงิน 10,000 มาคืนให้กับตน ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากความขัดข้องของตู้เอทีเอ็ม ซึ่งตนยังมีความหวังที่จะได้เงินก้อนนี้คืน แต่ถ้าหากพบว่าเงินออกจากตู้เอทีเอ็มแล้วมีคนหยิบไปจริง ก็อยากจะฝากถึงคนที่หยิบเงินจากตู้เอทีเอ็มไป อยากให้นำมาคืนตนโดยเร็วเพราะว่า เงินดังกล่าวมีความสำคัญ และจำเป็นต่อครอบครัวของตนอย่างมาก



ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนไทย ทราบว่า กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเกิดขึ้นได้ 2 กรณี คือ กรณีแรกเกิดจากความผิดพลาดของตู้เอทีเอ็ม ซึ่งแสดงผลว่าเงินออกจริง แต่เงินอาจจะยังไม่ออกจากตู้ ส่วนอีกกรณี คือ เงินออกจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าวไปแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่ได้อยู่คอยรอรับเงิน ก่อนที่จะมีบุคคลอื่นมาหยิบเงินไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือส่งไปยังธนาคารต้นสังกัดเพื่อขอดูภาพวงจรปิดจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าวแล้ว และจะติดตามเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป



คุณอาจสนใจ

Related News