อาชญากรรม

จับได้แล้ว! คนร้ายฆ่าสาวทอมขับโบลท์ หมกร่องน้ำข้างทาง พบเพิ่งพ้นคุกคดียักยอกทรัพย์ ก่อนก่อเหตุซ้ำ

โดย petchpawee_k

20 ก.ย. 2567

143 views

พบร่างสาวทอมดับปริศนาในคูน้ำข้างทาง หลังญาติประกาศตามหา ออกไปส่งผู้โดยสารแล้วขาดการติดต่อ คาดถูกฆ่าชิงทรัพย์  ล่าสุด ตร.รวบตัวคนร้ายได้แล้ว 

กรณี เพจกระแสข่าวรายวัน โพสต์ข้อความระบุว่า “ช่วยกันประชาสัมพันธ์ ตามหาบุคคลหายพร้อมรถยนต์ น.ส.ฐิติรัตน์ อายุ 47 ปี หายไปพร้อมรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ MG สีดำ โดยขับรถออกจากบ้านในพื้นที่ของสน.ดินแดง เมื่อ 15.00น. ของวันที่ 10 กันยายน 67 ญาติทราบว่าเจ้าตัวไปรับผู้โดยสารไปส่งยังปลายทางในพื้นที่ จ.นครปฐม ปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้เกรงว่าจะเกิดอันตราย ให้พบเห็นรถหรือบุคคลช่วยติดต่อกลับ”

ขณะที่ฝั่งญาติ น.ส.ฐิติรัตน์ ก็โพสต์ข้อความตามหาเหมือนกัน โดย 17 กันยายน 2567 ช่วงเที่ยงๆ โพสต์ว่า "กะทิเอ้ยอยู่ไหนกลับบ้านได้แล้วลูก ทุกคนเป็นห่วงเพื่อนๆในเฟซช่วยแชร์กันหน่อยนะ หลานสาวหายออกจากบ้านไปหลายวันแล้ว ยังไม่กลับช่วยกันแชร์หน่อยค่ะหลานสาวป้านี"

ส่วนแฟน ของคุณฐิติรัตน์ ก็โพสต์ข้อความตามหาเช่นกัน ในวันที่ 18 กันยายน ช่วง 17.30 น. โดยบอกว่า "ขอใช้โพสต์นี้ตามหาพี่ทิหน่อยนะคะ พี่ทิหายไปตั้งแต่วันพุธที่11 กันยายน ตอนกลางคืน ตอนไปส่งลูกค้าที่นครปฐม หายไปจนกระทั่งถึงวันนี้ เป็นเวลา 7 วันแล้ว โทรศัพท์ปิดเครื่อง ติดต่อไม่ได้ ครอบครัวทุกข์ใจมาก ถ้าใครมีเบาะแส ติดต่อมาที่เฟซปลาได้เลยนะคะ ใครพบเห็นนางสาวฐิติรัตน์ ขับรถmg3สีดำ แจ้งมาเฟซนี้ได้เลยค่ะ พร้อมกับแนบเบอร์โทรศัพท์มาให้”


ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) พ.ต.ต.รัชนาท ราษฎรปราณี สว.สอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งพบศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู หมู่ 5 ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม


ที่เกิดเหตุเป็นป่าหญ้าริมถนนเข้าไปประมาณ 3 เมตร พบศพผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าแช่ในร่องน้ำ ขึ้นอืดมีหนอนไต่ จึงนำศพขึ้นมาตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ร่างกายส่วนบนสภาพเน่าเปื่อย ส่วนที่จมอยู่ในน้ำเนื้อหนังเน่าเปื่อย ลักษณะเป็นกะโหลกศีรษะและกระดูกช่วงแขนข้างซ้าย ลำคอมีสายชาร์จโทรศัพท์สีขาวพันอยู่ ส่วนร่างกายส่วนล่างยังคงสภาพ สวมเสื้อยีนส์ มีผ้ารัดอกสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น สวมถุงเท้าสีขาว ตรวจสอบพบทรัพย์สิน ข้อมือข้างขวาสวมใส่นาฬิกาโลหะ ข้อมือซ้ายสวมใส่กำไลลูกปัดสีดำ 1 เส้น ตรวจสอบภายในกระเป๋าเสื้อ พบกระเป๋าสตางค์สีเขียว จำนวน 1 ใบ


ภายในพบบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ระบุชื่อ น.ส.ฐิติรัตน์ ชาติพุทธ์ อายุ 47 ปี  เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน จึงมอบศพให้มูลนิธิส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.นครปฐม


สอบถามนายสุรเชษฐ์ อายุ 32 ปี ผู้พบศพคนแรก มีอาชีพทำนา อยู่ใกล้ที่พบศพ กล่าวว่า ช่วงเช้าตนกำลังกำลังจะเข้าไปหาหน่อต้นกล้วยที่คันนา และได้กลิ่นเหม็นมากเลยเดินหาจนมาเจอศพจมร่องน้ำในป่าหญ้า จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ไม่คิดมีศพอยู่ตรงนี้

ขณะที่นายสมปอง ผู้พบศพอีกราย เล่าว่า มาตัดกล้วยเห็นและได้กลิ่นเหม็น จึงดูพบกระโหลกศรีษะสภาพเน่าเปื่อย จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่า เมื่อก่อนอาทิตย์ เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ตนได้ยินเสียงหมาเห่าดังผิดปกติ เหมือนเห่าเห็นคนแปลกหน้าเข้าในพื้นที่ คาดว่าน่าจะช่วงที่คนร้ายนำศพมาทิ้งแน่ๆ

ทั้งนี้ ตำรวจได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเอาไว้ก่อน ก่อนจะประสานตำรวจชุดสืบสวนกระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดวงจรปิด เพื่อเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดเกิดจากปมฆ่าชิงทรัพย์ และนำศพมาทิ้งที่เกิดเหตุ

ด้านกู้ภัยเปิดเผยกับทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ว่า ตอนเจอศพอยู่ร่องน้ำข้างทาง ช่วงศีรษะแช่น้ำเน่าเปื่อยมาก ส่วนช่วงข้างล่างอยู่บนพื้นดิน คาดศพเน่ามาประมาณ 3-4 วัน ซึ่งจุดเจอศพอยู่บนถนนเส้นทางถนนห้วยพลู ถนนนครชัยศรี ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเปลี่ยว มืดมีไฟเป็นช่วงๆ

ขณะที่ช่วงบ่าย ได้มีบิดา มารดา พี่ชายญาติและเพื่อนของ นางสาวฐิติรัตน์ ผู้เสียชีวิตได้เดินทางเพื่อเข้ามาขอดูศพที่สำนักงานใหญ่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ นครปฐม ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจและได้มีการสอบถามถึงสภาพศพของผู้ตายกับเจ้าหน้าที่

โดยได้มีการแนะนำว่าเป็นเอกสิทธิ์ของญาติ ที่จะขอสามารถดูศพได้ แต่ไม่อยากให้ปรากฏภาพบาดใจ และแนะนำให้ดูภาพจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุซึ่งได้เก็บหลักฐานเป็นบัตรต่างๆ และทรัพย์สินรวมถึงเสื้อผ้าของผู้ตาย ก่อนที่จะเตรียมส่งไปผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจในช่วงเย็นนี้ โดยหลังจากมีการสอบถามข้อมูลต่างๆ จนครบถ้วนทางครอบครัวของผู้ตายถึงกับแสดงความเสียใจด้วยการโผลกอดกันและส่งเสียงร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า กับการจากไปของสมาชิกในครอบครัว

นางเข็มทอง อายุ 69 ปี มารดาของผู้ตาย บอกว่า ปกติลูกสาวก็มีอาชีพเสริมเป็นการขับรถแกร็บเพื่อส่งลูกค้าไปยังจุดต่างๆ ซึ่งวันเกิดเหตุรู้ว่าอยู่บ้านแฟนและบอกแฟนว่าจะออกไปส่งลูกค้าและติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เวลาสี่ทุ่มของวันที่ 10 กันยายน และคิดว่ากำลังขับรถอยู่จึงได้เอะใจอะไร ซึ่งประเด็นที่มีการไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าช้า เนื่องจากแฟนของลูกสาวได้บอกไว้ว่าไปแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาก็ได้สอบถามแฟนลูกสาวไปอีกครั้งหนึ่งว่า ได้มีการแจ้งความไปแล้วหรือยังเขาก็บอกว่าแจ้งไปแล้ว จนกระทั่งสอบถามอีกทีจึงมาทราบว่าเพิ่งมีการไปแจ้งความเมื่อวันที่ 14 กันยายน

โดยเมื่อไม่พบตัวทางบ้านจึงได้ตัดสินใจไปแจ้งความไว้อีกครั้งเมื่อวันที่ 16 กันยายน ซึ่งโดยปกติแล้วลูกสาวก็จะไม่หายหลายวัน แต่ที่ชัดเจนคือตอนนี้รถยนต์ของลูกสาวก็ได้หายไปด้วย ส่วนประเด็นอื่นยังไม่รู้เรื่องอะไรที่แน่ชัดและยังไม่พร้อมให้ข้อมูลอะไรได้มากนักเนื่องจากยังเสียใจและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยตำรวจได้เช็คไทม์ไลน์ GPS รถของผู้ตาย หลังจากรับรถไปเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 67 เวลา 17.41 น. พบรถคันดังกล่าวขับผ่านตลาดเกรียบขาออก จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลา 18.33 น. แยกปากงาขา จ.สิงห์บุรี

เวลา 20.28 น. รถดังกลัวขับมาในพื้นที่ใกล้ สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ซึ่งจุดนี้มีการจอดค้างคืน

ส่วนในวันที่ 14 ก.ย. 67 เวลา 06.21 น. มุ่งหน้าเข้าชัยนาท (ขาเข้า กทม.)

06.41 น. เข้า อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี

เวลา 8.26 น. เข้าพื้นที่ อ.กำไแพงแสน จ.นครปฐม  

เวลา 9.30 น. มุ่งหน้าเข้าพื้นที่แยกวังเย็น จ.ราชบุรี

เวลา 10.45 น. มุ่งหน้า จ.เพชรบุรี

เวลา 11.30 น. มุงหน้า จ.ประจวบ

เวลา 13.43 น. มุ่งหน้า จ.ชุมพร

เวลา 18.19 น. มุ่งหน้าเข้าแยหบ่อแสน จ.พังงา

เวลา 19.17 น. ผ่านเข้าพื้นที่ท่าฉัตรชัย จ.ภูเก็ต


ต่อมาช่วงค่ำ วันที่ 19 ก.ย.2567 พล.ต.ต.น ภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พร้อม ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พบรถคันดังกล่าวขับอยู่บริเวณใกล้สนามบินนานภูเก็ต พื้นที่ สภ.สาคู จึงเข้าควบคุมตัวคนขับรถคันกล่าว เป็นหญิงสาวอายุประมาณ 47 ปี

โดยควบคุมตัวไปสอบปากคำ โดยอ้างว่า พ่อได้ซื้อรถมาจากพื้นที่นครปฐมแล้วมาให้ตนขับในพื้นที่ภูเก็ต โดยไม่ทราบว่า รถคันดังกล่าวเจ้าของถูกฆาตกรรม ขณะนี้ชุดสืบสวนภาค 8 อยู่ระหว่างขยายผลถึงคนขายรถคันดังกล่าวต่อไป

ล่าสุดหลังขยายผล ตร.จับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ทราบชื่อ นายณรงค์ศักดิ์ อายุ 35 ปี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง  หลังจากเรียกรถ ของผู้ตาย มาส่งบริเวณจุดแถววัดพระประโทน อำเภอเมืองนครปฐม หลังจากนั้น ผู้ต้องหาขับรถคันดังกล่าวไปคนเดียวมุ่งหน้าไปเส้น ต.หนองงูเหลือม อำเภอเมืองนครปฐม  เพื่อไปหาแฟนสาวแถวกำแพงแสน และหลังจากนั้นทางผู้ต้องหาพาแฟนสาวไปเปิดเบอร์โทรฯที่นนทบุรี แถวเวสต์เกต แล้วพาแฟนขึ้นรถคันดังกล่าวไปขายของที่ตลาดนัด วัดไผ่หูช้าง

จากนั้นผู้ต้องหาจอดรถไว้ และมีการโทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อน มาเอารถของผู้ตายขับวนไปมา จากเส้นทางชัยนาทวนไปจังหวัดภูเก็ต

ทางชุดสืบสวนภาค 7 พร้อมด้วยชุดสืบสวนจังหวัดนครปฐม จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ จากไทม์ไลน์ ของเส้นทางการหลบหนี  จนสืบทราบว่ามี ตร.นั่งเครื่องจากดอนเมืองไปรับรถยนต์คันดังกล่าว  และคาดว่าน่าจะเห็นข่าว จึงขับรถคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ จนมีคนไปพบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  

จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้ต้องหาก่อนมาก่อเหตุเคยมีคดียักยอกทรัพย์ รถจักรยานยนต์ที่นนทบุรี และเพิ่งพ้นคุกมาจนมาก่อเหตุซ้ำ



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/eXCsWRz2P0g

คุณอาจสนใจ

Related News