อาชญากรรม

ยกเลิกเผาศพ เด็ก ม.3 แม่หวั่นถูกจัดฉากผูกคอตาย เผยคลิปเสียงรุ่นพี่เล่า รุมกระทืบ จับแขวนคอทั้งเป็น

โดย thichaphat_d

19 ส.ค. 2567

2.1K views

เด็กชาย ม.3 หายออกจากบ้าน พบศพผูกคอตาย ลำตัวมีรอยช้ำ-ปากแตก-คิ้วแตก คล้ายถูกทำร้าย หลังน้องเสียชีวิตรุ่นพี่เทคนิคฯ ช่างกล เรียกรุ่นน้องไปคุย กระทั่งทราบถูกจับมัดมือมัดเท้ารุมกระทืบ ยังไม่ตายถูกจับแขวนคอทั้งเป็น ดิ้นรนเอาชีวิตรอดสุดท้ายสิ้นใจ แม่เชื่อถูกจัดฉากฆาตกรรม ญาติกำลังจะเผาศพ ตำรวจอายัดส่งพิสูจน์

วานนี้ (18 ส.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ ด.ช.ซี อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ หลังหายตัวออกจากบ้านเมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 ไม่มีใครติดต่อได้ ครอบครัวจึงพากันออกตามหาและโพสต์เฟซบุ๊กตามหา แต่ไม่พบ

ต่อมากลางดึกคืนวันที่ 14 ส.ค.67  มีสายโทรศัพท์ปริศนาโทรเข้ามาหาแม่น้องซี เมื่อแม่รับสาย ปลายสายเป็นเสียงผู้ชายพูดขึ้นว่า "แม่รักนะ" แล้วสายก็ตัดไป ครอบครัวน้องซี จึงพยายามโทรกลับไปแต่ติดต่อไม่ได้ ต่อมาวันที่ 15 ส.ค.67 มีพลเมืองดีซึ่งเป็นคนหาปลาไปพบศพน้องซีผูกคอตาย ตามตัวมีรอยช้ำคล้ายคนถูกทำร้าย จึงเชื่อว่าอาจจะมีการจัดฉากฆาตกรรม ครอบครัวจึงพยายามติดต่อกลับไปที่เบอร์ปริศนาดังกล่าวอีกครั้ง คราวนี้มีผู้ชายรับสาย อ้างว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้โทร ครอบครัวจึงบอกว่าจะไปแจ้งความกับตำรวจ  

ต่อมาวันที่ 16 ส.ค.67 พี่สาวของเจ้าของเบอร์ปริศนา ได้ติดต่อกลับมาหาแม่น้องซี อ้างว่าน้องโทรไปแกล้งเล่นเฉย ๆ ไม่มีอะไร แม่จึงถามว่าโทรมาแกล้งทำไม เราไม่รู้จักกัน ก็ไม่มีคำตอบ ครอบครัวได้พยายามค้นหาความจริง จึงมาทราบภายหลังว่า ผู้ชายเจ้าของเบอร์ปริศนาเป็นนักเรียนช่างกล สถาบันแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และภายหลังที่น้องซี เสียชีวิต ได้มีรุ่นพี่ที่เรียนช่างกลของชายเจ้าของเบอร์ปริศนา เรียกชายคนดังกล่าวไปพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นรุ่นพี่คนดังกล่าวได้นำข้อเท็จจริงจากการสอบถาม  ไปเล่าให้กลุ่มเพื่อน ๆ ฟังว่าน้องซี ถูกจัดฉากฆาตกรรมหรือไม่

โดยมีคลิปเสียงที่หลุดออกมา เป็นคลิปเสียงที่รุ่นพี่ช่างกลคุยกับกลุ่มเพื่อน มีการเล่าว่า “มันรุมกระทืบไอ้ซีจนสลบ แล้วก็มัดแขนมัดขากระทืบต่อ มันคิดว่าไอ้ซีตายแล้วเลยแก้เชือกออก เอาโทรศัพท์ไอ้ซีโทรไปหาแม่ แล้วมันพูดว่าซีรักแม่นะ แต่แม่บอกว่าคนที่โทรมาไม่ใช่เสียงไอ้ซี โทรมาตอนสี่ทุ่ม หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้  น่าจะเป็นตอนที่ไอ้ซี เสียพอดี ตอนที่มันกำลังจะเอาไอ้ซีไปแขวนคอ ไอ้ซีตื่นมาพอดี  ตื่นมามันก็โดนแขวนคอแล้ว  มันหายใจไม่ทันทำอะไรไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก พยายามกัดฟันจนแตก ดิ้นรนพยายามไม่ให้ตัวเองตายแต่มันทำอะไรไม่ได้ ไอ้พวกเหี้ยนั่นก็ทิ้งไม่ช่วย”

น.ส.ธเนตร แก้วเรือนทอง แม่ของน้องซี กล่าวว่า ตนติดใจเกี่ยวกับสภาพศพของลูกชาย คือ

1.ทำไมคนผูกคอตาย จึงมีแผลปากแตก คล้ายถูกทำร้าย

2.บริเวณใบหน้ามีรอยช้ำคล้ายถูกบุหรี่จี้

3.หน้าอกมีรอยช้ำคล้ายถูกทำร้าย

4.มีรอยช้ำที่หน้าขาคล้ายถูกทำร้าย

5.จุดเกิดเหตุเป็นป่าชายเลน มีดินโคลนลึกถึงหัวเข่า หากลูกเดินไปเอง ขาจะต้องเปื้อนโคลนในลักษณะเดินลุยโคลน แต่จากสภาพศพไม่พบการลุยโคลนแต่อย่างใด คราบโคลนที่เห็น เกิดหลังจากเอาศพลงมาแล้ว เลอะโคลนขณะยกศพมาที่บนชายถนน

นอกจากนี้ เชือกที่ผูกคอลูกชาย ก็มีลักษณะเหมือนเป็นการลากขึ้นเพราะไม่ได้อยู่ในแนวตรง ตนคิดว่าถ้าลูกชายผูกคอตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.จนมาเจอศพวันที่ 15 ส.ค. ศพต้องแข็ง แต่ตอนเอาศพลง  ตัวยังนิ่มเหมือนคนเพิ่งตาย ตนอยากให้ทางตำรวจหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนของลูกชายและเรื่องเบอร์ปริศนา เพราะตนไม่เชื่อว่าลูกจะผูกคอตายเอง อยากให้ตรวจสอบให้ละเอียดว่ามีเงื่อนงำหรือไม่

นายนครินทร์ พริกเทศ พี่ชายของน้องซี  ก็ไม่เชื่อว่าน้องชายจะเป็นโรคซึมเศร้าและผูกคอตายเอง เพราะมีข้อพิรุธหลายอย่าง ส่วนคลิปเสียงที่หลุดออกมา ตนก็เชื่อว่าน้องชายถูกซ้อมถูกทำร้าย ซึ่งทางครอบครัวได้ร้องไปยังสายไหมต้องรอด เพื่อเข้ามาช่วยเหลือให้ความเป็นธรรม และอยากให้อายัดศพไปตรวจพิสูจน์อีกครั้งว่าผูกคอตายเองหรือไม่

ด้านเพื่อนรุ่นพี่ของน้องซี กล่าวว่า ที่แรกไม่ได้เอะใจ คิดว่าน้องซีฆ่าตัวตาย แต่พอสังเกตเห็นรอยช้ำตามลำตัว หน้าอกเหมือนโดนเตะ ปากแตก คิ้วแตก จึงเชื่อว่าน้องซี ไม่ได้ฆ่าตัวตายแน่ ๆ ถ้าผูกคอตายจะมีแผลได้อย่างไร เชื่อว่าอาจถูกทำร้าย เบื้องต้นนั้นหมอลงความเห็นในใบชันสูตรว่าผูกคอเสียชีวิต ซึ่งตอนเจอศพก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ พฐ.ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ มีเพียงกู้ภัย 1 คน และชาวบ้านช่วยกันนำศพน้องซี ลงมา ตำรวจเข้ามาตรวจสอบแป๊บเดียว สอบถามข้อมูลกับแม่น้องซีกับพวกตนแล้วกลับไป ตนไม่ทราบว่าน้องซี มีปัญหาหรือมีคู่อริหรือไม่ ทั้งนี้ตนอยากให้มีการชันสูตรศพใหม่

ขณะที่วานนี้ (18 ส.ค.) ตำรวจ สภ.บางปู ได้เรียกครอบครัวของน้องซี ไปให้ข้อมูลเพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง  โดยได้นำตัวนักเรียนเทคนิคฯ ช่างกล ที่โทรหาแม่น้องซีและเอาเรื่องไปเล่าให้รุ่นพี่ฟัง มาสอบปากคำด้วย นักเรียนคนดังกล่าว ยกมือไหว้ขอโทษแม่ของน้องซี อ้างว่าที่โทรไปหาแม่เพราะคึกคะนอง และอ้างว่าไม่รู้จักน้องซี เมื่อถามว่าเอาเบอร์แม่น้องซีมาจากไหน เจ้าตัวบอกว่า เอามาจากโพสต์ประกาศตามหาน้องซีในเฟซบุ๊ก

หลังจากที่ครอบครัวเกิดข้อสงสัย ตำรวจจึงอายัดศพน้องซี ในขณะที่ญาติกำลังจะทำพิธีฌาปนกิจศพเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อคลายข้อสงสัยให้กระจ่างว่าเป็นการผูกคอตายเองหรือจัดฉากฆาตกรรม โดยแม่ของน้องซี ได้จุดธูปหน้าโลงศพว่า “เขาจะเอาร่างลูกไปพิสูจน์ หนูโดนอะไรมาก็ขอให้ความจริงปรากฏ แม่จะได้สบายใจ” จากนั้นกลุ่มเพื่อน ๆ  ของน้องซี ได้ช่วยกันยกร่างของน้องซีออกจากโลงแช่เย็น ขึ้นรถส่งไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์  

พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ตำรวจได้ติดตามตัวชายที่ใช้เบอร์ปริศนาโทรมาหาแม่น้องซี สอบถามเบื้องต้นเจ้าตัวก็อ้างว่าคึกคะนอง และได้ตรวจสอบข้อมูลการโทรและวงจรปิด เชื่อได้ว่า สิ่งที่ให้ปากคำค่อนข้างมีน้ำหนัก ส่วนข้อมูลที่นักเรียนชายคนนี้ไปเล่าให้รุ่นพี่ช่างกลฟัง ว่าน้องซีถูกกระทืบและถูกจับแขวนคอ ก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน หากเป็นการฆาตกรรมอำพราง ต้องมีร่องรอยหลักฐาน ซึ่งต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์มายืนยัน ทั้งนี้ตำรวจยืนยันจะทำทุกประเด็นให้กระจ่าง และให้คำตอบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตได้  ส่วนมูลเหตุ หากเป็นเรื่องผูกคอตายก็ต้องมีประเด็น เพราะน้องซี เคยน้อยใจทะเลาะกับแฟนสาวเป็นประจำ ก็อาจจะมีน้ำหนัก แต่จะมากน้อยก็ต้องดูอีกครั้ง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1pRlIpdU9_0

คุณอาจสนใจ

Related News