อาชญากรรม

หนุ่มฆ่าแฟนสาว ทิ้งใต้ทางด่วน กินยาหวังหนีผิด เตรียมสูบบ่อเกรอะหามือ ย้อนคดีทำร้าย-อนาจารเด็ก 13

โดย passamon_a

6 มิ.ย. 2567

1.7K views

หนุ่มฆ่าปาดคอแฟนสาว ตัดมือทั้ง 2 ข้าง ก่อนนำร่างอำพรางในป่าหญ้าใต้ทางด่วน เจ้าของอู่ซ่อมรถเล่านาทีเผชิญหน้าคนร้าย ท่าทีมีพิรุธพยายามใช้หญ้า ขยะ ปิดบังศพ ตะโกนถามเจ้าตัวอ้าง "เอาของรักมาทิ้ง" ตำรวจไล่กล้องตามล่า ผู้ก่อเหตุทราบข่าวกินยาหวังหนีผิด นำตัวส่ง รพ.


ผบช.ภ.1 เปิดไทม์ไลน์ พบทะเลาะกันรุนแรงตั้งแต่ตี 2 ก่อนก่อเหตุในห้องน้ำในห้องนอน แล้วนำศพไปทิ้ง ตรวจสอบพบประวัติรักษาจิตเวชเป็นปี และมีคดีกระทำอนาจารเด็กต่ำกว่า 15 ปี ตอนเป็นผู้เยาว์ ตำรวจยืนยันผู้ก่อเหตุอายุเกิน 18 ปี ต้องดำเนินการตามกฎหมายผู้ใหญ่


เปิดผลชันสูตรสาวถูกฆ่า ชี้บาดแผลที่ถูกแทงตรงลำคอไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่ คาดจะทำให้หมดสติ แต่เสียชีวิตจากบาดแผลปาดคอ ด้านตำรวจเตรียมสูบน้ำบ่อเกรอะหามือ คาดหั่นทิ้งลงชักโครก



เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.67 พ.ต.ต.หญิง อัจฉรา กะเตื้องงาน สารวัตร (สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่ในป่าหญ้าข้างทางถนน ใต้ทางด่วนอุดรรัถยา (บางพูน) พื้นที่ ม.4 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู


สำหรับที่เกิดเหตุ พบศพหญิงนักศึกษาสาวถูกฆาตกรรม แล้วนำมาทิ้ง พร้อมพันธนาการด้วยผ้าปูที่นอน จุดพบศพอยู่ในป่าหญ้าข้างทางถนน ใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เข้าตรวจสอบพบหยดเลือดบนถนนจำนวนมาก ในพงหญ้าพบร่างหญิงสาวเปลือย ถูกห่อด้วยผ้าปูเตียงสีเทา มีเข็มขัดหนังสีดำของมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง พันอยู่กับไม้แขวนเสื้อ ที่หัวเข่า เอว และคอ รวม 3 เส้น


เมื่อเปิดผ้าออกพบผ้าขนหนูสีชมพูห่อร่างอีก 1 ผืน ที่คอพบบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคม จนหลอดลมขาด ข้อมือทั้ง 2 ข้าง ถูกตัดขาด ตรวจสอบไม่พบในที่เกิดเหตุ ที่รักแร้ซ้ายหนีบดัมเบลสีฟ้า น้ำหนัก 3 กิโลกรัม ที่ขามีลูกตุ้มถ่วงน้ำหนักสีเขียว น้ำหนัก 2 กิโลกรัม วางอยู่ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชั่วโมง


ก่อนทราบต่อมาว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายธนากรณ์ หรือ แซน อายุ 18 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ส่วนผู้เสียชีวิตคือ นางสาววรัญญา หรือ แจน อายุ 18 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน


ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์นำร่างของผู้เสียชีวิตไปทิ้งที่บริเวณใต้ทางด่วนบางพูน กล้องวงจรปิดตัวแรก เวลา 05.30 น. พบว่าผู้ก่อเหตุขี่รถมาจากหมู่บ้านหรู เมื่อยูเทิร์นเข้าซอยวัดบางพูน พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์สกูปปี้ไอสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ด้านหลังมีลักษณะคล้ายผ้านวมยาววางพาดเบาะอย่างชัดเจน


กล้องตัวต่อมาเวลา 05.32 / 05.33 / 05.34 น. บันทึกภาพผู้ก่อเหตุขี่ต่อไปภายในซอยอย่างต่อเนื่อง โดยมีศพพาดหลังเบาะไปด้วย และภาพวงจรปิดอีกตัวคือช่วงเวลา 05.34-05.35 น. ผู้ก่อเหตุขี่ผ่านอู่ซ่อมรถก่อนถึงจุดทิ้งศพ ประมาณ 20 เมตร ซึ่งหลังเบาะรถมีวัตถุบางอย่างวางพาดมาด้วย จากนั้นได้เอาศพไปทิ้ง


ทีมข่าวได้คุยกับ นายทองแดง อายุ 49 ปี กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถแห่งนี้ และวันเกิดเหตุตนนอนเฝ้ารถที่อู่ ซึ่งนอนบนรถ เยื้อง ๆ กับจุดเกิดเหตุ ซึ่งช่วงประมาณ 04.30 น. ตนได้ยินเสียงหมาเห่าก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คิดว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เอะใจอะไรเลยว่าจะเป็นการเอาศพมาทิ้ง คิดว่าน่าจะเป็นการที่รถขยะมาเก็บขยะไปทิ้งมากกว่า เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่รถขยะมาเอาไปทิ้งทุกวัน


จากนั้นเวลาประมาณ 05.40 น. ตนได้ยินเสียงหมาเห่า จึงตื่นขึ้นมาดู แต่เห็นนาทีที่รถจักรยานยนต์มาถึง แต่เห็นช่วงที่กำลังอยู่ท่าทางลุกลี้ลุกลน กำลังดึงหญ้ามาบังอยู่ จึงย้อนคิดกลับไปว่า ช่วง 04.30 น. ผู้ก่อเหตุน่าจะมาหาจุดทิ้งศพก่อน จากนั้นถึงขี่รถเอากลับมาทิ้งอีกรอบ นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าผู้ก่อเหตุเดินมาลากถังขยะจากหน้าบ้านตน ลากไปฝั่งจุดทิ้งศพ เพื่อเอาขยะไปบังศพไว้ ก่อนจะนำถังกลับมาไว้ที่เดิม ซึ่งทั้งหมดนี้แหละคือพิรุธที่จับสังเกตได้


จากนั้นยังพบว่าผู้ก่อเหตยังมีการวนรถกลับมาดูอีกครั้งด้วย ตนจึงเข้าไปถามว่า "มึงเอาอะไรมาทิ้ง มึงเก็บไปเลยนะ เดี๋ยวแจ้งตำรวจจับ" ผู้ก่อเหตุจึงตอบว่า "เอาของรักมาซ่อน" ตอนนั้นจึงคิดว่าของรักอะไร จะเขี่ยดูก็ไม่กล้า ช่วงนี้ตนจึงหยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ ก่อนที่ช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. ตนได้เดินไปจุดเกิดเหตุ เพราะว่าจะไปเก็บขยะ จึงเห็นว่าเป็นขาคน ก่อนจะให้แฟนไปบอกช่างอีกคนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ


เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ตำรวจได้ไล่กล้องวงจรปิดจากที่เกิดเหตุมายังในป่าหญ้าข้างทางถนนใต้ทางด่วนอุดรรัถยา (บางพูน) มายังหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ย่าน ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร ซึ่งพบอีกด้วยว่าบริเวณหน้าหมู่บ้านหรูมีรอยเลือดหยดเต็มทางอีกด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตำรวจทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายธนากรณ์ อายุ 18 ปี หลังจากลงมือฆ่า นางสาววรัญญา อายุ 18 ปี ผู้เสียชีวิตแล้ว ได้กลับมาที่บ้านพัก ในขณะที่กำลังล้อมพื้นที่อยู่นั้น คนร้ายรู้ตัวจากข่าวว่าตำรวจทราบตัวคนก่อเหตุแล้ว จึงได้พยายามกินยาเพื่อหวังฆ่าตัวตาย แต่ครอบครัวดันมาเห็นเสียก่อน จึงได้รีบพาตัวนำไปส่งที่โรงพยาบาลสยามกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตำรวจกำลังจะเข้ามาจับกุม


ทีมข่าวได้ภาพบรรยากาศที่บ้านหรูหลังนี้ ขณะที่ตำรวจเข้าไปบุกจับ แต่เจ้าตัวกินยาหวังปลิดชีพหนีผิดแล้ว พบว่าแม่ของผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการตกใจ พยายามเรียกลูกว่า "แซน แซนเป็นอะไรลูก" ก่อนที่แม่จะบอกตำรวจว่า พี่เรียกรถพยาบาลให้หน่อยค่ะ เขากินยาไปเยอะ จากนั้นตำรวจได้ช่วยหิ้วผู้ก่อเหตุลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน ก่อนจะหิ้วต่อไปรอแถว ๆ หน้าหมู่บ้าน เพื่อรอรถพยาบาลมารับตัวไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งเจ้าตัวนอนแน่นิ่ง


ขณะที่ทีมข่าวได้ภาพภายในห้องนอนของผู้ก่อเหตุและแฟนสาวผู้เสียชีวิต พบว่าข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง ถุงยาเกลื่อนห้อง และยังพบด้วยว่ามีรอยคล้ายเลือดอยู่บนพื้น ส่วนภายในห้องน้ำพบว่ามีรอยเลือดอยู่บนพื้น และมีถุงดำอีก 2 ถุง


หลังจากที่นำตัวผู้ก่อเหตุส่งโรงพยาบาล ทีมข่าวได้ภาพนาทีที่ถึงโรงพยาบาล ตรวจสอบเบื้องต้นตามร่างกายพบว่ามีรอยคล้ายโดนเล็บข่วนที่แขนขวา และหน้าอก พร้อมกับภาพตัวอย่างยาที่มีรายงานเป็นยารักษาอาการทางจิตของผู้ก่อเหตุเอง และเป็นยาที่กินหวังฆ่าตัวตาย


ช่วงเที่ยง ทีมข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล ก็ได้เจอกับพ่อของผู้ก่อเหตุ ซึ่งมาเฝ้าลูกชายที่โรงพยาบาล แต่ไม่สะดวกให้บันทึกภาพ โดยยินดีให้สัมภาษณ์ โดยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ลูกชายคบกับแฟนสาวมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว โดยที่ผ่านมาที่บ้านรับรู้มาตลอด และเรียนอยู่ที่เดียวกัน โดยปกติที่บ้านหลังดังกล่าว ลูกชายจะอยู่อาศัยกับพี่ชาย และพาแฟนสาวมาอยู่ด้วยบ้าง ส่วนพ่อและแม่จะอยู่อีกที่หนึ่ง และไปบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบางครั้ง ที่ผ่านมาพี่ชายได้ยินเสียงน้องชายทะเลาะกับแฟนสาวบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร


กระทั่งช่วงเช้ามืด ประมาณตี 5 ภรรยาได้รับข้อความจากลูกชายว่า "ขอโทษทุกสิ่งทุกอย่าง" จึงคิดว่ามันน่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น ตนและภรรยาพยายามติดต่อหาลูกชาย แต่ไม่มีใครรับสาย และไม่สามารถติดต่อลูกชายอีกคนได้ จึงได้รีบเดินทางมาดู ก็พบว่าลูกชายเปลือยกายอยู่ในห้องนอน กินยาหลายขนานเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นยาของลูกชายไปรักษาอาการจิตเวช ซึ่งรักษามาประมาณ 2-3 ปีแล้ว จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาพอดี จึงได้ทราบว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น


ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าปมสาเหตุมาจากอะไร แต่ที่ผ่านมาเคยมีการทะเลาะกันบ่อยครั้งและมีการลงมือกันบ้าง จนลูกชายมีบาดแผล โดยเคยเห็นลูกชายมีแผลที่หน้า ซึ่งเกิดจากแฟนสาวโยนหวีมาโดนหน้า ตนเองก็ได้เรียกทั้งคู่มาสอบถามพูดคุย และอย่าลงไม้ลงมือกัน


ด้าน คุณจั๊ม พี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มีญาติที่ จ.อุตรดิตถ์ ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยติดต่อไปที่ญาติ และแจ้งว่าน้องสาวเสียแล้ว ทันทีที่ทราบข่าวรู้สึกใจสลาย  


พี่สาว เล่าว่า น้องสาวคบหากับฝ่ายชายมาประมาณปีกว่า เกือบสองปี ที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว น้องสาวจะเลิกกับฝ่ายชาย แต่ฝ่ายชายไม่เลิก จึงมีการมัดมือมัดเท้าน้องสาว แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น แล้วจบไป ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้น ตอนนั้นที่จะเลิกกัน น้องเคยบอกว่าจะกลับอุตรดิตถ์ แล้วก็จะให้พี่สาวขับรถไปรับส่ง แต่ท้ายสุดก็คืนดีกัน โดยช่วงที่เลิกกันฝ่ายชายเคยพูดว่า ถ้าจะจากกันก็จะไม่ให้จากเป็น  


ทั้งคู่รู้จักกันเพราะว่าเรียนมัธยมปลายที่เดียวกัน และทำงานที่ร้านสะดวกซื้อที่เดียวกัน โดยฝ่ายหญิงอยู่กับฝ่ายชายที่บ้านมาตลอด แต่กำลังมีการวางแผนว่าจะเช่าหอใกล้มหาวิทยาลัย จะได้เดินทางไปเรียนและทำงานสะดวก


ทั้งนี้ ที่ผ่านมาครอบครัวเคยบอกว่าไม่อยากให้คบกับคนนี้ แต่ทำอะไรได้เพราะคนมันรัก ก็เคยแอบคิดว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง เพราะเท่าที่ทราบฝ่ายชายเคยมีคดีเก่าเรื่องทำร้ายร่างกาย และยังเป็นคดีที่ขึ้นศาลอยู่ และตนเองเคยได้ยินฝ่ายชายพูดว่า รู้สึกตื่นเต้นและชอบ เขาอยากฆ่าคน


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เบื้องต้นผลชันสูตรจากแพทย์นิติเวช พบว่าบริเวณศีรษะมีรอยช้ำใต้ศีรษะหลายแห่ง บริเวณคิ้วมีรอยช้ำ น่าจะมีการต่อสู้บ้าง แต่ไม่ทำให้สมองได้รับบาดเจ็บหรือมีเลือดออก บาดแผลที่ถูกแทงที่ลำคอไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่ น่าจะทำให้หมดสติ แต่เสียชีวิตจากบาดแผลปาดคอลักษณะเหมือนจะตัดคอ เพราะของมีคมตัดถูกหลอดลม และมีการสำลักเลือดเข้าไป เพราะชันสูตรพบเห็นเลือดที่ปอด


ส่วนข้อมือทั้งสองข้างที่ถูกตัด แพทย์นิติเวชยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าผู้ก่อเหตุใช้ของมีคมประเภทใดในการตัด เพราะถ้าใช้เลื่อยจะต้องเห็นรอยแผลเป็นหยัก ๆ แต่สภาพบาดแผลที่พบค่อนข้างเรียบ ซึ่งในที่เกิดเหตุภายในบ้าน ทีมนิติเวชพยายามหาเครื่องมือที่พิเศษมากกว่ามีดหรือไม่ ถ้าเป็นมีดปังตอ ไม่น่าจะใช่เพราะหากใช้บาดแผลต้องมีรอยแตก ไม่พบการตั้งครรภ์


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แพทย์นิติเวชตั้งสมมติฐานว่า มีการใช้ยาบางประเภททำให้หมดสติก่อนก่อเหตุหรือไม่ เพราะว่าสภาพบาดแผลที่น่าเกิดจากการต่อสู้น้อยเกินไป บาดแผลจากการต่อสู้แทบจะไม่มี ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการว่าพบยาประเภทใดในร่างกายของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลภายใน 48 ชั่วโมง อีกทั้งต้องหาข้อมือทั้งสองข้างให้พบ เพื่อดูว่ามีบาดแผลจากการยื้อแย่งของมีคมที่มือหรือไม่


ทั้งนี้ มีรายงานว่า วันนี้ (6 มิ.ย.67) ตำรวจเตรียมสูบบ่อเกรอะในบ้านหรูหลังเกิดเหตุ คาดว่าแฟนหนุ่มสับข้อมือทั้ง 2 ข้าง ของแฟนสาว แล้วหั่นทิ้งลงชักโครก


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/40gtv9UPXBc

คุณอาจสนใจ

Related News