อาชญากรรม

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งเช็กกล้องวงจรปิด พิสูจน์ไทม์ไลน์ "บุ้ง" เสียชีวิต

โดย nutda_t

16 พ.ค. 2567

170 views

จากกรณีที่ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง กลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง เกิดอาการวูบหมดสติและหัวใจหยุดเต้น ในระหว่างการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต่อมาแพทย์ส่งตัวเข้ารับการรักษาโดยด่วนที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ก่อนเสียชีวิตในเวลา 11.22 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรพลิกศพของ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง ล่าสุดทางกรมราชทัณฑ์ ยังไม่ได้รับมาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ โดยทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการประสานอย่างต่อเนื่องกับแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เนื่องจากทราบว่ามีกระบวนการพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการตัดเอาชิ้นส่วนอวัยวะ ชิ้นเนื้อเยื่อเพื่อเข้าตรวจสอบภายในห้องแล็บ ถือเป็นกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปวิเคราะห์และประมวลผล คาดว่าอาจต้องใช้เวลา ส่วนที่มีรายงานว่าโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้นำเอาสารคัดหลังและเลือดไปตรวจสอบ ตรงส่วนนี้ขึ้นอยู่กับทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ว่าจะมีการประสานขอความร่วมมือ ขอรับการสนับสนุนกับสถานพยาบาลแห่งใดสำหรับการตรวจเพิ่มเติมหรือไม่

นายสหการณ์ เผยอีกว่า สำหรับผลการตรวจชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ หากมีการดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ทางกรมราชทัณฑ์ก็จะได้รับทราบในทุกรายการ คาดว่าอาจใช้เวลาไม่ถึงเดือน หรืออาจจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน ก็จะได้รับทราบผล ส่วนผลที่เราจะได้รับทราบ อาทิ ค่าตับ ค่าไต ภาวะของกระเพาะอาหาร เส้นเลือดต่างๆภายในร่างกาย เป็นต้น เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเจ้าตัวมีโรคกระเพาะร่วมด้วยหรือไม่ก่อนที่จะมีการเสียชีวิต ส่วนผลการชันสูตรพลิกศพจะช่วยคลี่คลายข้อสงสัยในทุกประเด็นได้ และทางกรมราชทัณฑ์จะมีการแถลงชี้แจงเพื่อให้สังคมได้รับทราบข้อมูลครบถ้วน


นอกจากนี้ ตนได้รับรายงานว่ากระบวนการช่วยชีวิต น.ส.เนติพร นั้น ทางทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้มีการปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาของแพทย์ทุกประการ เนื่องจากเวลามีผู้ต้องขังป่วยเข้ามาที่เรือนจำหรือทัณฑสถาน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ประจำจุดก็มีหน้าที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และมีการประสานกับแพทย์ประจำเรือนจำเข้าไปทำการตรวจเลือด วัดค่าความดันโลหิต ตรวจค่าออกซิเจนปลายนิ้วมือ เพื่อที่จะดูว่าผู้ป่วยรายนั้น ๆ มีอาการอย่างไรบ้าง มีสภาวะวิกฤติหรือไม่ เพื่อจะได้มีแนวทางการรักษาได้อย่างถูกต้อง

สำหรับ น.ส.เนติพร ที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีอาการที่บ่งชี้ถึงการจะเกิดภาวะวูบหมดสติอย่างกะทันหัน เนื่องจากค่าออกซิเจนและค่าความดันมีความปกติ ขณะเดียวกันในเช้าวันที่ 14 พ.ค. ก่อนที่จะเสียชีวิต พบว่ามีการพูดคุยปกติกับ น.ส.ทานตะวัน บนเตียงผู้ป่วย อีกทั้งจากที่ตนได้รับรายงาน บุ้งได้มีการรับประทานตามปกติ ตามหลักโภชนาการ เช่น อาหารอ่อน (สำหรับผู้ป่วยพักฟื้น) นม และอาหารเสริม แต่ทางเราก็ไม่ได้บังคับ หากเจ้าตัวจะรับประทานก็หยิบทานได้ แต่ถ้าไม่ทาน เราก็ไปบังคับไม่ได้ แต่ก็ได้มีการแนะนำโน้มน้าวว่าควรรับประทาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่บุ้งอดอาหารและน้ำมาเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ร่างกายขาดวิตามิน เกลือแร่ ส่งผลต่อระบบร่างกายโดยรวมได้ แต่บุ้งก็ได้ปฏิเสธชัดเจนถึงการรับสารอาหารและวิตามินทางหลอดเลือด

เมื่อถามว่าก่อนบุ้ง จะเกิดการวูบหมดสติจนถึงขั้นเสียชีวิตดังกล่าว มีอาการปวดท้อง ปวดโรคกระเพาะ หรือปวดลักษณะคล้ายไส้ติ่งมาก่อนหรือไม่ นายสหการณ์ บอกว่า ตนได้รับรายงานว่าในลักษณะที่บุคคลใดมีการอดอาหารมาเป็นระยะเวลานาน น้ำย่อยภายในกระเพาะหากออกมาแล้วไม่ได้ย่อยอาหาร ก็จะย่อยกระเพาะตัวเอง ซึ่งทางแพทย์และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ได้มีการให้บุ้งทานยาลดกรดเกินในกระเพาะอาหารแล้ว เป็นการรักษาตามอาการ

ส่วน น.ส.ทานตะวัน ตอนนี้ได้กลับมารับประทานอาหารตามปกติแล้ว และอยู่ในการดูแลของ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ส่วนนายแฟรงค์ ณัฐนนท์ (ผู้ต้องขังในคดีทางการเมือง) ก็ได้กลับมารับประทานอาหารเช่นเดียวกัน และปัจจุบันอยู่ในการดูแลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ส่วนที่กรมราชทัณฑ์จะป้องกันอย่างไรหลังจากนี้ บอกว่าเราจะต้องรักษาตามอาการและติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็จะต้องโน้มน้าวให้กลับมารับประทานอาหาร หรืออย่างน้อยก็รับวิตามินและเกลือแร่ แต่ถ้าเจ้าตัวยังคงปฏิเสธ ยึดมั่นในเจตนารมณ์อุดมการณ์ เราก็คงจะต้องรักษาไปตามอาการ และพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีหากพบภาวะวิกฤตเกิดขึ้น ยืนยันว่าแม้ผู้ต้องขังจะประกาศอดอาหารและน้ำ แต่เราก็ไม่ได้มีการละเลยปล่อยปละไม่ดูแลรักษา

นายสหการณ์ ระบุด้วยว่า หลังจากนี้ตนจะมีการออกข่าวแจกสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงในทุกประเด็นข้อสงสัย และต้องขออภัยสื่อมวลชนทุกท่านจากการแถลงข่าววานนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ (นพ.พงศ์ภัค อารียาภินันท์) ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของเคสหรือเจ้าของไข้ของบุ้งโดยตรง จึงอาจยังตอบรายละเอียดเชิงลึกไม่ได้ และตนเองได้สั่งการให้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้องผู้ป่วยของบุ้งและตะวัน ทุกจุด ทุกเวลา เพื่อดูว่าในช่วงเวลาการเกิดเหตุ บุ้งมีอาการอย่างไร และตะวันอยู่จุดไหนอย่างไร แล้วจะได้นำมาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านเอกสารเพื่อให้เกิดการคลายข้อสงสัยทั้งหมด

คุณอาจสนใจ

Related News