อาชญากรรม

เปิดภาพวงจรปิดนาทีสาวปั๊มใจเด็ดคว้าคอหนุ่มเติมน้ำมันแล้วไม่จ่าย ซ้ำหันมาทำร้ายชิงทรัพย์ก่อนหลบหนี

15 พ.ค. 2567

300 views

เปิดภาพวงจรปิดสาวปั๊มน้ำมันถูกโจรขับ จยย.มาคนเดียวทำทีมาเติมน้ำมันพอเติมให้แล้วไม่จ่ายเงินแต่กลับขับ จยย.จะหลบหนี สาวปั๊มวิ่งคว้าคอเสื้อจนทำให้รถ จยย.ล้มทั้งคนร้ายและตัวเอง ก่อนถูกคนร้ายขู่ว่ามีปืนจะยิงให้ตาย แล้วคนร้ายไปเปิดชั้นเก็บเงินได้ไป 6,000 บาทแล้วหลบหนีไป



เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 14 พ.ค. 2567 พ.ต.ต.เดชาวัด ชัยภูมิ สารวัตร(สอบสวน)สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายเติมน้ำมันไม่จ่ายเงิน แถมชิงทรัพย์ ที่ปั๊มน้ำมัมแห่งหนึ่งริมถนนสายร้อยเอ็ด-สุรินทร์ หมู่ 16 บ้านดอนพิมาน ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน



รุดไปยังที่เกิดเหตุ และได้พบกับ น.ส.เกศณีย์  อายุ 29 ปี พนักงานเติมนำมันอยู่ในอาการตกใจและสะอื้นเพราะเสียใจ เพราะกลายเป็นต้องรับผิดชอบ ค่าน้ำมัน และเงินที่ถูกชิงเอาไปตาม ข้อตกลงระหว่างคนงานกับนายจ้าง ตามสัญญากับเจ้าของปั้ม




โดย น.ส.เกศณีย์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ มีชายวัยรุ่น รูปร่างผอม สวมหมวกกันน็อก ขับ จยย.ฮอนด้า รุ่นสกูปี้ไอ สีขาว-เขียว ทะเบียนร้อยเอ็ด ซึ่งเอาสติกเกอร์ปิดเอาไว้จนมิดทั้ง อักษร และเลขทะเบียน เข้ามาจอดรถเติมน้ำมันเบนซินลงในถังที่เตรียมมา 400 บาท



แต่หลังจากเติมน้ำมันให้แล้วชายคนดังกล่าว ก็ทำทีรูดซิปที่กระเป๋าสะพายคาดที่หน้าอกเหมือนจะจ่ายเงิน แต่กลับพูดคุย และยังไม่ยอมควักเงินจ่าย และพอเผลอ ก็ติดเครื่องรถ จยย.จะหนี จึงวิ่งตามแล้วคว้าคอเสื้อไว้ กระชากจนรถ จยย.เสียหลักล้ม ทำให้ตนก็ล้มหัวกระแทกพื้นอย่างแรงจนหัวปูด แล้วคนร้ายยังแถมจะทำร้ายตน จึงเดินไปหยิบเอามีดทำครัว สำหรับปอกผลไม้ออกมาจากชั้นวางของ มาป้องกันตัว




และในช่วงที่รถ จยย.ล้มนั้นกระเป๋าเงินของคนร้ายหล่มลงกับพื้น ตนจึงเก็บเอาไว้ และขอให้จ่ายค่าน้ำมันมาก่อน จึงจะคืนกระเป๋าให้ และพยายามพูดข่มขู่ให้ตนเอากระเป๋าเงินคืนให้ และขู่ว่ามีอาวุธปืน หากไม่คืนกระเป๋าก็จะยิง จึงตัดสินใจวิ่งหนี โดยไม่คืนกระเป๋าเงินให้




และปรากฏว่า ขณะที่ตนวิ่งหนี คนร้ายก็ได้ฉวยโอกาส เดินไปเปิดลิ้นชักเงิน คว้าเอาเงิน ที่ได้จากการขายน้ำมันเก็บเอาไว้ 6,000 บาท ไปแล้วขับ จยย.หลบหนีไป จึงโทรแจ้งตำรวจ




และเมื่อตำรวจมาก็มีการเปิดกระเป๋าเงินคนร้าย ก็ปรากฏว่า ไม่มีเงินในกระเป๋า แม้แต่บาทเดียว ในกระเป๋าพบเพียงบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ บัตรประชาชน 2 ใบเป็นของผู้ชายและผู้หญิง คนละใบ และพบภาพถ่ายของหญิงคนหนึ่งซึ่งเหมือนกับภาพในบัตรประชาชน




แต่บัตรประชาชนอีกใบ กลับเป็นบัตรชายสูงอายุ ที่ไม่ใช่บัตรประชาชนคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เข้าไปแจ้งความบันทึกประจำวัน เพื่อสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป




คุณอาจสนใจ

Related News