อาชญากรรม

"นาวิน ต้าร์" เข้าแจ้งความหลังเข้าไปอ่านบทความจากจากเว็บไซต์ เผลอเชื่อมต่อกระเป๋าตังค์ ถูกดูดเกือบ 5 ล้าน

โดย kanyapak_w

23 ก.พ. 2567

2.2K views

"นาวิน ต้าร์" เข้าแจ้งความหลังเข้าไปอ่านบทความจากจากเว็บไซต์ เผลอไปกดลิงก์เชื่อมต่อกระเป๋าตังค์สกุลเงินดิจิทัล ก่อนถูกดูดเงินจากบัญชีหายกว่าไปเกือบ 5 ล้านบาท




นาวิน เยาวพลกุล หรือ นาวิน ต้าร์ นักร้อง-นักแสดง เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังเข้าไปกดลิงค์จากบทความในเว็บไซต์หนึ่ง ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้นักเขียนสามารถลงผลงานเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่อง ที่เกี่ยวกับการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ก่อนสกุลเงินดิจิทัล อิเธอเรียม ของตัวเองถูกโอนจากบัญชีวอลเล็ตส่วนตัว 40 เหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 5 ล้านบาท


นายนาวิน เปิดเผยว่า เงินได้ถูกโอนออกจากบัญชีเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังเผลอไปกดลิงก์และได้ยืนยันการเข้าถึงกระเป๋าตังสกุลเงินดิจิทัลส่วนตัว เนื่องจากถูกหลอกล่อด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ



โดยลิงก์ดังกล่าวอ้างว่าสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมน้อนหลังที่เคยเสียไปได้ จึงกดยินนอมให้ต่อเข้ากระเป๋าตังวอลเล็ตส่วนตัว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองจึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับกลุ่มคนที่ลงทุนกับเงินดิจิทัล ให้ระวังการกดลิงก์หรือการยินยอมต่อเข้ากระเป๋าตังค์วอลเล็ตส่วนตัว เพราะเมื่อเงินถูกโอนออกจากกระเป๋าตังค์ไปแล้วเป็นเรื่องที่ติดตามกลับมาได้ยาก ไม่เหมือนบัญชีธนาคารทั่วไป



นายนาวิน กล่าวอีกว่าเงินที่หายไป ตัวเองลงทุนซื้อมาคิดเป็นเงินไทยกว่า 8 ล้านบาท แต่ราคาสกุลเงินดังกล่าวลดลง ขณะนี้คิดเป็นเงินยาทอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท วันนี้จึงนำหลักฐานเดินทางเข้ามาแจ้งความกับกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ช่วยตรวจสอบ


นายนาวินยังได้ให้สัมภาษณ์ ว่าเว็บที่เข้าไปดูเหมือนเว็บที่เข้าไปเหมือนเป็น Blog ใครก็ออกมาเขียนข่าวหรือเรื่องที่สนใจกัน และออกมาแชร์แบ่งปันกัน มันไม่ใช่เรื่องผิด แล้วเว็บนี้มันไม่ใช่หน้าที่เขาที่จะไปกรองอะไร ทำให้ผมเห็นอยู่อย่างนึง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดมาก คือเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เป็นเรื่องที่อยู่คนละฝากเสมอ สมมติเงินเราหายในบัญชีไทย เรายังพอตามกลับมาได้ เพราะรู้ใครเป็นใคร อย่างคริปโตบอกดีเป็นส่วนตัว ไม่มีใครรู้ แต่พอมันหายไป ใครตามได้ละ มันตามไม่ได้ มันเล่นเป็นอีกตัวอย่างนึง ว่าบางครั้งว่าความเป็นส่วนตัวๆ แต่ข้อมูลคุณต้องเปิดเผยบางที่จะทำให้ความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น



ตอนที่ผมไปอ่านเป็นเกี่ยวกับเรื่องของผู้ก่อตั้งอีเธอเรียม เขามีความตั้งใจว่าอยากจะอัปเกรดบล็อกเชนอีเธอเรียมให้สามารถที่จะดูได้ว่ารู้ได้ว่าคนที่ใช้งานอีเธอเรียมตั้งแต่แรก จ่ายเงินค่า Transection Fee ไปเท่าไหร่ และย้อนกลับไป History ทั้งหมดเท่าไหร่ เป็นแค่ความพยายาม ซึ่งสิ่งที่ผมอยากจะรู้เขาก็มาจี้จุดผม ว่าผมอยากจะรู้ว่าผมจ่ายเงินค่าธรรมเนียมไปเท่าไหร่ ผมแค่อยากรู้ แต่ผมก็ต้องยอมให้เขาเข้ามากระเป๋าตังค์มผมใช่ไหมครับ คือผมไม่ได้จะเอา Refund แต่ผมว่าผมก็เสียเงินไปเยอะ แค่อยากรู้ว่าเสียไปเท่าไหร่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ที่อีเธอเรียมไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ ค่า transection fee สูงมาก ครั้งนึงทีละ 4-5 พันบาท จึงอยากรู้ ด้วยความอยากรู้เลย



มีเงินตัวนี้มานานแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะมี Binance ไทยแลนด์ มันก็อยู่ในนั้นมานานแล้วเพราะเป็นเงินที่สะสมเอาไว้ให้ลูก



ผมว่าสูญเสียศรัทธาไปพอสมควร แต่ก็ถือว่าเราต้องรู้เท่าทันมันเท่านั้นเอง มันไม่ได้ผิดที่ว่ามันเป็นคริปโตฯ สกุลไหนก็ตาม เขาดีไซน์มาให้ ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นใคร ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และมันสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ แต่ปัญหาที่มันเกิดขึ้นบางทีเราก็ไปอยู่ฝากที่เป็นผู้แพ้ มันก็แค่นั้นเอง




ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะฝากอะไรในเรื่องนี้ของการเทรดคริปโตฯ กับสมาชิกคนอื่นๆ หรือไม่ คิดว่าตนก็นำมาเล่าให้ฟัง และอยากจะเตือนให้รู้เท่าทัน พูดไปหมดเรียบร้อยแล้วครับ



คุณอาจสนใจ

Related News