อาชญากรรม

เรื่องจริง! หลักฐานชัด คนร้ายสวมรอยเป็นวิน จยย. ลวงสาวจีนชิงทรัพย์-พยายามข่มขืนกลางป่าชลบุรี

โดย petchpawee_k

20 ก.พ. 2567

576 views

รอง ผบช.ภ.2 สั่งเร่งหาหลักฐาน เตรียมออกหมายจับคนร้ายสวมรอยเป็นวินรับจ้าง ลวงสาวจีนพยายามข่มขืนกลางป่า

ความคืบหน้ากรณีนางสาวเหมยหลิน อายุ 29 ปี สัญชาติจีน แจ้งความว่าถูกชายไทยลวงไปพยายามจะข่มขืนในป่า และพยายามจะจุดไฟเผาป่าเพื่อฆ่าปิดปาก เหตุเกิดบริเวณป่าด้านหลังสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ ใกล้กับถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2081 (ถนนสายโปโล - บ้านบึง ) ม.9  ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  ซึ่งเป็นป่าหญ้าติดกับไร่มันสำปะหลัง ห่างจากถนนทางหลวงชนบทหมาย 2801 ประมาณ 400 เมตร  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา


ช่วงเย็นวานนี้  (19 ก.พ.67)  พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 หัวหน้าทีมชุดสืบสวนสอบสวน เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลิปที่นางสาวเหมยหลินมอบให้เป็นหลักฐาน เป็นคลิปขณะที่นางสาวเหมยหลิน นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ส่วนน้องชาย ชื่อนายเฉิน อายุ 19 ปี ก็นั่งรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่ง ที่ขับอยู่ข้างหน้า  เนื่องจากเธอกับน้องชายต้องการจะไปพัทยา แล้วไปเจอชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา ก็มีการคุยตกลงกัน ให้เธอกับน้องชาย ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คนละคัน เพื่อไปส่งพัทยา


ระหว่างนั้น นางสาวเหมยหลินก็ถ่ายคลิปไปด้วย พร้อมกับพูดไปด้วยว่า  ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน  เพราะนั่งแท็กซี่ไม่ได้ จึงนั่งรถจักรยานยนต์ที่ชาย 2 คนอาสาจะพาไปส่ง ซึ่งในคลิปเธอกังวลว่าจะไปถึงโรงแรมไม่ทันค่ำ  จากนั้นรถคันที่เธอซ้อนอยู่ ซึ่งขับอยู่บนถนนสายห้วยใหญ่ มุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิท ก็เปลี่ยนเส้นทางไปที่ถนนสาย 2801 และมุ่งหน้าไปยังป่าที่เกิดเหตุ


จากการสอบปากคำนางสาวเหมยหลิน ยังคงยืนยันว่า คนร้ายที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์คันที่เธอซ้อน พยายามจะข่มขืนเธอ โดยคนร้ายสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีกรมท่า สวมถุงมือทั้งสองข้าง และสะพายกระเป๋าเป้สีดำไว้บริเวณด้านหน้าลำตัว  ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125 สีดำ เมื่อเข้าไปในป่าหญ้าแล้ว แล้วคนขับก็บังคับให้เธอลงจากรถ ลวนลามและพยายามจะข่มขืน แต่ทำไม่สำเร็จ คนร้ายจึงเอาเชือกมามัดมือทั้ง 2 ข้าง แล้วเอาครีมทาผิวมาทาทั่วตัวเธอ เพื่อลบรอยนิ้วมือคนร้าย เอาน้ำมันมาราดรอบๆ พื้นหญ้าเป็นลักษณะวงกลม ให้เธอนั่งตรงกลาง แล้วจุดไฟเผาหวังจะฆ่าปิดปาก ขโมยเงินสดทั้งเงินไทยและเงินหยวน ประมาณ 90,000 บาท หลบหนีไป


นางสาวเหมยหลิน บอกว่า เธอพยายามใช้ไฟลนเผาเชือกที่มัดข้อมือ จนเชือกหลุดขาด และพยายามโทรติดต่อน้องชายให้มาช่วยเหลือ ก่อนจะแจ้งตำรวจ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 18 ก.พ.


นอกจากนี้ ตำรวจไปพบกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันที่รับนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้ง 2 คน  โดยภาพวงจรปิดเริ่มจับภาพรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ตั้งแต่เวลา 17.24 น.ของวันที่ 18 ก.พ. วิ่งผ่านทางถนนห้วยใหญ่ มุ่งหน้าไปทางสุขุมวิท 


จากนั้นกล้องอีก 1 ตัว จับภาพรถจักรยานยนต์ 2 คัน วิ่งตามกันมา  พอถึงสะพานบ้านบึง ข้ามถนนมอเตอร์เวย์สาย 7  คันของน้องชายวิ่งขึ้นสะพานมุ่งหน้าไปทางสุขุมวิท ส่วนคันของผู้หญิงชาวจีนวิ่งข้างสะพานมุ่งลอดใต้สะพาน วิ่งขนานสาย 7 ไปทางร้านครัวขวัญใจอาหารใต้ เส้นถนนอุโมงค์ต้นไม้ ไปยังสถานที่เกิดเหตุ



ขณะที่การตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม จนไปพบกางเกงสีดำลายโบว์สีขาวของผู้เสียหาย ตกอยู่ในพงหญ้า ห่างจากจุดที่หญ้าถูกไฟไหม้ ประมาณ 10 เมตร เจอหนังสือเดินทาง และยังเจอกระเป๋าหนังสีดำ เงินเหรียญสกุลหยวน และคีย์การ์ดของโรงแรม ถูกไฟไหม้เสียหาย



ขณะเดียวกัน ตำรวจเรียกตัวนายใหม่ อายุ 40 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างและเป็นผู้พาน้องชายของผู้เสียหาย ไปส่งที่ย่านพัทยาใต้ มาให้การกับตำรวจที่ สภ.หนองปรือ พร้อมนำรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียนป้ายเหลือง กขค 504 ชลบุรี เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวกลับมีอาการฉุนเฉียว และหลีกเลี่ยงจะตอบคำถามกับนักข่าว โดยพูดทำนองว่า ไม่อยากเป็นข่าว กลัวพ่อแม่เครียด และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้  โดยตำรวจได้บันทึกถ้อยคำ ก่อนจะปล่อยตัวกลับไป


พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภาค 2 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า เหตุดังกล่าวเป็นเหตุที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งกำลังติดตามผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้เสียหายเบื้องต้นให้การว่า หลังจากไปท่องเที่ยวที่สวนไทย  ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และกำลังจะหารถไปที่วอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้  จังหวะเจอวิน จยย.รับจ้างผ่านมา จึงคุยราคาตกลงกัน พอดีมีรถ จยย.อีกคัน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ  ขับผ่านมา และอาสาสวมรอยจะพาไปส่งจุดหมายปลายทาง 


โดยวิน จยย.ที่รับน้องชายวิ่งออกนำหน้า ส่วนคนร้ายให้ผู้เสียหายซ้อนท้ายแล้วขับตามหลัง พอได้จังหวะจึงเลี้ยวรถไปเส้นทางอื่น ก่อนจะขับพาตัวผู้เสียหายมายังจุดบริเวณที่เกิดเหตุ และลงมือก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ ตำรวจทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว และกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อจะออกหมายจับ ในข้อหาชิงทรัพย์ เนื่องจากมีทรัพย์สินถูกก่อเหตุไปด้วย เป็นเงินไทย 15,000 บาท และเงินสกุลต่างประเทศอีก 1,500 หยวน


ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งรวบรวมหลักฐาน และติดตามจับกุมตัวให้เร็วที่สุด เพราะคดีดังกล่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศไทย โดยระดมทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 สืบสวนจังหวัดชลบุรี และสืบสวน สภ.หนองปรือ ในการลงพื้นที่ทำงาน  


สำหรับผู้เสียหายเพิ่งเดินทางมาเมืองไทยได้เพียง 2 วัน โดยพ่อแม่เดินทางมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้สถาพจิตใจดีขึ้น เพราะทางเจ้าหน้าที่ให้คำมั่นว่า จะติดตามจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด และผู้เสียหายเชื่อมั่นในความสามารถตำรวจไทย นอกจากนั้น ยังประสานไปทาง ตม.จังหวัดชลบุรี ในการอำนวยความสะดวกในการทำพาสปอร์ต และเอกสารที่สูญหายอีกด้วย  



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/W5fjnLbQF5A

คุณอาจสนใจ

Related News