อาชญากรรม

เปิดปฏิบัติการ Anti Tax Crime ปราบขบวนการปลอมใบกำกับภาษีความเสียหายกว่าพันล้าน

โดย kanyapak_w

15 ก.พ. 2567

617 views

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าพนักงานสรรพากร เปิดปฏิบัติการ Anti Tax Crime ปราบขบวนการปลอมใบกำกับภาษีความเสียหายกว่าพันล้าน



กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมกันตรวจค้น ทั้งสิ้น 5 จุด



1.บ้านพักในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 68/2567 ลง 13 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้นำตรวจค้น น.ส.พจนีย์ฯ อายุ 36 ปี



2.บ้านพักในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 66/2567 ลง 13 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้นำตรวจค้น น.ส.สายทิพย์ฯ อายุ ๓๖ ปี



3.บ้านพักในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 65/2567 ลง 13 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้นำตรวจค้น น.ส.สุมาลีฯ อายุ 55 ปี



4.บ้านพักในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 67/2567 ลง 13 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้นำตรวจค้น น.ส.จริยาพรฯ อายุ 41 ปี



5. บ้านพักในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี ตามคำสั่งให้ตรวจค้น ที่ กค 0703/4 ลง 14 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้นำตรวจค้น นายวีระพงศ์ฯ อายุ 44 ปี



เวลาที่ตรวจค้น วันที่14 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 09.00 น.


ผลการตรวจค้นเบื้องต้นสามารถตรวจยึดของกลางได้ ดังนี้

จุดที่ 1  ของกลางที่ตรวจยึด : รายงานภาษีซื้อ, แบบฟอร์มใบกำกับภาษี, ใบส่งสินค้า, แบบ ภงด.90 ปี ภาษี 2564, รายงานเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินฝากธนาคาร, แบบนำส่งงบการเงิน, ต้นฉบับใบกำกับภาษีและต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน, สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ กว่า 20 ฉบับ



จุดที่ 2 ของกลางที่ตรวจยึด : เอกสารเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีปลอม และรายงานใบกำกับภาษีแยกตามลูกค้า, เครื่องประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ CPU 3 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ไอแพด 1 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์



จุดที่ 3 ของกลางที่ตรวจตึด : เอกสารการชำระภาษี และ คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์




จุดที่ 4 ของกลางที่ตรวจยึด : ต้นฉบับใบกำกับภาษี/ต้นฉบับใบส่งสินค้า จำนวน 2 กล่อง, ต้นฉบับใบกำกับภาษี/ใบส่งสินค้า/ใบแจ้งหนี้ จำนวน 1 กล่อง, แบบฟอร์มใบกำกับภาษี, สมุดจดรายละเอียดงาน, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง



จุด 5 ของกลางที่ตรวจยึด : คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, เอกสารใบกำกับภาษี, ใบเสร็จรับเงิน, ใบส่งของ ภพ.30 จำนวน 5 ลัง


พฤติการณ์  เนื่องจาก กก.2บก.ปอศ. ได้รับคำร้องเรียนจากพลเมืองดี ว่ามีบุคคลหรือนิติบุคคลกระทำความผิดเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิออก ซึ่งมีการลักลอบออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก คิดเป็นความเสียหายต่อรัฐหลายร้อยล้านบาท โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการเกิดขึ้นจริง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ปอศ. จึงได้ทำการสืบสวน โดยให้สายลับเจรจาล่อซื้อใบกำกับภาษี จากกลุ่มบุคคลดังกล่าว จำนวน 5 ครั้ง โดยมีการออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิที่จะออก จำนวน 30 ใบ ต่อมาได้ไปตรวจสอบสถานประกอบการ ซึ่งจดทะเบียนเป็นสำนักงานนิติบุคคล


พบว่า ไม่มีลักษณะเป็นสถานประกอบการแต่อย่างใด แต่กลับมีการลักลอบเปิดกิจการเพื่อขายใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการทำลายระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการซื้อขายกันจริง ในส่วนของผู้ออกต้องรับผิดทางแพ่งแล้ว ยังมีโทษทางความผิดใช้ใบกำกับอาญาด้วยในฐานความผิด โดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม ออกใบกำกับภาษีไม่มีสิทธิที่จะออก



ส่วนผู้ที่นำใบกำกับภาษีไปใช้ ถือเป็นภาษีซื้อต้องห้ามไม่มีสิทธินำมาใช้เป็นเครดิตต้องรับผิดทางแพ่ง และมีโทษทางอาญาในฐานภาษีปลอมโดยเจตนานำใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี มีโทษต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองแสนบาท



เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอหมายค้น และเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ปอศ. และเจ้าพนักงานสรรพากร ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้น ทั้ง 5 จุด พบผู้ต้องหาและตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จากนั้นได้นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหลังจากนี้จะได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีต่อไป



ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดเก็บภาษีประเภทต่างๆ อย่างถูกต้อง เพื่อให้รัฐสามารถนำภาษีไปใช้ในการบริหารและพัฒนาสวัสดิการของประเทศได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ จึงได้มีการดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิดทุกรูปแบอย่างเด็ดขาด เช่น ผู้ประกอบการธุรกิจที่นำใบกำกับภาษีปลอมมาใช้ และผู้ประกอบการที่ขายใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งทำให้รัฐเกิดความเสียหายและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย


แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,ใบกำกับภาษี ,ภาษี

คุณอาจสนใจ

Related News