เมียไม่เชื่อ ผัวโดนเพื่อนร่วมงานยิงดับ มาจากปมรักสามเส้า เผยหากคนก่อเหตุขอโทษ บอกสาเหตุ จะยอมให้อภัย

วันที่ 3 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสุชาติ หรือ ปลา ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. รัวยิงใส่ นายทวิช อายุ 49 ปี ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ ซอยกรุงเทพ-นนท์บุรี 12  ทำให้นายทวิชถูกยิงเข้าที่ศีรษะและตามตัวจำนวน 8 นัด จนเสียชีวิต ก่อนที่นายสุชาติจะขับรถจยย.หลบหนีกลับไปที่บ้านพักในซอยประชาชื่น หวังจะยิงปลิดชีพตัวเอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปเจอตัวและเรียกรถพยายามเข้าช่วยเหลือไว้ทัน

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบ นายบี (นามสมมุติ) เพื่อนบ้าน ของผู้เสียชีวิต จึงได้สอบถามเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนายบี เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนรู้จักกับผู้เสียชีวิตมาได้หลายปีแล้ว โดยผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ใกล้ๆที่พัก และเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนผู้ก่อเหตุก็ทำงานร้านเฟอร์นิเจอร์เหมือนกัน แต่อยู่กันคนละบริษัท ตนก็เพิ่งได้รู้จักกันได้เมื่อไม่นานจึงไม่ได้สนิทอะไรกันมาก

แต่ทั้งคนสองนั้น เขารู้จักกันและพูดคุยกันปกติ ในวันเกิดเหตุ ตนอยู่ในที่พักอาศัยได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด จึงวิ่งออกมาดูพบว่า นายทวิชถูกนายสุชาติยิงจำนวนหลายนัดก่อนจะหลบหนีไป ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบว่ามีเรื่องทะเลาะอะไรกันถึงกับต้องยิงกันตาย

นางสุจินท์ อายุ 42 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุเลยว่า ทำไมนายสุชาติถึงต้องมายิงสามีของตน เพราะสามีของตนและนายสุชาติเป็นเพื่อนร่วมงานกัน สามีของตนเป็นช่างสร้างโครงเก้าอี้ เบาะ และโซฟา ส่วนนายสุชาติเป็นช่างเย็บเบาะ ทำให้มีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง

ส่วนที่สื่อมวลชนเขียนข่าวระบุสาเหตุว่าเป็นรักสามเส้ากับเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ อันนี้ตนก็ไม่ทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร เพราะเวลาสามีของตนเลิกงานมา ก็ไม่เคยเล่าปัญหาการทำงานให้ตนฟังว่ามีปัญหากับใคร จะได้ยินก็ต่อเมื่อลูกน้องมาเล่าให้ฟัง แต่ถึงยังไงตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกับสามีมานานกว่า 20 ปี ก็ไม่เคยมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ยังไงตนก็ยังเชื่อใจสามีว่าไม่มีเรื่องแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องรักสามเส้าจริงก็ตาม

นายสุชาติและเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ ต้องมานั่งจับเข่าคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่ใช่มาใช้อาวุธปืนจ่อยิงสามีด้านหลังถึง 8 นัดแบบนี้ ทำให้ตอนนี้ครอบครัวต้องขาดเสาหลัก ตนต้องไปทำงานแทนสามีเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เพราะสามีรับงานใครมาส่งงานให้กับลูกค้าอย่างไร ตนไม่อาจทราบได้ เพราะสามีได้เสียชีวิตลงไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถตามเก็บเงินลูกค้าได้ จึงเป็นเรื่องทุกข์ใจอยู่ในตอนนี้

นางสุจินท์ กล่าวอีกว่า หากนายสุชาติหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว อยากจะเข้ามาขอโทษตนก็ไม่ถือ และไม่อยากโกรธแค้นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น อยากทราบเพียงแค่ว่า สาเหตุอะไรที่ต้องถึงกับลงมือฆ่ากัน

ด้าน พ.ต.อ.สุรเดช ฉัตรไทย ผกก.สน.เตาปูน เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งสาเหตุตอนนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดออกไป ยังต้องรอให้นายสุชาติที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ รักษาหายดีเสียก่อน ถึงจะทำการสอบปากคำได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย และทำหน้าที่ไปตามขั้นตอนกฎหมาย