อาชญากรรม

ผบ.ตร.มั่นใจได้ตัวผู้ต้องสงสัยชาวอินเดียคดีฆ่าหั่นศพชาวเมียนมาเร็วๆ นี้ - ตร.เชื่อไม่ใช่ปมเหตุชู้สาว คาดเป็นเรื่องทะเลาะวิวาท

โดย kanyapak_w

22 ม.ค. 2567

185 views

ผบ.ตร.มั่นใจได้ตัวผู้ต้องสงสัยชาวอินเดียคดีฆ่าหั่นศพชาวเมียนมาเร็วๆ นี้แม้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว เร่งประสานตำรวจอินเดีย-สั่งการ ผบช.ภ.2 จับตาแก๊งต่างชาติในพัทยา ขณะที่ด้านผกก.สน.ท่าข้ามเผยไม่ใช่ปมเหตุชู้สาว คาดเป็นเรื่องทะเลาะวิวาท



พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีฆ่าหั่นศพชายชาวเมียนมาซุกตู้แช่ ในทาวน์เฮาส์ซอยสะแกงาม 35/3 เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พื้นที่สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม ที่ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นนายจ้างชาวอินเดียได้เดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2567 โดยมีปลายทางคือเมืองเจนไน ประเทศอินเดียนั้น ขณะนี้ใกล้ได้ตัวผู้ต้องหาแล้ว เนื่องจากได้ประสานการปฏิบัติผ่านทางเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยให้ช่วยติดตามตัวผู้ต้องหา เพราะไทยมีความร่วมมืออันดีผ่านทางสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศอินเดีย แต่มูลเหตุจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์หรือไม่นั้นต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานให้มีความชัดเจนก่อน ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งการค้ามนุษย์ ชู้สาว หรือทะเลาะวิวาท




นอกจากนี้ ภายหลังรัฐบาลได้มีนโยบายฟรีวีซ่าให้ นักท่องเที่ยวบางประเทศ ก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก โดยชาวอินเดียเดินทางเข้ามามากเป็นอันดับ 1 จึงได้มอบหมายให้



ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ FBI เข้มงวดการตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติในพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่พัทยา เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มชาวต่างชาติที่อาจเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรืออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้ประเทศอินเดียก็ประสบปัญหานี้มากเช่นกัน




พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียนทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพแรงงานเมียนมาในอาคารหลังหนึ่งในซอยสะแกงาม 35/3 ว่า ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดในเรื่องแรงจูงใจการก่อเหตุ แต่คาดว่าเป็นเรื่องการทะเลาะวิวาท แต่ยังไม่ทราบว่า ผู้ต้องสงสัยกับผู้ตายมีปากเสียงกันมาก่อนหน้าหรือไม่ อยู่ในระหว่างการสอบปากคำ แต่ยืนยันว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องชู้รักตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้




เบื้องต้นทราบว่า ตัวของนายหน้าที่เป็นชาวอินเดีย ขออนุญาตเข้ามาแบบถูกต้อง เข้ามาอยู่ในไทยหลายปีแล้ว พบการจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่ประเด็นอื่นต้องรอสืบสวนว่าทำธุรกิจอะไรบ้าง เพราะนายหน้าคนดังกล่าว เขามาอยู่ในไทยหลายปีแล้ว ส่วนตัวของแรงงานอาจจะเข้ามาแบบผิดกฎหมาย




เบื้องต้นตอนนี้ผู้ต้องสงสัยมีทั้งหมด 2 คน ส่วนรายละเอียดขอยังไม่เปิดเผย อยู่ในระหว่างการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ขณะนี้ทั้ง 2 คนได้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนพยานจากการสอบปากคำให้การเป็นประโยชน์ น่าจะเพียงในการออกหมายจับได้ภายในเร็ววันนี้ ซึ่งขอดูรายละเอียดของพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อน หากพร้อมก็จะออกหมายจับทันที



จากกรณีการพบศพถูกฆ่าแยกชิ้นส่วน อำพรางในตู้แช่ ภายในตึกแข็งในพื้นที่ของ สน.ท่าข้าม ในเวลาต่อมาจะมีการเปิดเผยข้อมูล ภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีการสันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คาดว่าจะเป็น นายจ้างชาวอินเดีย



ช่วงสายที่ผ่านมา ที่บริษัทฯ ดังกล่าว ได้มีตำรวจฝ่ายสืบสวน ของ สน.ท่าข้าม เดินทางเข้ามาตรวจค้น ที่อาคารแห่งนี้



โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 30 นาที ซึ่งการตรวจค้นในครั้งนี้มีผู้ดูแลซึ่งเป็นคนให้เช่าอาคารแห่งนี้ นำตรวจค้น



โดยภายหลังการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ระบุว่าภายในไม่มีสิ่งของใดๆนอกจากโต๊ะ ที่จัดเตรียมไว้ด้านล่างคล้ายจะทำเป็นสำนักงาน ของบริษัท ส่วนชั้นที่สองถึงสี่ ไม่พบว่ามีเครื่องใช้หรือเครื่องนอนใดๆ



ทีมข่าวได้สอบถามผู้ดูแลอาคารทำให้ทราบว่า ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดียมาทำการเช่าอาคารแห่งนี้ได้เพียงสามเดือน เข้ามาช่วงประมาณเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา โดยมีการแจ้งว่าต้องการเปิดเป็นบริษัทนำเข้าเครื่องเทศจากประเทศอินเดีย เข้ามาขายในประเทศไทย



ก่อนที่ในเวลาต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวนจะพาผู้ดูแลอาคารนี้กลับออกไป




ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับพี่ฝ้าย แม่ค้าขายอาหารที่อยู่ตรงข้ามตึกสำนักงานแห่งนี้ ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเคยเห็นอาคารแห่งนี้มีคนเข้าออกไม่กี่คน ส่วนมากเป็นคนอินเดีย ซึ่งโดยปกติตัวอาคารนี้ จะปิดประตูไม่ค่อยมีคนอยู่ จึงไม่รู้ว่าบริษัทนี้ประกอบธุรกิจใด แต่เมื่อมีลูกจ้างชาวไทยเดินทางมาก็จะมานั่งรอที่ร้านของตนเองก่อน แล้วจะมีลูกจ้างชาวอินเดียอีกคนหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์มาเปิดประตูให้ และปิดประตูไปตามเช่นเดิม



สำหรับตัวเจ้าของบริษัท ที่ปรากฏว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้เคยมานั่งกินอาหารที่ร้านตนเอง ก็เห็นเป็นคนนิ่งนิ่งไม่ได้มีท่าทีน่าสงสัย ต่างจากอีกคนหนึ่งที่รู้มาว่าชื่อซิกกา เป็นลูกพี่ลูกน้องกับตัวเจ้าของบริษัท ที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด คนนั้นจะมีใบหน้าที่ดูเยี่ยมโหดกว่า



พี่ฝ้ายยังบอกกับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 อีกว่า ในช่วงประมาณวันพฤหัสตนเองสังเกตเห็นว่าทั้งคู่มีการขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่ตึกแห่งนี้ โดยตัวนายซิกกามีท่าทีลุกลี้ลุกลน คอยหันมองซ้ายขวาเพื่อสังเกตว่ามีคนติดตามมาอยู่หรือไม่ตลอดขณะที่ตัวนายเจ้าของบริษัทกำลังเปิดประตู ตนเองยังได้พูดคุยกับรปภ. ที่อยู่ในตึกที่ตนเองเปิดร้านอาหารอยู่ ว่าทำไมวันนี้คู่นี้ดูแปลกๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของหนุ่มพม่าที่เป็นข่าวมาล่าสุด


f

แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,ฆ่าหั่นศพ

คุณอาจสนใจ

Related News