อาชญากรรม

เฮียเก้า จ่อมอบตัวพรุ่งนี้ ปมตีนไก่สวมสิทธิ์ ดีเสไอพบ 10 บ.เอกชน เอี่ยว ยื่นปปง.ตรวจสอบทรัพย์สิน

โดย attapan_n

21 ม.ค. 2567

225 views

วันที่ 21 ม.ค.2567  พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนได้รับการประสานจากทนายความของนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้าว่า ในวันที่ 22 ม.ค.2567 เวลา 13.00 น. จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ ลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อเข้ามอบตัวตามที่มีหมายจับของศาลอาญากับดีเอสไอในคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีตีนไก่สวมสิทธิ์

ซึ่งในขั้นตอนการรับตัวเฮียเก้าที่สนามบิน จะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ภายใต้การอำนวยการของนายวิทวัส สุคันธรส ผอ.ศูนย์สืบสวนสะกดรอยฯ จากนั้นเมื่อรับตัวเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำตัวเฮียเก้ามาทำบันทึกจับกุมที่ชั้น 7 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก่อนนำส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิที่ผู้ต้องหาพึงได้รับ

นอกจากนี้ ในการสอบปากคำเบื้องต้น พนักงานสอบสวนอาจสอบถามข้อมูลส่วนตัว และพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ เช่น การประกอบธุรกิจส่งขายตีนไก่ไปจำหน่ายต่างประเทศ เป็นมาอย่างไร ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ หุ้นส่วนทางการค้า บริษัทชิปปิ้งเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับจากการสอบปากคำไปใช้ในการขยายผลต่อไป

พ.ต.ต.ณฐพล เผยอีกว่า สำหรับการทำธุรกิจขายส่งตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศของเฮียเก้า จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าเดิมทีแรก ห้วงปี พ.ศ. 2564 - 2565 เฮียเก้าทำร่วมกับสองสามีภรรยา นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย (2 ผู้ต้องหาที่ดีเอสไอจับกุมแล้ว) โดยมีนักธุรกิจอีก 1 รายที่รับหน้าที่เป็นตัวกลางคอยประสานทางการค้าระหว่างเฮียเก้าและสองสามีภรรยา แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็กลายเป็นคู่แข่งทางการค้ากัน ไม่ได้ทำร่วมกันอีก ต่างคนต่างดำเนินธุรกิจของตัวเอง

นอกจากนี้ เมื่อคณะพนักงานสอบสวนขยายผลต่อเนื่อง พบว่าในส่วนของบริษัทเอกชนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเฮียเก้า เบื้องต้นมีจำนวน 10 บริษัท โดยเป็นบริษัทที่อยู่ในนามของคนใกล้ชิดเฮียเก้า ส่วนเรื่องรายการครอบครองทรัพย์สินต่างๆในประเทศไทยของเฮียเก้า ดีเอสไอได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการตรวจสอบคู่ขนานไปกับคดีทางอาญา

เมื่อถามถึงกรณีการเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ของนายสมเกียรติ กอไพศาล หรือเฮียเกียรติ นั้น  พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า ในวันสอบปากคำเจ้าตัวไม่ได้ให้การมากเท่าที่ควร โดยใช้เวลาตั้งแต่เวลา 17.00 น. - 20.00 น. ทั้งยังพบว่าบางครั้งนายสมเกียรติมีอาการเครียด เนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนได้ตั้งคำถามไว้หลายประเด็น แต่นายสมเกียรติไม่ได้ตอบคำถาม อีกทั้งยังให้การปฏิเสธในทุกข้อหาและประสงค์ขอส่งเป็นเอกสารชี้แจงแทน ส่วนในวันที่ 8 ก.พ. คณะพนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้นายสมเกียรติเข้ารายงานตัว

ต่อข้อถามในกรณีของนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ ว่ามีแนวโน้มที่คณะพนักงานสอบสวนจะเชิญเข้าให้ข้อมูลหรือไม่ พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า จะยังไม่มีการออกหมายเรียกพยานแก่นายสมชวนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดีเอสไอได้ประสานข้อมูลในเรื่องของการนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้า ณ ท่าเรือต่างๆ ผ่านตู้คอนเทเนอร์ทำความเย็น หรือตู้ติดแอร์ เพื่อตรวจสอบกิจกรรมการนำเข้า-ส่งออกสินค้าในช่วงปีที่เกี่ยวข้องกับคดีของดีเอสไอว่ามีบุคคลและนิติบุคคลรายใดบ้าง อีกทั้งในช่วงสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนอย่างเข้มข้น คำให้การของพยานปากสำคัญ และผลสอบปากคำของผู้ต้องหาทั้งหมด จะนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายขนาดใหญ่ได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การติดต่อเข้ามอบตัวของเฮียเก้าในวันจันทร์ที่ 22 ม.ค.นี้ สืบเนื่องมาจากผลปฏิบัติการของคณะพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการเข้าตรวจค้นบริษัทของเฮียเก้า ทั้งยังเป็นที่พักอาศัย ย่านบางขุนเทียน กทม. จากผลการตรวจค้น พบเพียงภรรยาของเฮียเก้าอยู่ภายในอาคาร และพบพยานเอกสารสำคัญบางส่วน รวมถึงพยานวัตถุ โดยในวันดังกล่าวภรรยาได้แจ้งพนักงานสอบสวนว่าเฮียเก้าได้เดินทางไปทำธุรกิจที่ประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.66 และยืนยันว่าตนเองจะประสานให้เฮียเก้าเดินทางกลับไทยเพื่อเข้าพบดีเอสไอ

คุณอาจสนใจ