อาชญากรรม

เชิญตัว ‘ตร.ขาเทียม’ สอบปมถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยก - ผบช.ภ.2 ยัน “ล้อเล่น” ก็ทำไม่ได้ ขีดเส้น 3 วัน พบผิดลงโทษเด็ดขาด

โดย petchpawee_k

19 ม.ค. 2567

40 views

'บิ๊กโจ๊ก' ยัน 'ลุงเปี๊ยก' ชี้ตัวตำรวจขาขาด บังคับคลุมถุงดำทรมานรับสารภาพฆ่าป้าบัวผัน 1 นาย สั่งสอบเพิ่มชุดสืบสวนยกโรงพัก โดยเฉพาะรองผู้กำกับที่มีคลิปเสียงรู้เห็น  


จากกรณีป้าบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ อายุ 47 ปี หญิงสติไม่ดี ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน แก๊งลูกนายตำรวจ สภ.อรัญประเทศ รุมทำร้ายจนเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุนำร่างป้าบัวผันไปทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนใน จ.สระแก้ว โดยทั้งหมดถูกจับกุมในเวลาต่อมา  ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน ที่รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุในตอนแรก  ก่อนจะยอมเผย สาเหตุที่ยอมรับสารภาพเพราะความเมาและอยากตัดปัญหาจึงสร้างเรื่องขึ้นมา  

ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะทำงาน และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้เข้าไปสอบปากคำลุงเปี๊ยก เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่ก่อนหน้านี้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพในคดีฆาตกรรมป้าบัวผัน รวมถึงกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ถุงดำคลุมศีรษะและซ้อมทรมานให้รับสารภาพ  

ภายหลังสอบปากคำนาน 5 ชั่วโมง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ออกมาเปิดเผย ว่า คณะทำงานได้นำรูปถ่ายปัจจุบันของตำรวจ สภ.อรัญประเทศทุกนายให้ลุงเปี๊ยกชี้ตัว ลุงเปี๊ยกยืนยันตัวตำรวจขาขาด 1 นาย ยศชั้นประทวนซึ่งเป็นหนึ่งในชุดสืบสวน ที่บังคับให้ลุงเปี๊ยกถอดเสื้อในห้องแอร์ ให้หนาวเย็น เอาถุงคลุมศีรษะ และควบคุมตัวโดยมิชอบนานถึง 9 ชั่วโมง เพื่อบังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพว่าฆ่าป้าบัวผัน ด้วยความทรมานและเหนื่อยล้า ลุงเปี๊ยกจึงยอมรับสารภาพ ก่อนถูกบังคับไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ แต่ไม่มีการล่ามโซ่

ดังนั้นวันนี้จึงมีตำรวจที่กระทำผิด 1 นายก่อน เพราะลุงเปี๊ยกยืนยันว่าในห้องขณะถูกทรมานมีตำรวจนายนี้นายเดียว ซึ่งจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ส่วนความผิดทางวินัยมีโทษถึงขั้นให้ออก

ส่วนจะมีตำรวจนายอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ ได้ให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 สั่งการให้รองผู้บัญชาการตำรวตภูธรภาค 2 ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีตำรวจนายอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะจากคลิปเสียงของรองผู้กำกับการนายหนึ่งยืนยันว่ารู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องตรวจสอบว่ารองผู้กำกับการนายนี้รู้ขณะทำการทรมานลุงเปี๊ยกหรือไม่ ซึ่งจะเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด แต่หากรู้ภายหลังทรมานลุงเปี๊ยกแล้ว แต่ไม่ดำเนินการลงโทษตำรวจที่ก่อเหตุ ก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงจะต้องขยายสอบปากคำชุดสืบสวนทั้งหมดด้วย

แต่เบื้องต้นลุงเปี๊ยกบอกว่า สารวัตรและรองผู้กำกับการไม่ได้อยู่ในห้องที่ถูกทรมาน และทั้งสองคนก็พูดจากับลุงเปี๊ยกเป็นอย่างดี ไม่ติดใจ ส่วนที่เหลืออีก 1 คนเพียงสับเปลี่ยนเวรและเฝ้าด้านนอกเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนร่วม

----------------------------

เชิญตัว ตร.ขาพิการ สอบปมคลิปเสียงถุงดำคลุมศรีษะ บีบลุงเปี๊ยกรับสารภาพ ขณะที่ เจ้าตัวปัดตอบ บอกเพียง “ชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้บังคับบัญชาไปหมดแล้ว”

วานนี้  18 ม.ค.2567 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีคลิปเสียงของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้เชิญดาบตำรวจที่ขาพิการมาสอบปากคำ


เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบปากคำลุงเปี๊ยกหรือไม่ ตำรวจนายดังกล่าว ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “ไม่มีอะไรจะชี้แจง รอผู้บัญชาการแถลง” ก่อนที่จะเข้าห้องสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วไป

ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามดาบตำรวจคนดังกล่าวอีกครั้งว่า ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบปากคำลุงเปี๊ยกหรือไม่  ได้ก่อเหตุจริงตามในคลิปเสียงหรือไม่  ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีการใช้ถุงคลุมศีรษะบีบให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพหรือไม่  ได้บอกหรือไม่ว่าใช่ถุงคลุมศรีษะเป็นการหยอกล้อเล่น หรืออยากจะชี้แจงอะไรหรือไม่ แต่ดาบตำรวจนายนี้ ไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน ได้เพียงแต่ก้มหน้า พยายามเดินไปขึ้นรถ ก่อนจะบอกสั้นๆช่วงท้าย ว่า “ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้บังคับบัญชาไปหมดแล้ว”

--------------------------------------

ผบช.ภ.2 ยืนยัน ปมคลิปเสียง ตร.ยอมรับใช้คลุมถุงดำลุงเปี๊ยก ตามหลักการ “ล้อเล่น” ก็ทำไม่ได้ ลั่น โรงเรียนสืบสวนไม่มีสอน - สั่งคกก. สอบข้อเท็จจริงใน 3 หากผิดลงโทษเด็ดขาด เผย ส่วนตัวเห็นคลิปภาพตอนสอบสวนแล้วไม่มีการใช้ถุงดำ


พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวภายหลังมาติดตามการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องคลิปเสียงที่ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้มีการบังคับขู่เข็ญให้ลุงเปี๊ยก รับสารภาพ ว่า  ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว


ผบช.ภ.2 ยังกล่าวว่า ในช่วงแรก ที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาฆ่าป้าบัวผัน ในกระบวนการสืบสวนไม่ได้ไปสอบถามและไม่มีรายงานในวันแรกๆ ถึงกระบวนการสอบสวนและการเอาลุงเปี๊ยกมาแล้วทำอะไรกับลุงเปี๊ยกบ้าง แต่พอปรากฎคลิปออกมา จึงตรวจสอบกระบวนการทั้งหมด 


เมื่อถามถึงกรณีที่มีคลิปเสียงปรากฏการยอมรับว่า เป็นการ “ล้อเล่น หยอกเล่น” กรณีนี้ทำได้หรือไม่ พล.ต.ท.สมประสงค์ บอกเลยว่า “ในหลักการทำไม่ได้อยู่แล้ว ห้ามทำ แต่เข้าข่ายผิดกฎมายหรือไม่ให้คณะกรรมการตรวจสอบ”  พร้อมยืนยันว่า หากใครผิดลงโทษเด็ดขาดตามกฎหมาย หาพิสูจน์ได้ว่าตำรวจกระทำผิดจริง ก็ลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ปล่อยปละละเลยแน่นอน และการตรวจสอคลิปเสียงเป็นความผิดทางวินัย แต่หากพบว่าวินัยผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาด้วย

ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่าวิธีการใช้ถุงดำเป็นวิธีการสอบปากคำปกติของตำรวจหรือไม่ พล.ต.ท.สมประสงค์ ระบุว่า “ผมโตมาเป็นผู้บัญชาการก็ไม่เคยเห็นว่ามีการใช้ถุงดำ โรงเรียนสืบสวนที่ไหนก็ไม่มีให้ใช้ถุงดำ ถุงดำมาปรากฎครั้งแรก คือกรณีของผู้กำกับโจ้ โรงเรียนที่ไหนสอนแบบนี้ ผมไม่เคยเจอ ไม่ได้อยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ประชาชนรับฟังก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย และความน่าเชื่อถือไม่ใช่แค่ของไทย เป็นของต่างขาติด้วยที่จะมองว่าบ้านเมืองมีกระบวนการยุติธรรมอย่างไร ตำรวจทำด้วยความถูกต้อง อาจจะมีผิดไปบ้าง แต่ถ้าผิดส่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อส่งศาลพิจารณาแน่นอน”


ส่วนบริเวณห้องสืบสวน สอบสวน มีกล้องวงจรปิดหรือไม่นั้น ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ในห้องไม่มีกล้องวงจรปิด แต่เวลาสอบสวนมีการตั้งกล้องบันทึกภาพตามกฎหมาย พรบ.อุ้มหาย ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะเรียกนำคลิปวีดีโอ ขณะสอบปากคำมาทำการตรวจสอบด้วย


ผบช.ภ.2 ยังยอมรับว่า ส่วนตัวเห็นแล้ว ระหว่างการตรวจสอบคลิปภาพ ไม่มีภาพของการใช้ถุงดำคลุม ระหว่างการสอบสวน โดยคลิปนี้จะนำมาเป็นพยานหลักฐาน แล้วให้คณะกรรมการชั่งน้ำหนักเพื่อพิจารณาการจรวจสอบว่าผิดหรือถูก หรือข้อเท็จจริงแล้วสรุปเป็นอย่างไร


ขณะที่พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจ ให้สัมภาษณ์กรณีลุงเปี๊ยก ถูกตำรวจนำถุงดำคลุมหัว ว่าเรื่องคลิปเสียงตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่เรื่องนี้ เหมือนหนังทั้งม้วน เราดูหนังทั้งม้วน หรือดูแค่ตอนเดียว เรื่องนี้ตนยังตอบอะไรไม่ได้ แต่พยายามจะทำให้เคลียร์ ถ้าผิดก็คือผิด การพิสูจน์พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และทางเทคนิคเดี๋ยวนี้มันพิสูจน์ง่าย


“ผมพูดตั้งแต่วันแรกแล้ว ตำรวจถ้าไม่ปรับตัว มันอยู่ไม่ได้ คุณจะใช้วิธีการเก่าๆ เป็นไปไม่ได้แล้ว พ.ร.บ.อุ้มหาย ก็ค้ำตัวอยู่ ถ้าตำรวจผิด ไม่เอาไว้ แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น ก็ต้องให้ความยุติธรรมกับตำรวจด้วย ผมเป็นกลางแน่นอน ไม่ได้เข้าข้างตำรวจ นิ้วไหนร้ายก็ต้องตัด เลิกได้แล้วถ้าใครยังทำแบบนี้อยู่” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าว

----------------------------------------------------
เปิดคลิปแฉสายตรวจออกตรวจเจอแก๊งลูกตำรวจ ก่อนป้าบัวผันเสียชีวิต - ตร.แจงมีสายตรวจออกตรวจจริง แต่ยังไม่มีเหตุจึงยังทำอะไรไม่ได้


ย้อนเหตุการณ์คืนวันที่ 11 ม.ค. 67 เวลา 00.27 น. จากกล้องวงจรปิดพบว่าป้าบัวผันกำลังเดินข้ามไปร้านสะดวกซื้อที่มีแก๊งผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คนนั่งอยู่ก่อนแล้ว


ต่อมา 00.32 น. ป้าบัวผัน เดินมานั่งหน้าร้านสะดวกซื้อ จากนั้นเวลา 00.38 น. กลุ่มวัยรุ่นเริ่มโวยวายใส่ป้าบัวผัน  จากนั้นเวลา 00.41 น. ป้าบัวผัน ก็เลยตะโกนกลับไป กลุ่มผู้ก่อเหตุก็วิ่งเข้าไปหาคล้ายจะเตะ ป้าบัวผันจึงลุกไปคุ้ยขยะต่อไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ยังไม่หยุด ยังคงป่วนลักษณะคล้ายจงใจหาเรื่อง เพราะในวงจรปิดจะได้ยินเสียงกลุ่มก่อเหตุถามว่า “เก๋าหรอ” แล้วก็เต้นส่ายสะโพกใส่หน้าป้าบัวผัน  ป้าบัวผันเลยลุกไปหยิบกระป๋องขว้างใส่ 1 ครั้ง 


จากนั้น 00.50 น. ป้าบัวผัน ตัดสินใจลุกหนี เดินมุ่งหน้าไปยัง สภ.อรัญประเทศ 

ระหว่างเดียวกันนั้น 00.52 น. มีตำรวจสายตรวจผ่านมาเห็น จอดสอบถาม ไม่นานกลุ่มวัยรุ่นก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากตรงนั้น ก่อนไปขับไปต่อและเลี้ยวเข้าโรงพัก

ขณะที่อีกมุมหลังจากบัวผันตัดสินใจลุกหนีไปยัง สภ. อรัญประเทศ ซึ่งจุดที่ป้าบัวผันเดินผ่านคือตลาด ที่จะผ่านไปยัง สภ. ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่อยู่ใกล้โรงพักประมาณ 70 เมตรเท่านั้น  ก่อนจะพบว่าหลังจากถูกเตือนตำรวจเลี้ยวขวาไป ส่วนแก๊งลูกตำรวจขับเลี้ยงซ้ายตามป้าบัวผันไป

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่เพจดัง ออกมาระบุว่า มีรถสายตรวจซึ่งเป็นรถกระบะไปเจออีกรอบแต่ไม่ระงับเหตุ เรื่องนี้ทีมข่าวได้รับการยืนยันจากหนึ่งในสายตรวจ สภ.อรัญฯว่าลักษณะรถดังกล่าวไม่ใช่รถของสายตรวจ

พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยหลังดูคลิประบุว่า เท่าที่ดูขณะนั้นยังไม่มีการทำร้ายกัน สายตรวจผ่านไปแล้วเห็น จึงทำได้เพียงไล่วัยรุ่นกลับบ้าน เท่านั้น แต่เหตุยังไม่เกิดจึงทำอะไรไม่ได้

ขณะที่ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ อดีต ผกก.สภ.อรัญฯ ที่ถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยงานที่ภูธรจังหวัด ให้ข้อมูลทีมข่าวสั้นๆ ว่า วันดังกล่าวยืนยันว่ามีสายตรวจออกตรวจ แต่ไปหลังจากได้รับแจ้งเหตุแล้วว่ามีวัยรุ่นรวมตัวกัน แต่พอไปถึงไม่มีการรวมตัวแล้ว ส่วนเนื้อหาและรายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสำนวนแล้ว


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Daz3cQqzO1g


คุณอาจสนใจ

Related News