อาชญากรรม
เปิดคลิปเสียงบิ๊ก ตร.สภ.อรัญฯ รับลูกน้องใช้ถุงคลุม ล่ามโซ่ ‘ลุงเปี๊ยก’ บีบรับสารภาพ อ้างแค่หยอกเล่น
โดย nattachat_c
18 ม.ค. 2567
225 views
คนใกล้ชิดระบุลุงเปี๊ยก ถูกทรมานให้สารภาพ ถูกให้ถอดเสื้อในห้องแอร์ เอาถุงดำมาคลุม ลุงเปี๊ยกจำทุกเรื่องได้หมด แต่แกล้งเมา เผยชายก่อเหตุใส่ขาเทียม ด้านตำรวจอรัญประเทศ ยืนยันไม่มีการทรมาน โซ่ล่ามบังคับลุงเปี๊ยกรับสารภาพ ล่าสุดมีคำสั่งเด้ง รอง ผกก.สืบ สภ.อรัญประเทศ สังเวยปมคลิปเสียง พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
วานนี้ (17 ม.ค. 67) พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฎคลิปเสียงของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ที่ได้มีการบังคับขู่เข็ญให้ 'ลุงเปี๊ยก' รับสารภาพ เพื่อให้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่าง
โดยมี พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบฯ อีกทั้ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ยังได้มีคำสั่ง เด้ง พ.ต.ท.พิชิต วัฒโน รองผู้กำกับสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ให้ไปช่วยราชการที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วด้วย
โดยมีรายงานว่าคำสั่งย้ายในครั้งนี้ เนื่องจาก พ.ต.ท.พิชิต เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนในวันเกิดเหตุ จึงต้องมีการย้ายไปเพื่อให้การตรวจสอบโปร่งใส
-------------
ช่วงเย็นวานนี้ (17 ม.ค.67) พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีคลิปเสียง รอง ผกก.สืบ สภ.อรัญฯ รับลูกน้องใช้ถุงคลุม ล่ามโซ่ลุงเปี๊ยกบีบรับสารภาพฆ่าป้าบัวผัน อ้างเป็นการหยอกเล่น ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีหลักฐานคลิปวิดีโอและพยานให้ข้อมูลมายังตนเองว่าลุงเปี๊ยกถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้ถุงดำคลุมศีรษะ ซ้อม ล่ามโซ่ และบีบบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านางบัวผัน หรือป้ากบ ภรรยา ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่ตนเพิ่งได้รับ ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่ได้ดูคลิปวิดีโอดังกล่าว แต่ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนภาคและส่วนกลางลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว เนื่องจากมองว่าวิธีการดังกล่าวหากเป็นเรื่องจริงถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนลุงเปี๊ยกใหม่อีกครั้ง เพราะสาเหตุที่ลุงเปี๊ยกให้การรับสารภาพจะเป็นการถูกบีบบังคับ ซึ่งจะมีโทษตามทางกฎหมาย แต่หากกลุ่มชายฉกรรจ์เป็นตำรวจก็จะมีความผิดทั้งทางวินัยและอาญา เนื่องจากวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีโบราณที่ปัจจุบันไม่ใช้แล้ว และเรื่องนี้ตนได้รายงานให้ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบแล้ว
ส่วนไทม์ไลน์ที่มีการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเวลาที่ลุงเปี๊ยกถูกนำตัวไปที่ สภ.อรัญประเทศ หายไป 2 ชั่วโมง ทั้งที่จุดที่นำตัวลุงเปี๊ยกมาเพื่อไปที่ สภ.อรัญประเทศ ระยะทางไม่ไกลกันมาก ตนก็มีข้อสงสัยในประเด็นนี้ด้วยเหมือนกันว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ลุงเปี๊ยกจะถูกนำตัวไปซ้อมและบีบบังคับให้รับสารภาพ ประเด็นนี้ตนได้สั่งตรวจสอบแล้วเช่นกัน จะทราบผลเร็ว ๆ นี้
ส่วนการสอบปากคำลุงเปี๊ยกด้วยตนเองเมื่อวันที่ 16 ม.ค.67 ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือลูกตำรวจอย่างแน่นอน เพราะพ่อเด็กที่เป็นตำรวจ สภ.อรัญประเทศ เป็นคนนำตัวผู้ก่อเหตุ 1 ใน 5 คน เข้ามอบตัวด้วยตนเอง และให้ข้อมูลผู้ก่อเหตุอีก 4 คนที่เหลือ จนตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมดและนำตัวส่งสถานพินิจ ซึ่งตรงนี้ตนถือว่าได้คำตอบแล้ว ส่วนการสอบปากคำลุงเปี๊ยกเชื่อว่าไม่ได้ถูกบังคับ แต่หลังจากมีคลิปและหลักฐานลุงเปี๊ยกถูกซ้อมก็ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนที่มีการเรียกร้องให้โอนสำนวนคดีนี้มาที่กองบังคับการปราบปราม ตนมองว่าคดีนี้ไม่มีความซับซ้อน จึงมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโอนคดีมาที่กองปราบ
-------------
วานนี้ (17 ม.ค. 67) ทีมข่าวได้คลิปเสียงลุงเปี๊ยกเล่าให้คนใกล้ชิดฟังว่าที่ต้องรับสารภาพว่าค่าป้าบัวผันหรือภรรยานั้นเพราะถูก ทรมานและบีบบังคับด้วยการใช้ถุงคลุมศีรษะ ให้ถอดเสื้อเค้นสอบในห้องแอร์หนาวๆ เป็นการพูดคุยความยาวคลิป 6นาที 23 วินาที
จากคลิปลุงเปี๊ยก เล่าว่า ไม่ใช่ว่าทางพ่อของเด็กมาบีบบังคับ และวันที่ถูกเค้นสอบไม่รู้ว่ามีพ่อเด็กอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าพ่อเด็กคือคนไหน
ก่อนจะเล่าว่าถูกตำรวจนอกนอกเครื่องแบบเอาถุงดำมาคอบศรีษะไว้ แต่ไม่ได้มัด แล้วก็เค้นถามว่าให้พูดใหม่ เอาที่เป็นประเด็น ซึ่งตนก็เล่าไปหมดแล้ว จากนั้นก็เอาอะไรบางอย่างทุบและฟาดมาที่หน้าเบาๆ แต่ไม่ได้ฟาดแรงพร้อมพูดว่า “เอาซะดีมั้ง”
คนใกล้ชิดในคลิปถามกับลุงเปี๊ยกว่าคนที่ใช้ถุงคลุมอายุเยอะหรือไม่ ลุงเปี๊ยกบอกว่า แก่แล้ว ไม่เกิน 55 ปี เผลอๆรุ่นเดียวกันกับตน แต่ขามันขาดนะ ใส่ขาเทียม ไม่ใช่รองผู้กำกับ และไม่ใช่สารวัตร ก่อนจะยืนยันว่ามีคนเดียวที่เค้นให้ยอมจำนนหรืออะไรทำนองนี้ เพราะตอนนั้นผมยังไม่รับสารภาพ ผมมารับสารภาพตอนเช้าอีกวัน
คนใกล้ชิดในคลิปถามกับลุงเปี๊ยกว่าแล้วทำไมถึงรับสารภาพ ลุงเปี๊ยกเล่าต่อว่า ตอนนั้นผมยังไม่รับ เพราะพวกสายสืบไปหาหลักฐานอยู่ ก่อนจะมาบอกว่า “ชัดเลย ชัดเลย” ตนก็เอ๊ะ ทั้งๆที่ไม่ได้ไปก่อเรื่อง ไม่รู้สาเหตุการตายของกบมันเลย ตนก็งงไปเอามาจากไหน ก่อนจะคิดว่า “เอาละว่ะ งานนี้เข้ากูแล้ว ลำบากแน่”
ลุงเปี๊ยกเล่าต่อว่า ไหนบอกว่าให้มาเป็นพยานให้หน่อย ตนก็มา แต่เอาไปเอามาไม่ใช่เลย กลายเป็นผู้ต้องหา กลายเป็นคุมตัวผมไปเลย
คนใกล้ชิดในคลิปถามกับลุงเปี๊ยกว่า แล้วไปชี้จุดได้อย่างไร ลุงเปี๊ยกอุทานว่า โอ้ย มันพาไปจุดแรกเลย ผมยังไม่รู้ ไอ้พวกเหี้ยนี่มันพาไป มันซ้อมก่อนพาไป
ช่วงหนึ่งลุงเปี๊ยก เล่าว่า “วันที่กบมันเสีย ผมกินเหล้าอยู่พัทยา มีคนที่ไปเจอศพจนรถมูลนิธิมาแล้ว คนมุงเป็นร้อยแล้ว ซึ่งตัวเองรู้ว่ามีคนตาย เพราะมีผู้หญิงปั่นจักรยานมาแล้วส่งข่าวว่ามีคนตาย จึงคิดว่าไปดูหน่อยสิ พอไปคนแถวนั้นก็บอกว่า “นั่นไงผัวกบ” ตำรวจนอกเครื่องแบบ จึงเชิญตัวมาให้ปากคำว่า “มาให้ปากคำหน่อยสิ ก็ยาวมาจนผมได้ไปเข้าคุก”
---------------
จากกรณีนางบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ อายุ 47 ปี หญิงสติไม่ดี ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน แก๊งลูกนายตำรวจสภ.อรัญประเทศ รุมทำร้ายจนเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุนำร่างป้าบัวผันไปทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนใน จ.สระแก้ว โดยทั้งหมดถูกจับกุมในเวลาต่อมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก อายุ 54 ปี สามีของป้าบัวผัน ที่รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุในตอนแรก ก่อนจะยอมเผย สาเหตุที่ยอมรับสารภาพแต่ตอนแรกว่าเพราะความเมาและอยากตัดปัญหาจึงสร้างเรื่องขึ้นมาพร้อมยืนยันว่าไม่มีใครสั่งให้พูดรับสารภาพ จากนั้นในเวลาต่อมามูลนิธิวินวิน เผยคนใกล้ชิดลุงเปี๊ยกแจงเหตุรับสารภาพ อ้างโดนลูกน้องตำรวจใช้ถุงคลุมหัว บีบบังคับให้รับให้เรื่องจบ
ล่าสุดวานนี้ (17 ม.ค.67) ทีมข่าวได้คลิปเสียงตำรวจ (พ.ต.ท.พิชิต วัฒโน รองผู้กับกำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.อรัญญประเทศ) ยอมรับกับบุคคลหนึ่งๆว่าลูกน้องใช้ถุงคลุมศีรษะลุงเปี๊ยกจริง โดยอ้างว่าหยอกเล่นกัน เป็นการพูดคุยความยาวคลิป 4 นาที 4 วินาที
จากคลิปเสียงจะตำรวจนายเล่าว่า ได้ถามลูกน้องว่าไปทำแบบนี้ทำไม ได้รับคำจตอบว่า “หยอกเล่น ไม่มีอะไร แค่จับถุงดำมาคลุมๆเล่น” คนในคลิปเสียงบอกกับตำรวจว่า “ไม่ใช่แค่นี้ มีทั้งล่ามโซ่และอะไรหลายอย่าง สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น” ตำรวจจึงบอกว่า “เข้าใจๆ ผมเข้าใจ ลูกน้องมันรับกับผมตรงๆ ว่ามันทำเล่น ไม่ได้อะไร”
จากนั้นคนในคลิปเสียงบอกว่ามันพลิกเป็นคนละเรื่องเลยนะ ทั้งการชี้จุด ไปชี้ตรงนั้นตรงนี้ ซึ่งเราก็รู้ว่าเราไม่ได้ทำอะไรตรงนั้น เพราะลุงเปี๊ยกก็งงว่าพาแกไปชี้เป็นตุเป็นตะ ซึ่งลุงเปี๊ยกเป็นคนเล่าให้ฟัง ก็ถามตรงๆว่ามีอะไรหรือไม่ แล้วคนอะไรจะไปยอมรับว่าฆ่าคนอื่นโดยไม่ได้ทำ แล้วมาพูดเป็นฉากๆ ซึ่งลุงเปี๊ยกก็มาเล่าให้ฟังและไม่ใช่ว่าแกเมา ไม่ใช่คนพูดไม่รู้เรื่องนะ ฟังเข้าใจหมด
คนในคลิปเสียงบอกกับตำรวจได้นิว่าถ้าหากรู้เรื่องก็เตือนๆหน่อย ซึ่งตำรวจ ตอบกลับว่า “ผมไม่เตือนหรอก ผมด่ามันไปแล้ว อยู่ดีๆไม่ว่าดีมาทำเล่นจนกลายเป็นประเด็น”
นอกจากนี้ คนในคลิปเสียงได้ถามถึงเรื่องเยียวยาลุงเปี๊ยกกับตำรวจ ซึ่งตำรวจระบุว่า “ถ้าเยียวยาคงเป็นเรื่องการอำนวยความสะดวกการเดินทาง อันนี้คือเบื้องต้น”
----------------------
จากกรณีนางบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ อายุ 47 ปี หญิงสติไม่ดี ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน แก๊งลูกนายตำรวจสภ.อรัญประเทศ รุมทำร้ายจนเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุนำร่างป้าบัวผันไปทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนใน จ.สระแก้ว โดยทั้งหมดถูกจับกุมในเวลาต่อมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก อายุ 54 ปี สามีของป้าบัวผัน ที่รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุในตอนแรก // ก่อนจะยอมเผย สาเหตุที่ยอมรับสารภาพแต่ตอนแรกว่าเพราะความเมาและอยากตัดปัญหาจึงสร้างเรื่องขึ้นมาพร้อมยืนยันว่าไม่มีใครสั่งให้พูดรับสารภาพ
วานนี้ (17 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนใกล้ชิดของลุงเปี๊ยกให้ข้อมูลกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ว่า หลังจากที่ลุงเปี๊ยกทราบว่า ป้าบัวผันเสียชีวิตแล้ว ได้ถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ เชิญตัวไปสอบปากคำในห้องสืบสวน และเมื่อเข้าไปแล้ว ตำรวจเปิดแอร์และให้นั่งอยู่ในห้องก่อน จากนั้นเริ่มสอบสวนลุงเปี๊ยกอย่างเข้มข้น
ลุงเปี๊ยก เล่าให้คนใกล้ชิดฟัง โดยอ้างว่า ตัวเองถูกถอดเสื้อ และเอาถุงคลุมหัว ก่อนใช้โซ่ล่ามข้อเท้า เพื่อบีบบังคับให้รับสารภาพว่าได้ทำให้ป้าบัวผันเสียชีวิต ด้วยความกลัวและไม่สามารถต่อสู้ได้ จึงตัดสินใจยอมรับสารภาพ เพื่อให้เรื่องจบลง
ลุงเปี๊ยก ยังอ้างกับคนใกล้ชิดว่า ส่วนสาเหตุที่ไม่ออกมาพูดเรื่องนี้ เนื่องจากกลัวว่าจะมีปัญหากับตำรวจในพื้นที่ เพราะพี่สะใภ้ พี่ชายยังอยู่ในพื้นที่ สภ.อรัญประเทศ โดยยังจำได้ว่าคนที่เอาถุงคลุมหัว คือ ลูกน้องของตำรวจ
ต่อมาทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้พูดคุยกับนายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน ระบุว่า ตนได้รับการร้องขอจากญาติของลุงเปี๊ยก ให้เรียกร้องความเป็นธรรมให้ เพราะจุดที่ผิดปกติที่สังเกตเห็นคือว่า จะมีคนธรรมดาที่ไหนยอมรับสารภาพว่าฆ่าคนอื่นเพื่อให้ตัวเองรับโทษ จึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงต้องหาความจริง ก่อนจะมาพบว่ามีการทรมานเพื่อให้รับสารภาพหรือขั้นตอนต่างๆที่ไม่ถูกต้อง
ส่วนลักษณะของการทรมาน เท่าที่ทราบคือ มีใช้ถุงคลุมศรีษะ มัดให้หายใจไม่ออก ให้ถอดเสื้ออยู่ในห้องแอร์ให้หนาวๆซึ่งเป็นการใช้วิธีการโบราณ // ส่วนประเด็นเรื่องล่ามโซ่ คาดว่าอาจจะมี เพราะกลัวหลบหนี ซึ่งยังไม่ชัวร์เรื่องนี้ต้องรอตรวจสอบ // แต่ว่าปัจจุบันนี้มี การกระทำเหล่า พ.ร.บ.อุ้มหายมาครุ้มครองแล้ว ไม่สามารถทำได้ แต่เบื้องต้นที่ทราบไม่ใช่ตำรวจ แต่อาจจะเป็นลูกน้องของตำรวจส่วนจะทำเพราะถูกสั่งหรือทำโดยพละการต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจต้องตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตอนที่ลุงเปี๊ยกเล่าให้คนใกล้ชิดฟัง สติสัมปชัญญะของลุงเปี๊ยกครบ จำได้หมดทุกอย่าง แต่แกล้งเมาโดยจำรายละเอียดทุกอย่างได้หมด รวมถึงตัวบุคคลรวมทั้งจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอีกด้วยกรณีที่อ้างว่าชายที่ก่อเหตุให้ลงรับสารภาพเป็นชายที่มีการใส่ขาเทียม
เมื่อถามว่าจุดไหนที่ทำให้ลุงเปี๊ยกต้องยอมรับสารภาพ นายดลชนก ระบุว่า อย่างที่บอกไป คือเรื่องวิธีการในการเค้น ทรมานรวมทั้งการพาไปชี้จุด เพราะลุงเปี๊ยกก็งงๆว่าเอาเขามาทำอะไร เพราะไม่รู้และไม่เคยไป ทำตามที่เขาบอก // ซึ่งก่อนที่จะพาไปชี้จุดตำรวจมาบอกว่าจะพาไปดูจุดพบศพ ให้ไปเป็นพยาน แต่พอไปถึงกลายเป็นผู้ต้องหา
เมื่อถามว่าเราได้ข้อมูลมามีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหรือไม่ นายดลชนก ระบุว่า มีการประสานไปยังตำรวจระดับสูงแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดแต่เบื้องต้นยืนยันว่าเรื่องนี้มีการเกิดขึ้นจริง
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากสื่อสารไปยังตำรวจ สภ.อรัญประเทศ หรือไม่ นายดลชนก กล่าวว่า คงไม่มีอะไรสื่อสารออกไป เพราะถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงให้ยอมรับว่าเกิดขึ้นจริงแล้วช่วยเยียวยาลุงเปี๊ยกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เมื่อถามในเมื่อลุงเปี๊ยกถูกกระทำขนาดนี้ทั้งถูกคลุมศีรษะ ถูกล่ามโซ่ ไม่ติดใจบ้างหรือ นายดลชนก ระบุว่า เราต้องเข้าใจว่าแกอยู่ในพื้นที่ ไม่อยากมีปัญหากับตำรวจ แกถึงพยายามหนีสื่อนี้ตำรวจเพื่อไปอยู่ ในที่ที่คิดว่าตัวเองปลอดภัยที่สุด
นายดลชนก ยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดนี้เชื่อถือได้ แต่อย่างไรก็ตามตำรวจต้องดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ คนใกล้ชิดลุงเปี๊ยกอ้างว่าเป็นคนที่ได้ฟังโดยตรงจากปากของลุง และทางมูลนิธิก็ได้มีการตรวจสอบในเบื้องต้น ได้รับการยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับลุงเปี๊ยกเป็นเรื่องจริงและต้องตรวจสอบต่อไป
----------------------
วันที่ 17 ม.ค.67 ทีมข่าวได้สอบถาม พ.ต.ท.นิติธร พิมพ์คำ สารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดของ สภ.ในการทำคดี อธิบายข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่าวันที่ 12 ม.ค. ได้เชิญตัวลุงเปี๊ยก มานั่งสอบที่ม้าหินอ่อน จากนั้นเชิญตัวไปสอบที่โซฟาด้านบน สภ. ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติ พอกลางคืน ลุงเปี๊ยก ก็นั่งสอบที่โซฟาอีก “แล้วห้องปฏิบัติการเราเปิดแอร์อยู่แล้ว ไม่มีโซ่ ไม่มีการใส่เครื่องพันธนาการและไม่มีการใช้ถุงดำครอบหัวแต่อย่างใด”
และตั้งแต่เป็นข่าวตนเองก็รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว และตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน ยืนยันได้ว่า “ไม่มีการทำร้ายร่างกาย หรือบังคับขู่เข็ญใดๆ” /นักข่าวถามว่าภายในห้องปฏิบัติการสืบสวน มีบุคคลภายนอกด้วยหรือไม่ พ.ต.ท.นิติธร ตอบว่า ไม่มี
แล้วบุคคลที่ใส่ขาเทียม พ.ต.ท.นิติธร ตอบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้านธุรการ ทำเกี่ยวกับเอกสารไม่เกี่ยวกับคดีและอยู่คนละห้อง
ส่วนมีการเข้าไปพูดคุยกับลุงเปี๊ยก บ้างหรือไม่นั้น พ.ต.ท.นิติธร ระบุว่า ระหว่างนั้นไม่ทราบเพราะก็มีการสอบปากคำเด็กและเยาวชนด้วย/ส่วนวันนั้นเจ้าหน้าที่คนนี้จะได้เจอกับลุงเปี๊ยก หรือไม่ นั้น พ.ต.ท.นิติธร บอกว่า ถ้าเดินไปเดินมาอาจจะเจอ แต่ไม่มีหน้าที่เข้ามาสืบสวนและยืนยันย้ำว่า “ไม่มีการคลุมถุงดำเพราะเรามีประสบการณ์มาแล้วคงไม่ทำแบบนั้น”
เมื่อถามว่าระหว่างการสอบปากคำมีการบันทึกภาพไว้หรือไม่ พ.ต.ท.นิติธร ตอบว่าก็มีบ้าง ทั้งตอนที่ผู้กำกับสอบ และตอนที่ตนเองสอบ ส่วนหนึ่งเป็นคลิปภาพที่ได้แถลงเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ด้วย
ส่วนประเด็นคำให้การเรื่องเก้าอี้ พ.ต.ท.นิติธร ชี้แจงว่า พอได้รับทราบประเด็นเรื่องเก้าอี้ ก่อนหน้านี้ลุงเปี๊ยก ให้การกลับไปกลับมา พอเราทราบว่ามีเก้าอี้ ก็ไปตรวจสอบเก้าอี้ ซึ่งครูเก็บไปทิ้งแล้วเหลือเศษเลือด เศษอิฐ นิดหน่อย แล้วเราก็มานั่งบรีฟงานกันที่ม้าหินอ่อนข้างล่าง
พร้อมย้ำว่าตำรวจไปเจอลุงเปี๊ยกที่เกิดเหตุบริเวณบ่อน้ำ แล้วเชิญลุงเปี๊ยกมาที่โรงพัก เพื่อมาซักถาม แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การจับกุมเป็นการเชิญมาซักถามข้อมูล ไม่ใช่การควบคุมตัว และยืนยันว่าวันนั้น (12 ม.ค.) ลุงมีอาการเมาและเป็นไปได้ที่จะให้การวกไปวนมา “คืนวันที่ 12 ม.ค. ลุงนั่งและนอนที่โซฟาตลอดทั้งคืน นอนห่มผ้าผกติ ไม่มีใส่กุญแจมือให้อิสระเพราะไม่ใช่ผู้ต้องหา”
----------------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Tk8yx7HWHs4