สุดโหด ลูกสั่งทำหีบเหล็ก หลอกพ่อ-น้องสาว เข้าไป ก่อนถ่วงน้ำดับ อ้างปมกลัวไม่ได้มรดก

เกิดเหตุสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ขึ้นที่จังหวัดสกลนคร โดยช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งของวันที่ 9 ม.ค. 2567 ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ช่วงกลางวัน (8 ม.ค. 67) พบว่า มีกล่องเหล็ก 2 ใบ ขนาดประมาณโลงศพ วางไว้บนแท่นเหล็กกลางสระน้ำหนองหลุมหิน บ้านสร้างขุ่ย ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร  ซึ่งตอนที่เจอตอนกลางวัน เห็นว่าเป็นกล่องเหล็กเปล่า ๆ และเห็นผู้ชายคนหนึ่งขับเก๋งมาที่บริเวณหนองน้ำด้วย แต่พอตกกลางคืน กล่องเหล็ก 2 ใบ กลางหนองน้ำ หายไปแล้ว เหลือแต่แท่นเหล็กที่ใช้สำหรับวางกล่อง ซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ

ตำรวจ สภ.พังโคน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชายต้องสงสัย ชื่อ นายวรุตย์ เดชภูมิ อายุ 35 ปี ยืนอยู่ริมสระน้ำ พูดจาวกวน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ก่อน  

พอเอาไฟส่องลงไปที่สระน้ำ ก็พบกล่องเหล็ก 2 ใบ จมอยู่ในน้ำ จึงส่งเจ้าหน้าที่ลงไปกู้ขึ้นมา แล้วก็ต้องตกตะลึง เพราะพบศพชาย-หญิง 2 คน ถูกจับยัดไว้ในกล่องเหล็ก กล่องละ 1 ศพ  

ลักษณะกล่องดูเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน  บางส่วนของกล่องมีการเหลือช่องไว้ให้น้ำเข้าได้ ด้านนอกใช้โซ่พันไว้ 2-3 ชั้น แล้วล็อกด้วยกุญแจแน่นหนา โดยกล่องที่มีศพผู้หญิง พบว่า ผู้ตายพยายามยื่นมือออกมานอกกล่อง จึงคาดว่า อาจจะถูกจับถ่วงน้ำ ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

ต่อมา เจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้เสียชีวิตในกล่องเหล็ก คือ นายประหยัด เดชภูมี อายุ 66 ปี และ น.ส.เพียงเพ็ญ เดชภูมี อายุ 33 ปี  ทั้งสองคน เป็นพ่อและน้องสาวของนายวรุตย์  มีบ้านอยู่ที่อำเภอสว่างแดนดิน จึงคุมตัวนายวรุตย์ไปสอบปากคำ

จากการตรวจสอบกล่องเหล็กอย่างละเอียด พบว่า

ใบที่หนึ่ง

กว้าง 58 ซม. ยาว 180 ซม. สูง 55 ซม. ใส่ศพนายประหยัด ซึ่งอยู่ในสภาพ สวมกางเกงในตัวเดียว

ใบที่สอง กว้าง 65 ซม. ยาว 190 ซม. สูง 55 ซม. ใส่ศพนางสาวเพียงเพ็ญ สวมเสื้อยืดแขนยาว และกางเกงขาสามส่วน  ขาข้างซ้ายเหยียดออกมาด้านนอกโลง

นอกจากนี้ ที่ตัวโลงยังมีมือจับ และมีล้อ 4 ข้าง เป็นลักษณะของโลงที่สั่งต่อขึ้นมาโดยเฉพาะ

------------

ชาวบ้านในพื้นที่ ให้การว่า

ช่วงกลางวัน ของวันที่ 8 ม.ค. เห็นรถบรรทุกโลงเหล็ก 2 โลง ขับมาส่งที่ริมสระน้ำที่เกิดเหตุ โดยนายวรุตย์เป็นคนมารับโลง และสั่งให้เอาโลงไปวางบนแท่นกลางน้ำ จากนั้น นายวรุตย์ก็ขับเก๋งออกไป

ช่วงค่ำ ชาวบ้านที่ไปส่องไฟหากบ เห็นว่า มีผู้ชายขับเก๋งมา พร้อมกับชายสูงอายุและหญิงสาวอีก 1 คน พอชาวบ้านจะเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียงคล้ายกับคนทะเลาะกัน แต่นายวรุตย์ ตะโกนบอกว่า “อย่าเข้ามา ๆ แก้ผ้าอยู่”  ชาวบ้านจึงเดินหนีไป แต่ก็ยังทันเห็นว่ามีโลงเหล็กวางอยู่กลางน้ำ  

พอกลางดึก กลับมาริมสระน้ำอีกครั้ง ปรากฎว่า โลงเหล็กหายไป จึงไปแจ้งนายพงษ์พัฒน์ อินธิจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านสร้างขุ่ย พอผู้ใหญ่บ้านมาถึง ก็เจอนายวรุตย์ ยืนอยู่ริมสระ เมื่อสอบถามว่า คนที่มาด้วยกันหายไปไหน นายวรุตย์บอกว่า พ่อกับน้องสาวเดินกลับรีสอร์ตไปแล้ว พอถามถึงโลงเหล็ก เพราะผู้ใหญ่บ้านก็เห็นด้วยตาตัวเองเมื่อตอนกลางวัน แต่นายวรุตย์ตอบว่าไม่เห็น จึงลองส่องไฟลงไปในน้ำ เห็นว่ามีโลงจมอยู่ในน้ำ จึงเอาเชือกลากขึ้นมา และเห็นว่ามีศพอยู่ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

------------

ตำรวจคุมตัวนายวรุตย์ไปสอบปากคำที่ สภ.พังโคน ซึ่งนายวรุตย์ก็ยังพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง มีท่าทางแปลก ๆ แต่รับสารภาพว่า เป็นคนฆ่าพ่ อและน้องสาว ด้วยการจับทั้งสองคนลงกล่องคนละใบ และผลักกล่องลงน้ำ

สาเหตุมาจาก ก่อนหน้านี้ ทะเลาะกับพ่อ แล้วพ่อบล็อกไลน์ตน จึงเกิดความแค้น หาว่าพ่อไม่รัก และกลัวไม่ได้มรดก จึงวางแผนฆ่าพ่อกับน้อง

โดยช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไปติดต่อร้านขายเหล็ก สั่งทำกล่องเหล็ก 2 ใบ รวมราคา 12,000 บาท  (ใบที่หนึ่ง 5,800 // ใบที่สอง 6,200 บาท) และสั่งทำแท่นตั้งโลงอีก 8,600 บาท รวมจ่ายเงินไป 20,600 บาท โดยอ้างกับทางร้านว่า จะทำกล่องสำหรับตกปลา ทางร้านจึงไม่ได้ติดใจสงสัย

จากนั้น วันที่ 8 ม.ค. ออกอุบายหลอกพ่อกับน้องสาวว่า จะพาไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล เมื่อขับรถมาจอดริมสระน้ำหนองหลุมหิน ก็หลอกให้พ่อกับน้องสาว ลองเข้าไปในโลงเหล็ก โดยบอกว่า ทำไว้ให้คนมาเช่าตกปลา พ่อกับน้องสาวหลงเชื่อ เข้าไปในโลง นายวรุตย์ก็ปิดฝาเอาโซ่พันล็อคกุญแจ แล้วก็ถีบโลงของพ่อลงน้ำ น้องสาวเห็นก็กรีดร้องโวยวาย แต่นายวรุตย์ก็ถีบโลงน้องสาวลงน้ำไปเช่นกัน

------------

ขณะที่ การตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ช่วงเที่ยง วันที่ 8 ม.ค. 2567 นายวรุตย์ขับเก๋งสีน้ำเงินมาที่ริมหนองน้ำที่เกิดเหตุ  ซึ่งในรถมีน้องสาวกับพ่อนั่งมาด้วย และมีรถบรรทุกขนโลงเหล็ก 2 โลง ขับตามมาด้วย

หลังจากนั้น กล้องจับภาพรถของนายวรุตย์ ขับออกจากหนองน้ำไป คาดว่าเป็นช่วงที่นายวรุตย์ขับรถพาพ่อกับน้องสาวไปกินข้าว ส่วนรถบรรทุกที่ขับตามออกไป ก็ไม่มีโลงแล้ว

------------

ตำรวจชุดสอบสวน เปิดเผยว่า ตำรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายนายวรุตย์ ดังนั้นขณะก่อเหตุ ไม่ได้มีอาการหลอนยาเสพติด

แต่พบว่า มีประวัติการรักษาอาการป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน เมื่อปี 63 แต่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่า รักษาอาการป่วยด้านไหน

โดยขณะนี้ คุมตัวอยู่ในห้องขังที่ สภ.พังโคน โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง เพราะช่วงที่สอบปากคำ นายวรุตย์มีท่าทางเหมือนจะไม่ยอมรับโทษ และมีท่าทีว่าอาจจะทำร้ายตัวเอง จึงต้องจัดเจ้าหน้าที่เฝ้า พร้อมกล้องวงจรปิด รวมทั้งนำสิ่งของ และอุปกรณ์ที่อาจใช้ก่อเหตุ ทั้งที่ตัวนายวรุตย์ และในห้องขัง ออกทั้งหมดด้วย

------------

ขณะที่ ช่วงเย็นวานนี้ (9 ม.ค. 67) ที่วัดป่าศรีสว่าง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองคนไปส่งให้ญาติ โดยญาติได้ประกอบพิธีฌาปณกิจทันที เพราะตามประเพณีความเชื่อ หากเสียชีวิตผิดธรรมชาติต้องรีบเผา

โดยญาติให้ข้อมูลว่า ครอบครัวนี้มีธุรกิจหอพักให้เช่า ในอำเภอสว่างแดนดิน และเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ แม่เป็นอดีตข้าราชการ เสียชีวิตไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 66  

ส่วนนายวรุตย์เป็นคนเรียนเก่ง มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์  ขณะที่นายประหยัด ผู้พ่อ ก็เป็นคนนิสัยดี แต่มักจะมีปากเสียงกับลูกชาย ที่รุนแรงที่สุด ก็ช่วงเดือนตุลาคม 66 ช่วงเดียวกับที่แม่เสียชีวิต ก่อนที่นายวรุตย์จะไปสั่งต่อโลงเหล็กเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 66  ซึ่งน้าสาวบอกว่า เคยเห็นโลงเหล็ก แต่ไม่ได้เอะใจ คิดว่าคงเป็นตู้ลำโพงเครื่องเสียง

ตัวนางสาวเพียงเพ็ญ น้องสาว เคยพลัดหลงกับครอบครัว เมื่อตอนไปเที่ยวภูกระดึงตอนเด็ก หลังจากนั้น ก็มีสภาพจิตใจไม่ปกติ เคยเรียนอยู่วิทยาลัยสาธารณสุขแห่งหนึ่งที่จังหวัดยะลา แต่เลิกเรียนไปกลางคัน

-------------

ขณะที่หมู่บ้านสร้างขุ่ย มีการจัดพิธีบายศรีเรียกขวัญผูกข้อมือ เพื่อเป็นสิริมงคลและสร้างขวัญกำลังใจแก่ชาวบ้าน  

โดยมีพระสงฆ์ 3 รูป  ผู้นำชุมชน ผู้เฒ่าผู้แก่ และชาวบ้าน มารวมตัวกันประกอบพิธีครั้งนี้ ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมง แม้ว่าเหตุสลดครั้งนี้ จะไม่ได้เกิดกับคนในพื้นที่ และไม่เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน  แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านอย่างมาก

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/dWpaZzAc09Y