อาชญากรรม

สองสามีภรรยา ร้องถูกเก๋งพุ่งชนสาหัส ไร้การเยียวยา ผ่านมา 5 เดือน คดีไม่คืบ

19 ธ.ค. 2566

101 views

นายณัฐพล อายุ 21 ปี , น.ส.วิยะดา อายุ 22 ปี และนางญาณิกา อายุ 32 ปี พี่สาวของนายณัฐพล เดินทางมาร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากที่ถูกรถเก๋งชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้ง ๆ ที่สาเหตุเกิดจากรถเก๋งกับรถทัวร์ขับปาดหน้ากัน ก่อนรถทัวร์จะตั้งใจชนท้ายรถเก๋ง แต่รถเก๋งเสียหลักกระเด็นมาพุ่งชน นายณัฐพล และ น.ส.วิยะดา ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่อีกฝั่งของถนนและไม่รู้เรื่องอะไรเลย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคม บริเวณถนนสายอุทัย-ภาชี อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่คดีผ่านมาหลายเดือนกลับไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ

นายณัฐพล บอกว่า วันเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากห้องพักที่ อ.อุทัย เพื่อจะไปทำงานที่นิคมอุตสาหรรมโรจนะ ซึ่งอยู่ห่างจากห้องพักประมาณไม่ถึง 10 กิโลเมตร โดยตนจะขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานทุกวัน ส่วนแฟนสาวจะทำงานอยู่คนละที่กัน แต่จะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของตนไปด้วย

วันเกิดเหตุระหว่างที่ตนขี่รถจักรยานยนต์มาปกติ จู่ ๆ ก็ถูกรถข้ามเลนพุ่งมาชน โดยที่ตนไม่รู้ตัวมาก่อน มารู้ตัวอีกทีคือนอนกองอยู่กับพื้นถนน และกำลังจะหมดสติ ส่วนคนขับรถเก๋งเดินออกมาจากรถทำท่าเหมือนกับว่าแขนเจ็บ แต่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือหรือสอบถามอาการตนแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตนและภรรยาไปส่งที่โรงพยาบาล

ทั้งนี้อาการของตนบาดเจ็บหลายอย่าง ทั้งลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็กแตก , ตับแตก , ปอดช้ำ , ขาขวาหัก 1 ท่อน , สะโพกขวาหัก , ข้อมือซ้ายหัก และข้อเท้าขวาหัก พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1 เดือน ส่วนแฟน มีอาการเลือดคลั่งในสมอง , ขาขวาหัก , ซี่โครงซ้ายหัก 1 ซี่ , ปอดช้ำ และตับฉีก พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 14 วัน ซึ่งในระหว่างที่รักษาตัว คนขับรถเก๋งไม่เคยมาเยี่ยมเลย มีเพียงแต่แม่ของคนรถเก๋งนำกระเช้ามาเยี่ยม ส่วนคนขับรถทัวร์ ซึ่งอายุ 62 ปี ก็ไม่เคยมาเยี่ยมแม้แต่ครั้งเดียวเช่นกัน มีแต่เพียงตัวแทนของฝั่งรถทัวร์ นำเงินมาให้ 15,000 บาทเท่านั้น และหลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่ออะไรมาอีก ตอนนี้สิ่งที่ตนต้องการที่สุดคือ อยากให้ทั้งคนขับรถทัวร์และคนขับรถเก๋ง ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่เงียบหายหรือโยนความรับผิดชอบกันไปมาแบบนี้ั

ขณะที่ นายเอกภพ เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้เสียหายพยายามติดตามความคืบหน้าของคดีกับตำรวจของ สภ.อุทัย มาโดยตลอด แต่ผ่านมา 5 เดือนแล้ว คดีก็ไม่คืบหน้า โดยตำรวจเจ้าของคดี บอกกับผู้เสียหายว่า ทางฝั่งรถเก๋งไม่มีประกันภัย และ พ.ร.บ.หมดอายุ

ส่วนฝั่งรถทัวร์ก็อ้างว่ารถเก๋งเบรกกะทันหัน ที่สำคัญตำรวจที่ทำคดีบอกว่าตอนนี้ใกล้จะย้ายแล้ว ให้ตามเรื่องคดีกับตำรวจคนใหม่ที่จะย้ายมา ทุกวันนี้ผู้บาดเจ็บถูกทางบริษัทให้ออกจากงาน เพราะรักษาตัวเป็นเวลานาน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  เก๋งชนจักรยานยนต์

คุณอาจสนใจ