สาวร้อง ถูกเพื่อนบ้านทำร้ายร่างกาย เหตุโวยหมามาฉี่ใส่รถ

เพจเฟซบุ๊กสายไหมต้องรอด โพสต์คลิปความยาว 28 วินาที เป็นภาพคนกลุ่มหนึ่ง กระชากหญิงสาวลงจากรถ และมีการทำร้ายร่างกายฉุดกระชากลากถูไปกับพื้น ซึ่งทางเพจได้บรรยายเรื่องราวระบุว่า "น้องหมาเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน ขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ

เหตุเกิดวันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อนบ้านปล่อยสุนัขมาฉี่ใส่ล้อรถที่บ้าน หลายครั้งจนขี้เกลือขึ้น และเวลาข้างบ้านปล่อยสุนัขมาไม่มีสายจุงทำให้สุนัขขี้เรี่ยราด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการพูดคุยแล้วแต่พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง เขาหาว่าพี่สาวเราเอา ดีดีที ไปฉีดใส่พ่อเขาจนเข้าโรงพยาบาล แล้วมีปากเสียงทะเลาะกัน ซึ่งฝั่งเรามีแต่ผู้หญิง

วันที่ 29 พฤศจิกายน ข้างบ้านมาดักทำร้ายเรา ตอนจอดรถดับเครื่อง โดยกระชากเราลงจากประตูฝั่งคนขับ จิกผม ทุบหัว และลากไปในจุดที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ผู้กระทำใส่หมวกไอ้โม่ง ใส่ถุงมือ ส่วนอีก 2 คน คอยกันแม่เราไม่ให้เข้ามาช่วย เราโดนกระชากจนกระโปรงหลุดเหลือแต่ซับใน สักพักเพื่อนบ้านได้ยินจึงออกมาช่วย

หลังเกิดเหตุ เราไปตรวจร่างกายและแจ้งความดำเนินคดี ไว้ที่ สน.บางโพงพาง ซึ่งต้องรอผลตรวจร่างกายอีก 1 เดือน ในระหว่างนี้เราเกรงเรื่องความปลอดภัย กลัวว่าจะถูกดักทำร้ายอีก จึงขอความช่วยเหลือมาที่เพจสายไหมต้องรอด ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ด้วยค่ะ"

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 3 เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุภายในซอยสาธุประดิษฐ์ 57 แยก 8 ซึ่งบ้านคู่กรณีทั้งสองหลังอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน โดยทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับเจ๊พัด เป็นหนึ่งในคู่กรณีและอยู่ในเหตุการณ์ โดย เจ๊พัด เปิดกล้องวงจรปิดให้ทีมข่าวดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจริงๆแล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นวันเดียวกัน คือ 29 พฤศจิกายน

ช่วงเช้าประมาณ 7 โมงครึ่ง ทางฝั่งคู่กรณีเจ้าของสุนัข ปล่อยสุนัขหลุดออกมาจากบ้านพร้อมสายจุง และสุนัขวิ่งมาฉี่ใส่ล้อรถของคุณญา น้องสาวเจ๊พัด จากนั้นทางเจ้าของสุนัขนำน้ำมาราดทำความสะอาดให้ แต่ด้วยความโมโห ตนเองจึงบ่นด่าออกไป เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่คู่กรณี เดินกลับไปเตะรถของน้องสาวอีก ทำให้ตนเองยิ่งไม่พอใจ มีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนที่น้องสาวได้ยินและออกมาดูว่าล้อรถตัวเองถูกสุนัขของข้างบ้านฉี่ใส่

จังหวะนั้น ทางฝั่งคู่กรณีขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะออกไปส่งหลานชายไปโรงเรียน แต่ขี่รถพุ่งจะชนตนเองและน้องสาว ซึ่งตอนนั้น ตนเองถือยาฆ่าแมลงอยู่ในมืออยู่แล้ว จึงฉีดยาฆ่าแมลงใส่คู่กรณีตามหลังไปเพื่อเป็นการป้องกันตัว เพราะทางฝั่งของตนเองมีแต่ผู้หญิงและผู้สูงอายุ จากนั้นก็ตามไปยื้อยุดฉุดกระชากกันอีกรอบ ตรงหน้าปากซอย จนมีคนเข้ามาห้ามก่อนแยกย้าย

เจ๊พัด คิดว่าเหตุการณ์จะจบลงแค่นั้น แต่ปรากฏว่า ตอนกลางคืน น้องสาวของตนเองขับรถกลับเข้ามาบ้านประมาณ 21:00 น. ทางฝั่งคู่กรณีเจ้าของหมา เดินออกมาจากบ้านทันทีที่น้องสาวจอดรถ และลูกสาวของคู่กรณี ใส่ไอ้โม่งออกมาพร้อมกับพวก 2-3 คน ปลีกเข้ามากระชากน้องสาวลงจากรถ และรุมทำร้ายร่างกายลากตัวน้องสาวไปกับถนน เพื่อหลบมุมกล้องวงจรปิด จนน้องสาวได้รับบาดเจ็บ

ตนเองซึ่งอยู่ในบ้านได้ยิน และเห็นว่าน้องสาวกำลังถูกทำร้ายร่างกาย จึงถือเลื่อยโค้งตัดกิ่งออกไปด้วย เพื่อป้องกันตัวเพราะทางฝั่งคู่กรณีมีผู้ชายอยู่ด้วย ส่วนฝั่งของตนเองมีแค่ผู้หญิงกับคนแก่ แต่น้องสาวห้ามเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นทางฝั่งของตนเองพาน้องสาวไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณีฐานทำร้ายร่างกาย

ส่วนคู่กรณีก็แจ้งความกลับตนเองที่นำยาฆ่าแมลงไปฉีดใส่หน้า อ้างว่าระคายเคืองแสบตาจนได้รับบาดเจ็บ ตนเองจึงอยากถามว่า ตนเองฉีดสเปรย์ตามหลังไปและคู่กรณีใส่หมวกกันน็อก มันจะเข้าไปโดนลูกตาได้ยังไง ซึ่งทางฝั่งของตนเองกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะคู่กรณีเคยมีประวัติติดคุกในข้อหายาเสพติด และเคยได้ยินว่าคู่กรณี คุยโม้โอ้อวดไว้ว่า ถ้าเรื่องนี้ถึงตำรวจก็ไม่กลัวเพราะเลี้ยงตำรวจไว้

สำหรับปัญหาเรื่องสุนัข ตนเองก็เป็นคนที่เลี้ยงสุนัขเหมือนกัน จนตอนนี้สุนัขอายุ 18 ปี ไม่เคยปล่อยออกไปขี้เยี่ยวเรี่ยราดรบกวนคนอื่น จึงอยากฝากให้คู่กรณี ฝึกเรื่องการขี้เยี่ยวของสุนัข และปัจจุบันมีอุปกรณ์หลายอย่างที่ฝึกสุนัขให้ขี้เยี่ยวเป็นที่เป็นทาง ไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้คนอื่น

ขณะที่ทีมข่าว ไปพูดคุยกับ นายป็อป อายุ 53 ปี ฝั่งเจ้าของหมา ซึ่งนายป๊อป คือคนที่ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งเข้าจะชนเจ๊พัดและคุณญา น้องสาว โดยนายป๊อป บอกว่า ตนเองไม่ได้ขี่รถจะพุ่งชน แต่รีบไปส่งหลานไปโรงเรียน ส่วนเรื่องสุนัข ตนเองยอมรับว่าสุนัขของตนเอง ออกไปฉี่ใส่ล้อรถของฝั่งคู่กรณีจริง ซึ่งที่ผ่านมาตนเองพยายามแก้ไขด้วยการนำน้ำไปราดทำความสะอาดให้ และถ้ามีขี้เรี่ยราดในซอย ตนเองก็นำถุงขยะไปเก็บ

แต่ที่ตนเองทนไม่ไหว เพราะฝั่งคู่กรณีด่าทอตนเองเสียๆหายๆ มาเป็นระยะเวลานานเกือบ 3 ปี ด่าตนเองว่า ไอ้ขี้คุก ด่าลูกสาวตนเองว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ , ด่าแม่ตนเองที่อายุ 81 ปี ว่าไม่สั่งสอนลูก และที่ผ่านมาก็ชอบตะโกนด่าแบบนี้มาโดยตลอด ซึ่งวันเกิดเหตุที่สุนัขของตนเองไปฉี่ใส่ล้อรถของน้องสาวเจ๊พัด ตนเองและแม่วัย 81 ปี ก็ออกมาขอโทษ

แต่ทางฝั่งคู่กรณีก็ยังด่าไม่หยุด หนำซ้ำ คุณญา เจ้าของรถ ยังกระชากตนเอง จนรถจักรยานยนต์ล้ม ซึ่งมีหลานชายซ้อนท้ายอยู่ด้วย พอช่วงค่ำลูกสาวตนเองทราบเรื่องทำให้เกิดความไม่พอใจ ว่าพ่อกับลูกถูกทำร้าย จึงออกไปมีปัญหา ทำร้ายร่างกายฝั่งคู่กรณีตามคลิป ส่วนที่ลูกสาวตนเองใส่ไอ้โม่ง เพื่อป้องกันกลัวว่าทางฝั่งคู่กรณีจะฉีดยาฆ่าแมลงใส่อีก

จนวันรุ่งขึ้นตนเองรู้สึกแสบตา ลืมตาไม่ขึ้น หลังไปตรวจร่างกายนำใบรับรองแพทย์ไปแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีเหมือนกัน ส่วนที่คู่กรณีบอกว่าตนเองไปคุยโม้โอ้อวดว่าเลี้ยงตำรวจในพื้นที่ไว้ ไม่เป็นความจริง ตนเองไม่เคยไปพูดแบบนี้กับใครที่ไหน