เปิดจดหมาย ‘แป้ง นาโหนด’ ยื่น 7 เรื่อง ขอความเป็นธรรมนายกฯ - ‘บิ๊กต่อ’ สั่งสอบ 'นายพล ก.' ช่วยพาหนี

เปิดจดหมาย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" 7 เรื่อง  เขียนร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ด้านผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ เผย  ดำเนินการได้เพียง 6 เรื่อง ส่วนเรื่องให้ประกันตัวเป็นดุลยพินิจของศาลไม่สามารถก้าวล่วงได้

 กรณีนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ ‘แป้ง นาโหนด’ ได้เขียนจดหมายร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องถึงกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม โดยหนังสือร้องเรียนเขียนด้วยลายมือของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง ได้เขียนขึ้นมาเพื่อส่งให้นายกรัฐมนตรี รวมถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี เพื่อร้องเรียนการไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนยุติธรรมจำนวน 7 เรื่อง  

นายแป้ง เขียนด้วยลายมือตัวเอง ระบุเดือนที่เขียนไม่ไม่ระบุวันที่  โดยเนื้อความ

 เรื่อง 1 ศาลไม่มีความยุติธรรมในการให้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว

เรื่องที่ 2 การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายตำรวจบางนายเกี่ยวกับการเรียกรับเงินและยักยอกทรัพย์สิน

เรื่องที่ 3 จับอาวธปืนขนาด.38 เมื่อ พ.ศ 2561 เรียกรับเงิน 50,000  เพื่อแลกกับคืนอาวุธและปล่อยตัว ผมได้ฝากเงินไปกับ ดต.... และ พ.ต.ท. ..... ได้ฝากอาวุธปืนกลับมากับ ดต.....เอามาให้ผม และเอาเงินชาวบ้านอีกหลายคน

เรื่องที่ 4 และ 5 การขายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรมของเรือนจำสองแห่งรวมถึงการทรมานนักโทษให้อดอยากซื้อของไม่ได้ กักขังตามอำเภอใจ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนต้องเข้าไปดูแลและคุ้มครอง

เรื่องที่ 6 ให้มีการรื้อคดีของอัยการท่านหนึ่งกับพรรคพวก

เรื่องที่ 7 ........เป็นลูกพี่อัยการ เรียกเงินผม 500,000 บาท ผมไม่ให้จึงฟ้องผมมาคนเดียวครับ  ไม่ได้จ่ายเงินจึงถูกฟ้องดำเนินคดีเพียงคนเดียว ทวงความยุติธรรมให้แก่กระผมและชาวไทยด้วย กระผมจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง ลงชื่อ เชาวลิต ทองด้วง

นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เอกสารที่ได้รับเป็นจดหมายของ ‘แป้ง นาโหนด’ 2 ฉบับ นอกนั้นเป็นเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ร้องเรียน โดยเอการสารฉบับที่ 1 เป็นเอกสารร้องเรียนเฉพาะหน่วยงานเดียว ซึ่งเอกสารฉบับนี้เป็น 1 ใน 7 เรื่องร้องเรียน/ ส่วนจดหมายฉบับที่ 2 ซึ่งเป็นข้อเรียน 7 เรียนนั้น ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้เพียง 6 เรื่องเท่านั้น ซึ่งจะดำเนินการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วน 1 เรื่อง (ข้อที่ 1 )ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นดุลยพินิจของศาลซึ่งไม่สามารถก้าวล่วงได้

6 เรื่องที่ร้องเรียนประกอบด้วย 4 หน่วยงาน โดย 3 หน่วยงานหลักสำคัญคือสำนักงานอัยการ ก็จะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการต่อไปว่ามีอัยการที่เกี่ยวข้อง ตามที่นายแป้ง กล่าวถึงกี่ราย/สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องประมาร 3 นาย ซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบโดยเฉพาะเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร/และกระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะส่งเรื่องให้กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบต่อไป

นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวต่อว่า หากตนได้ทำเสร็จสิ้นกระบวนการตามที่นายแป้งร้องขอมาแล้ว หน่วยงานต่างๆ ได้รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว ถือว่ากระบวนการดังกล่าวได้เข้าสู่การร้องขอความเป็นธรรมนายแป้ง เป็นที่เรียบร้อย นายแป้ง เองก็ควรติดต่อขอมอบตัว เพราะคนที่มีส่วนได้เสียอาจจะรู้ตัวว่าเป็นเป็นคนที่ถูกร้องเรียนหรือไม่ อาจทำให้นายแป้ง ไม่ปลอดภัยถูกตัดตอนได้

“หากเสี่ยแป้งยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม เสี่ยแป้งยังสามารถพูดคุยร้องขอตามช่องทางที่ดำเนินการได้ผ่านทนายความ เรื่องโทษจำคุกที่หลบหนีก็ไม่ได้สูงมาก โทษที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีหรือศาลตัดสิน คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ก็ยังมีโอกาสต่อสู้คดี การมอบตัวแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดจะมอบตัวกับใครอย่างไรขอให้เสี่ยแป้งไตร่ตรองดู”

นายกองตรี ดร.ธนกฤต บอกว่า เมื่อนำจดหมายร้องเรียนที่นายแป้ง เขียนด้วยลายมือตัวเองเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2566 เปรียบเทียบกับลายมือของนายแป้ง ที่เคยเขียนเรื่องร้องเรียน ผบ.เรือนจำ เมื่อ 22 มีนาคม 2566 ลายมือใกล้เคียงคล้ายกัน จึงเชื่อได้ว่าเป็นลายมือของนายแป้งเอง

ด้าน ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความของเสี่ยแป้ง เผยว่า หนังสือร้องเรียนมีทั้งหมด 7 เรื่อง ส่วนเรื่องที่ทำไม่ได้คือเรื่องประกันตัว ซึ่งไม่สามรถก้าวล่วงศาลได้ ตนจึงได้หารือทีมทนายความ ภายใน 1-2 วันนี้เตรียมส่งเรื่องไปยังกรรมาธิการรัฐสภาเรื่องบรรทัดฐานการได้ประกันตัว ซึ่งเรื่องต้องได้ไปอยู่ในชั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภา สำหรับข้อร้องเรียน 7 เรื่องของเสี่ยแป้ง  ตนก็ได้ทราบถามนายกองตรี ดร.ธนกฤต ว่าเรื่องไหนสามารถดำเนินการได้หรือไม่สามารถดำเนินการได้บ้าง ซึ่งนายกองตรี ดร.ธนกฤต ได้ชี้แจงและอธิบายให้ทราบแล้ว

---------------------------------

ผบ.ตร.สั่งสอบ นายพล 'ก.' ช่วยเหลือเสี่ยแป้ง เร่งตรวจปืนเอ็ม 16 ใช้ปะทะ ตร.

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมนต์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า อาวุธปืนที่ น.ช.แป้ง หรือนายเชาวลิต ทองด้วง ใช้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นปืนที่ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ แม้จากในภาพที่เห็นจะเป็นปืนเอ็ม 16 แต่ก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นปืนที่ได้รับการดัดแปลงหรือไม่ เพราะอาวุธปืนที่ น.ช.แป้งใช้ ประเภทที่ประชาชนสามารถครอบครองจะไม่สามารถยิงแบบอัตโนมัติได้ ส่วนรุ่นที่สามารถยิงแบบอัตโนมัติได้จะเป็นอาวุธสงครามที่มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ครอบครองได้เท่านั้น แต่การที่ น.ช.แป้งเอามาใช้ก่อเหตุในหลายพื้นที่ ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว เนื่องจากการเทียบกระสุนปืนพบว่าตรงกับเหตุในหลายพื้นที่

ด้าน พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร กล่าวว่า การที่ตำรวจรู้เบาะแส วัน เวลา และผู้ช่วยเหลือนักโทษชายแป้งหลบหนีการปิดล้อมของเจ้าหน้าที่ลงจากเขาบรรทัด แต่ยังไม่จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าตำรวจมียุทธวิธีในการปฏิบัติที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณะชน ซึ่งการทำงานขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก

ส่วนกระแสข่าวการหลบหนีไปต่างประเทศ พล.ต.อ.ธนา ระบุว่า ข่าวก็คือข่าว ส่วนจะอยู่ในประเทศหรือไม่ ยังไม่ขอตอบในรายละเอียด แต่ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีที่กระแสข่าวว่าได้รับความช่วยเหลือจากพล.ต.ต. ก ขณะนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้แต่งตั้งจเรตำรวจมาตรวจสอบแล้ว หากพบพยานหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับผู้ใดก็จะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Xe6HGEP65m0