อาชญากรรม

ซัดคนร้ายยิง 'ครูเจี๊ยบ' คือมือปืนในคราบ นศ.- ทำพิธีมิสซาอาลัย แม่วอน ตร.ตามจับให้ได้

โดย nattachat_c

16 พ.ย. 2566

253 views

ความคืบหน้าทางคดี ในการเร่งติดตามตัว 2 คนร้ายที่ก่อเหตุยิงนักศึกษาอุเทนถวาย บาดเจ็บสาหัส และกระสุนพลาดไปถูกครูเจี๊ยบ จนเสียชีวิต ล่าสุด


พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงคดีนี้ว่า ถือเป็นคดีที่ 2 ที่มีแผนประทุษกรรมลักษณะเป็นนักศึกษาที่มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนในการก่อเหตุ


หมายหัวเป้าหมายชัดเจน ส่วนตัวมองว่าไม่ใช้นักศึกษาแล้ว แต่เป็นรูปแบบองค์กรอาชญากรรมกลุ่มเล็ก พร้อมสั่งการไปยังผู้บังคับการจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และนนทบุรี ที่มักจะเกิดเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ หรือยังปล่อยให้บุคคลกลุ่มนี้ก่อเหตุยิงคู่อริต่อเนื่อง ผู้บังคับการจังหวัดจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยและสั่งการให้ชุดปะฉะดะ หรือชุดปฏิบัติการพิเศษออกลาดตระเวน เพื่อ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

-------------

ช่วงเช้าวานนี้ (15 พ.ย.66) พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร และพลตำรวจเอก ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.  พร้อมด้วยพลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว


โดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ตำรวจมีข้อมูลร่องรอยคนร้าย และสามารถพิสูจน์ทราบบุคคลได้ แต่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน จึงยังไม่มีการออกหมายจับ  แต่จากแผนประทุษกรรม พบว่า คนร้ายวางแผนมาอย่างดี แบบเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งการจัดหายานพาหนะ เส้นทางหลบหนี รวมถึงที่พักคอย จุดที่ต้องเปลี่ยน จุดลงมือ พยายามลบร่องรอย ลบหลักฐานเกือบทุกอย่าง พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่นักศึกษาทั่วไป แต่คล้าย "มือปืน" ที่อยู่ในคราบนักศึกษา


เมื่อนำแผนประทุษกรรมเก่าทั้งหมดมาดู ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่า มีความเชื่อมโยงกันของแผนประทุษกรรมของกลุ่มที่เคยก่อเหตุในอดีต  ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุต้องรอให้ได้ข้อมูล และได้ตัวคนร้ายก่อน ยังไม่อยากพาดพิงถึงสถาบันว่าเป็นการปลูกฝังจากองค์กรหรือไม่


ขณะที่พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุภายหลังการประชุมเพื่อรับฟังแนวความคิดและแนวทางปฏิบัติของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ว่า ตำรวจนครบาลมีข้อมูลเชิงลึก และได้ปฎิบัติตามขั้นตอนระงับเหตุอยู่แล้ว โดยเฉพาะเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท ทั้งตั้งด่านจุดสกัด และจัดสายตรวจ รวมถึงมีแนวคิดการเชิญผู้บริหารของสถาบันต่างๆ มาหารือและพูดคุยแนวทางแก้ปัญหาในลักษณะเชื่อมสัมพันธ์หรือทำความเข้าใจกัน  ส่วนจะมีแนวทางการสืบสวนหาข่าวโดยให้เด็กนักเรียนหรือครูเป็นสายข่าวในการหาข่าวเชิงลึกป้องกันก่อนเกิดเหตุหรือไม่นั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตอบว่า ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดออกมาได้ เพราะอยู่ในแผนการปฏิบัติงานของตำรวจ ดังนั้นเมื่อมีแผนออกมาแล้ว หากมีเหตุเกิดขึ้นซ้ำอีก ทางผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาโทษทันที

-------------

เช้าวานนี้ (15 พ.ย.66) ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านแม่พระประจักษ์ หมู่4 ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี  มีการทำพิธีเหลี่ยม หรือพิธีปิดฝาโลง โดยญาติได้นำเสื้อผ้า ตุ๊กตา รองเท้าผ้าใบ ซึ่งสิ่งของที่ครูเจี๊ยบเคยใช้และรักมาก ใส่ไปในโลง ก่อนที่บาทหลวงจะเป็นผู้ทำน้ำเสก หรือน้ำมนต์ ตามหลักความเชื่อในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ประพรมที่โลงศพ


จากนั้นเป็นพิธีเหลี่ยมตอกหมุดฝาโลง โดยมีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของครูเจี๊ยบ มาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย  ซึ่งหลังจากพิธีนี้จะไม่มีการเปิดฝาโลงอีก ก่อนนำร่างครูเจี๊ยบไปประกอบพิธีมิสซาปลงศพ ที่โบสถ์ภายในวัดแม่พระประจักษ์


โดยพิธีเหลี่ยม เริ่มจากหลวงพ่อบาทหลวงนำสวดภาวนา ให้พระเจ้าประทานพรให้การพักผ่อนนิรันดรมาสู่มารีอา ศิรดา และ ขอให้พระเจ้ารับมารีอาศิรดา เป็นข้ารับใช้ เมตตาและอภัยต่อบาป ก่อนจะสวดภาวนาอีกครั้ง โดยบริเวณโลงศพของครูเจี๊ยบ ผู้ช่วยบาทหลวงได้จุดเทียนสีขาว 1 เล่ม ให้ติดส่องประกายตลอดช่วงพิธีสวดภาวนา  จากนั้นบาทหลวงได้ประพรมน้ำเสกไปที่โลงศพ และสวดภาวนาอีกครั้ง  ก่อนที่นายไกรวัลย์ พ่อของครูเจี๊ยบ จะนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองวางไว้บนร่างของครูเจ๊ยบ ส่วนนางมณี แม่ครูเจี๊ยบ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินเอาพวงมาลัยดอกมะลิไปวาง โดยแม่ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ต้องมีญาติและหลานๆ คอยพยุง และปลอบใจ   จากนั้นครอบครัวและญาติสนิท รวมถึงหลานชาย 2 คน ที่ครูเจี๊ยบรักเหมือนลูก ส่งเสียเรียนหนังสือ  นำดอกไม้โปรยในโลง และสุดท้ายก่อนปิดฝาโลง คุณเอ แฟนครูเจี๊ยบ และพ่อแม่คุณเอที่เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยครั้งสุดท้าย ได้นำดอกไม้ไปวางในโลง


จากนั้นผู้ช่วยบาทหลวง หรือสัปเหร่อ นำฝาโลงที่บริเวณด้านบนสลักเป็นรูปพระเยซูตรึงกางเขนมาปิด ก่อนที่จะนำหมุดมาตอกที่ฝาโลง โดยจะตอกเพียงครึ่งเดียวก่อน  จากนั้นพ่อครูเจี๊ยบเป็นผู้ตอกหมุดทั้ง 4 มุมจนสนิท  ก่อนที่หลานชาย และแฟนครูเจี๊ยบ ช่วยกัยยกโลงบรรจุร่างขึ้นท้ายรถเพื่อเคลื่อนไปทำพิธีมิสซาที่โบสถ์วัดแม่พระประจักษ์


เมื่อเคลื่อนโลงมาถึง บรรยากาศภายในโบสถ์วัดแม่พระประจักษ์  เป็นไปอย่างโศกเศร้า แม่ของครูเจี๊ยบ เดินเกาะโลงพูดกับลูกสาวตลอดเวลา ว่า “มาถึงโบสถ์แล้วนะลูกนะ” ก่อนที่จะหอมไปที่รูปลูกสาว พร้อมฝากถึงตำรวจว่า “ขอให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด แม่จะสบายใจมากๆ และหลังจากนี้ แม่คงต้องใช้ชีวิตให้ได้ต่อไป”  ซึ่งในพิธิมิสซา นอกจากจะมีครอบครัวครูเจี๊ยบ และญาติสนิทแล้ว ยังมีคณะครูและนักเรียนชมรมถ่ายภาพโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ รวมถึงกลุ่มเพื่อน เดินทางมาร่วมในพิธีไว้อาลัยครั้งสุดท้ายด้วย


ในเวลา 10.00 น. หลวงพ่อบาทหลวง ทำพิธีมิสซาปลงศพ โดยกล่าวนำสวดภาวนาต่อพระเจ้า ให้กรุณารับมารีอา ศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ เป็นข้ารับใช้พระองค์  โดยมีนายไพฑูรย์ วงศ์วีระกูล นายอำเภอสองพี่น้อง และนายก อบต.ต้นตาล   ยืนขึ้นนำสวดภาวนา  พิธีทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบง่าย


หลังเสร็จสิ้นพิธีในโบสถ์แล้ว จะมีเพียงครอบครัวและญาติสนิทที่จะนำร่างครูเจี๊ยบเคลื่อนไปฝังที่สุสาน บริเวณกุฏิ (กุด) เดียวกับพี่ชายและคนในครอบครัวครูเจี๊ยบที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยมีบาทหลวงทำพิธีส่งวิญญาณ และอำลาผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้าย รวมทั้ง “เสกหลุมศพ” ด้วยการประพรมน้ำมนต์ที่หลุมศพครูเจี๊ยบ จากนั้นนำโลงใส่หลุม เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีมิสซาปลงศพตามธรรมเนียนคริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก

------------




คุณอาจสนใจ

Related News