อาชญากรรม

ลูกจ้างสาว ร้องบิ๊กโจ๊ก ถูกนายจ้างร้านอาหาร ทารุณปางตาย ทำงาน 4 ปี ให้ค่าจ้างครั้งเดียว

โดย nutda_t

25 ต.ค. 2566

1.4K views

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พาหญิงสาวผู้เสียหาย จากกรณีถูกนายจ้างเจ้าของร้านอาหารย่านภาษีเจริญ ทำร้ายร่างกายเยี่ยงสัตว์นาน 2 ปี จนมีบาดแผลเต็มตัว เข้าพบ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้างสุดโหดรายนี้

โดย สาวผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองมาสมัครเป็นพนักงานร้านดังกล่าว ผ่านทางรุ่นพี่แนะนำมา โดยตนเองทำหน้าที่คอยเตรียมวัตถุดิบ หุงข้าว หั่นผัก และเสริมอาหารให้ลูกค้า ซึ่งตั้งแต่ทำงานมากว่า 4 ปี ได้ค่าจ้างครั้งแรกเพียงครั้งเดียว และได้แต๊ะเอียตรุษจีน 50 บาทเมื่อปีที่แลัว หลังจากนั้นไม่เคยได้เงินเดือนอีกเลย โดยนายจ้าง อ้างว่า ได้จ่ายค่าทำคลอดลูกของตนให้แล้ว และพาตัวเด็กไปอยู่กับมูลนิธิแห่งหนึ่ง และได้จ่ายค่าดูแลรักษาพยาบาลระหว่างที่ลูกของตนไปอยู่ที่มูลนิธิฯ

นอกจากเงินค่าคลอดบุตร มีอยู่ช่วงหนึ่ง พ่อของตนประสบอุบัติเหตุ นายจ้างจึงเป็นคนออกค่ารักษาพยาบาลให้ เพื่อเป็นค่าดำเนินการอีก 10,000 บาท เงิน 2 ส่วนนี้ จึงกลายเป็นข้ออ้างที่นายจ้างไม่ยอมจ่ายเงินเดือน

ทั้งนี้ระหว่างที่ทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้าน นายจ้างให้กินนอนอยู่ที่ร้าน และจะถูกทำร้ายร่างกาย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากนายจ้างไม่พอใจ เช่น เวลาถูกลูกค้าคอมเพลน จะใช้แอลกอฮอล์ราดตามร่างกายและจุดไฟเผา , ใช้ไฟเบิร์นซูชิ รนตามร่างกาย , ใช้สายยางรัดคอจนหายใจไม่ออกแทบตาย และเวลาพูดหรือร้องด้วยความเจ็บปวด นายจ้างจะใช้เท้าเหยียบปาก

ล่าสุด ตนถูกตีจนหัวแตก และนายจ้างเตรียมครีม ค้อน และอุปกรณ์ช่าง ซึ่งตนเห็นและรู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ทำให้ตนตัดสินใจแอบหนีออกมาจากร้านเพื่อขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ทำให้ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือมาที่เพจสายไหมต้องรอด

ซึ่งวีรกรรมของนายจ้าง ยังมีเรื่องการข่มขู่ โดยเคยบอกให้ตนไปหยิบนาฬิกาเพื่อนำมาใส่ในกระเป๋าของตน และกล่าวหาว่าตนเป็นคนที่ขโมยนาฬิกา เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการข่มขู่ ตนเองต้องอดทนถูกทรมานแบบนี้มานานถึง 2 ปี เพราะนายจ้างข่มขู่ไว้ว่า จะทำให้พ่อติดคุกและจะนำตัวลูกของตน มาทารุณแบบตนเอง ทำให้ตนกลัว ซึ่งเจ้าของร้านเป็นสองสามีภรรยา ส่วนใหญ่คนที่ลงมือทำร้ายร่างกายจะเป็นฝั่งภรรยา และชอบอ้างว่าสนิทกับตำรวจในพื้นที่และมีญาติผู้ใหญ่เป็นทหาร ทำให้ตนไม่กล้าออกไปขอความช่วยเหลือจากใคร

ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังจากที่น้องผู้เสียหายหนีออกมาจากร้านและติดต่อมาขอความช่วยเหลือ ทางเพจได้สอบถามข้อเท็จจริง ทราบว่านายจ้างมีการบังคับใช้แรงงานเกินควร โดยให้น้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เตรียมของเปิดร้านทุกอย่าง และทำงานคนเดียว จนบางวันต้องเก็บร้านถึงตี 3 ได้นอนแป๊ปเดียว 6 โมง ก็ต้องตื่น และไม่มีที่นอน หมอนผ้าห่อให้ ต้องนอนในครัว ใช้ขวดน้ำหนุนแทนหมอน และนอนบนพื้นกระเบื้อง ได้กินข้าววันละ 1 มื้อ เป็นข้าวกับไข่ 2 ฟอง แล้วแต่จะต้มหรือจะทอด แต่ให้กินแค่นั้นต่อวัน บางวันมีเศษผัก เศษอาหารเหลือๆ จากลูกค้า ก็จะได้กิน ซึ่งสิ่งที่นายจ้างทำกับน้อง ตนเองมองว่ากระทำเยี่ยงสัตว์และเกินกว่ามนุษย์ทั่วไป

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการสอบปากคำผู้เสียหาย และจะมีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตภาษีเจริญ จะเรียกผู้กำกับมาสอบถาม หากพบว่ามีการคุกคามจริง จะดำเนินการกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้งในเรื่อง พ.ร.บ.แรงงาน เกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงาน โดยจะบูรณาการร่วมกับกระทรวงแรงงาน และจะไล่เรียงเรื่องต่างๆ โดยตอนนี้ยืนยันว่า ทราบตัวเจ้าของร้านแล้ว เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับตามขั้นตอน

คุณอาจสนใจ

Related News