พ่อสารภาพ ขืนใจลูกในไส้ตั้งแต่อายุ 12 นาน 2 ปี จนตั้งครรภ์ ขู่ลูกห้ามติดต่อแม่ ทุบมือถือทิ้ง

เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.66) แม่วัย 34 ปี พาลูกสาววัย 14 ปี มาร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าลูกสาวถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนจนตั้งท้อง

แม่เล่าว่า เธอและอดีตสามีวัย 40 ปี เลิกกันเมื่อปี 2554 เพราะอดีตสามีติดยาเสพติดและทำร้ายทุบตีเธอเป็นประจำ ตอนนั้นมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน  น้องเอ คนโตอายุ 4 ขวบ  น้องบี คนเล็กอายุ 2 ขวบ (เด็กผู้เสียหาย) อดีตสามีไม่ยอมให้ลูกสาวทั้ง 2 คน มาอยู่กับเธอ แต่เอาลูกไปฝากให้ปู่กับย่าที่จังหวัดบุรีรัมย์เลี้ยง และกีดกันไม่ให้แม่ลูกได้เจอกันมาตลอด 12 ปี  

จนน้องบี ลูกสาวคนเล็ก อายุได้ 12 ปี ได้ค้นหาเฟซบุ๊กของแม่จนเจอและได้แชทพูดคุยกันบ้าง ต่อมาอดีตสามีจับได้ว่า น้องบีติดต่อกับเธอ จึงทุบโทรศัพท์ของลูกทิ้ง และขู่ลูกว่าหากติดต่อกับเธออีกจะฆ่าให้ตาย ลูกจึงขาดการติดต่อไปหลายเดือน  

เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พ่อไปทำเรื่องย้ายน้องบีมาเรียนชั้น ม.2 ที่กรุงเทพฯ จนถึงช่วงเดือน ส.ค. ครูสังเกตว่า น้องบีท้องโตผิดปกติ อาจตั้งครรภ์ จึงแจ้งป้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อ อาศัยอยู่ในซอยอ่อนนุช พาน้องบีไปตรวจที่โรงพยาบาล จนทราบว่าน้องบีตั้งครรภ์ ป้าจึงพาน้องบีกลับไปยัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อที่จะพาไปทำแท้ง เพราะคิดว่าท้องเพียง 1 เดือน  แต่ไม่สามารถทำแท้งได้ เพราะขณะนั้นน้องบีท้องได้แล้ว 7 เดือน  จนวันที่ 17 ส.ค. ป้าจึงโทรมาบอกแม่

แม่จึงไปรับน้องบีมาอยู่ด้วยกันที่ย่านพัฒนาการ  ก่อนจะพาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล และน้องบีเพิ่งคลอดลูกออกมาเป็นทารกเพศหญิง เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา  

น้องบี เล่าให้ฟังว่าช่วงปิดเทอม ป.6 ประมาณเดือนเมษายน 2565 พ่อมารับไปอยู่ที่แคมป์คนงานในซอยอ่อนนุช 70/1 และถูกพ่อกระทำชำเรามาตลอด  น้องพยายามไปขอความช่วยเหลือจากป้า แต่พ่อก็ไปตามกลับมาทุกครั้ง พอใกล้เปิดเทอม พ่อก็ส่งกลับไปที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเรียนต่อ ม.1 และช่วงปิดเทอมพ่อก็จะไปรับมาและก่อเหตุข่มขืนอีก

กระทั่งเดือนพฤษภาคม 2566 ที่น้องกำลังจะขึ้น ม.2 พ่อไปย้ายโรงเรียนให้มาเรียนที่กรุงเทพฯ กระทั่งรู้ว่าตั้งครรภ์  ส่วนน้องเอ ลูกสาวคนโตไม่โดนกระทำเพราะอาศัยอยู่กับป้า

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี  พาสองแม่ลูกไปพบ พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผู้กำกับการ สน.ประเวศ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ซึ่ง พ.ต.อ.สุรพงษ์ ระบุว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังทราบเรื่อง ก็ได้เชิญเด็กหญิงที่เสียหาย มาสอบปากคำพร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและผู้ปกครอง และสั่งให้ฝ่ายสืบสวนนำกำลังพร้อมหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ไปคุมตัวนายสมชาย พ่อที่ก่อเหตุ  ที่แคมป์คนงานในซอยอ่อนนุช 70/1 ก่อนพาตัวเข้ามาสอบปากคำที่โรงพัก

ตอนแรกผู้ต้องหาปฏิเสธ แต่ภายหลังก็ยอมรับสารภาพว่า  กระทำชำเราลูกสาวตัวเองจริง รวม 3 ครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้เสียหาย ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ขอไม่เปิดเผยต่อสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นคดีเด็กและเยาวชน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้สืบสันดาน

ด้านนางปวีณา กล่าวว่า  เด็กหญิงผู้เสียหายและทารก  ขณะนี้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ซึ่งน่าเป็นห่วงทั้งสองคน ตัวเด็กเองก็เครียด และอยากกลับไปเรียน หลังจากนี้จะประสาน พม. กับ กทม. เข้าไปเยียวยาสภาพจิตใจและประสานขอรับเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม