อาชญากรรม

'ทนายอนันต์ชัย' เปิดซูเปอร์บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'เสรีพิศุทธ์' ยื่น ป.ป.ช.เอาผิดนายกฯ ปมตั้ง ผบ.ตร.

โดย nattachat_c

6 ต.ค. 2566

16 views

วานนี้ (5 ต.ค. 66) ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช นัดสื่อแถลงข่าวเปิด 'Super Big Surprise' วงการสีกากี ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  โดยบอกว่า ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ให้มายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ป.ป.ช. ส่วนจะเป็นเรื่องใด ขอให้ผู้ใหญ่ท่านนั้นเป็นผู้บอกเอง  


ทนายอนันต์ชัย ยังบอกด้วยว่า ที่มายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพราะช่วงที่ไปให้คำปรึกษากับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กับลูกน้อง 8 นาย  มีสายโทรศัพท์จากคนในรัฐบาลโทรมาหา ห้ามไม่ให้ตนกับบิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์ ซึ่งแม้จะห้ามบิ๊กโจ๊กได้ แต่ห้ามตนไม่ได้ เพราะตนมีหน้าที่เปิดเผยความจริง  


ส่วนที่บิ๊กโจ๊ก บอกว่า ไม่ได้แต่งตั้งทนาย ก็ถูกต้องแล้ว เนื่องจากการเป็นทนายความให้ ไม่จำเป็นต้องทำใบแต่งตั้ง ตอนนั้น ตนได้รับคำขอให้ช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้จริง แต่ตอนนี้ ตนไม่ได้ทำหน้าที่ทนายให้แล้ว  


ส่วนที่มีคนกล่าวหาว่า ตนได้ค่าทำคดี 5 ล้าน ขอสาบานต่อหน้าฟ้าว่า ไม่เคยรับแม้แต่บาทเดียว ถ้าวันนั้น ไม่มีสายโทรเข้ามาห้าม ก็จะไม่มีการยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ในครั้งนี้  


ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ผู้ใหญ่ที่เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ คือใคร

ตอนแรกทนายอนันต์ชัยไม่เปิดเผย บอกแค่ว่าฮ่องเต้คนใหม่  แต่สุดท้ายหลุดชื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกมา

-------------

ต่อมา เวลา 11.30 น. พลตํารวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมเอกสาร เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ คณะกรรมการตำรวจ รวม 10 คน ที่มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ


พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 258 ง.(4) มีหลักการให้การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงความอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อไม่ให้ตำรวจอยู่ใต้อาณัติใคร  


และตามมาตรา 77(1) นายกฯ ต้องเป็นคนเสนอชื่อข้าราชการตำรวจที่มีรายชื่ออาวุโสตามลำดับ ซึ่งถ้าทำตามระบบและรัฐธรรมนูญ นายกฯ จะต้องเสนอชื่อ รอง ผบ.ตร. ที่มีอาวุโสอันดับ 1 เท่านั้น  แต่นายกรัฐมนตรี กลับเสนอชื่อ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ซึ่งเป็นรอง ผบ. ตร.ที่มีอาวุโสเป็นลำดับที่ 4 ให้ที่ประชุม ก.ตร.พิจารณา และกรรมการ ก.ตร.ทั้ง 9 คน ก็ให้ความเห็นชอบ


จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  ตนเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงทนไม่ได้ ต้องมาร้องต่อ ป.ป.ช. และอยากทำเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็ว หากพบว่าเป็นการกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ  ป.ป.ช. จะต้องส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดำเนินการต่อไป และถ้าผิดจริง ก็ต้องมีการตัดสิทธิลงสมัคร


พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า “ก่อนหน้านี้เคยเตือนคุณเศรษฐาไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ฟัง แล้วผมจะมีไมตรีทำไม เพราะคุณเป็นคนทำลายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณเป็นคนเสนอ ถึงคุณงดออกเสียง แค่คุณเสนอก็ผิดแล้ว เพราะเป็นต้นเหตุ ถ้าไม่เสนอคนอื่นจะลงมติได้อย่างไร”  


พร้อมยืนยันว่า การมายื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช. ครั้งนี้ เป็นการทำเพื่อองค์กรตำรวจ ไม่ได้ทำเพื่อใคร เพราะ พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ. ตร.ที่อาวุโสอันดับ 1 ก็เงียบไม่ต่อสู้เพื่อตัวเอง ไม่รู้จะเป็นทำไมรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่มีความกล้าหาญเลย ถ้าตนเป็นรอง ผบ. ตร. เบอร์ 1 ตนฟ้องแล้ว  ซึ่งพลตำรวจเอกรอย ควรไปร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม


และถ้าตนเป็น ผบ. ตร.จะตั้งพลตำรวจเอกรอย ให้เป็น ผบ. ตร.คนต่อไป เพราะทำแบบนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเงียบสงบ ไม่มีปัญหา แต่ที่ผ่านมา มีการเมืองมาแทรก นายกฯ ก็เข้ามายุ่งทั้งที่ไม่ควร จึงทำให้องค์กรตำรวจเกิดปัญหา


ส่วนออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับพรรค เพราะตนลาออกจากการเป็น สส.แล้ว และคงไม่ทำให้พรรค ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอึดอัด  แม้ตนจะยังเป็นหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แต่ความเป็นพรรคมีอิสระในการดำเนินการ  


ส่วนกรณี นายอนันต์ชัย ถูกบุคคลในรัฐบาลสั่งห้ามไม่ให้พูด เพราะนายอนันตชัยไม่ใช่พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ ใครก็มาสั่งตนไม่ได้ คนในรัฐบาลไม่ควรทำแบบนี้ ทำเหมือนไม่รู้ว่าสิ่งนี้ผิดกฎหมาย


เมื่อถามว่ากรณีแบบนี้ เข้าข่ายใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแซงทางคดีหรือไม่

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูว่าถ้าเป็น สส.ก็มีความผิด ซึ่งนายอนันต์ชัยไม่ใช่ข้าราชการประจำ ความจริงสามารถพูดคุยขอร้องก็ได้แล้ว แต่ถ้าใช้การข่มขู่ก็เป็นความผิดตามกฎหมาย


ด้านทนายอนันต์ชัย ระบุว่า นอกจาก ยื่นเรื่องกับ ป.ป.ช  แล้ว หลังจากนี้ จะแจ้งเอาผิดนายเศรษฐา ในมาตรา 112  ฐานที่เป็นคนเสนอชื่อ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ไม่เหมาะสม ขึ้นไปยังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือว่าเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FO1ndNj9NBc

คุณอาจสนใจ

Related News