อาชญากรรม

จ่อเรียก 'เฮียแต๋ม' ให้การเรื่องบ้านบิ๊กโจ๊ก - แหล่งข่าวยัน 'เฮียแต๋ม-บิ๊กโจ๊ก' ไม่ใช่ญาติกัน 1,000%

โดย nattachat_c

27 ก.ย. 2566

413 views

ภายหลังจาก ชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PCT) ชุดที่ 4 ของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT 4 นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยวิภาวดี 60 ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 66 และสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นนายตำรวจที่ใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ 8 นาย รวมทั้งพลเรือนที่อยู่ในเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์จำนวน 9 ราย


ทีมข่าวได้ข้อมูลจากแหล่งข่าว พบว่า บ้านทั้ง 5 หลัง ในหมู่บ้านดังกล่าว ชื่อผู้ครอบครองเป็นของ 'เฮียแต๋ม' และภรรยา ซึ่งเป็นนักธุรกิจอยู่ที่ จ.อุดรธานี ได้ซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ไว้ และให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัย โดยที่ไม่มีการเก็บค่าเช่า และไม่ได้เข้ามาดูแลบ้านทั้งหมดนี้มานานแล้ว


เฮียแต๋ม และภรรยา เป็นเจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่ ในจ.อุดรธานี พบว่า มีสาขาอยู่ในหลายจังหวัดใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ และมีความเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา และมักจะต้อนรับคณะของนายตำรวจ ที่เดินทางไปราชการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเต็มที่


สำหรับชื่อผู้ครอบครองบ้านทั้ง 5 หลัง พบ เป็นชื่อของ 'เฮียแต๋ม' จำนวน 3 หลัง ที่เป็นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และที่อ้างว่าซื้อไว้ให้พ่ออยู่อีกหลัง และชื่อของภรรยาเฮียแต๋ม อีก 2 หลัง ที่ให้เป็นที่พักของนายตำรวจติดตาม ที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร


นอกจากนั้น ยังได้ข้อมูลการจ่ายเงินค่าส่วนกลางของหมู่บ้าน ของบ้านทั้ง 5 หลัง ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ถึง เดือนมิถุนายน 2567 โดย เฮียแต๋ม เป็นคนโอนเงินเข้ามาจ่ายให้


โดยบ้านพักหลังที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัยอยู่จ่ายค่าส่วนกลางเป็นเงินรวม 62,000 บาท ส่วนหลังอื่นหลังละ 26,000 – 27,000 บาท


รวมค่าส่วนกลางทั้ง 5 หลัง เป็นเงินกว่า 142,000 บาท ส่วนการขอใช้ไฟฟ้าของบ้านทั้ง 5 หลัง พบว่าเป็นชื่อของ เฮียแต๋ม เป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าทั้งหมด

--------------

ข้อมูลบ้านเลขที่ตามหมายค้น 5 หลัง มีดังนี้


9/146 อเวนิว ซิกซ์ตี้ วิภาวดี 60 ซ.วิภาวดีรังสิต 60 แยก 3-9 ถ.วิภาวดีรังสิต ตลาดบางเขน หลักสี่ กรุงเทพมหานคร เจ้าของบ้านตามโฉนด นายชินรัตน์  (สงวนนามสกุล)


9/157 อเวนิว ซิกซ์ตี้ วิภาวดี 60 ซ.วิภาวดีรังสิต 60 แยก 3-9 ถ.วิภาวดีรังสิต ตลาดบางเขน หลักสี่ กรุงเทพมหานคร เจ้าของบ้านตามโฉนด นายชินรัตน์  (สงวนนามสกุล)


9/158 อเวนิว ซิกซ์ตี้ วิภาวดี 60 ซ.วิภาวดีรังสิต 60 แยก 3-9 ถ.วิภาวดีรังสิต ตลาดบางเขน หลักสี่ กรุงเทพมหานคร เจ้าของบ้านตามโฉนด นายชินรัตน์  (สงวนนามสกุล)


9/147 อเวนิว ซิกซ์ตี้ วิภาวดี 60 ซ.วิภาวดีรังสิต 60 แยก 3-9 ถ.วิภาวดีรังสิต ตลาดบางเขน หลักสี่ กรุงเทพมหานคร เจ้าของบ้านตามโฉนด นายชินรัตน์  (สงวนนามสกุล) และนางสิริกาญจน์  (สงวนนามสกุล)


9/148 อเวนิว ซิกซ์ตี้ วิภาวดี 60 ช.วิภาวดีรังสิต 60 แยก 3-9 ถ.วิภาวดีรังสิต ตลาดบางเขน หลักสี่ กรุงเทพมหานคร เจ้าของบ้านตามโฉนด นายชินรัตน์  (สงวนนามสกุล) และนางสิริกาญจน์ (สงวนนามสกุล)


โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร พักอยู่บ้านเลขที่ 9/147 กับ 9/148
--------------

ส่วนการชำระค่าส่วนกลางของเดือน ก.ค. 66 - มิ.ย.67 ชำระโดยปรากฎ เงินโอน Cross Bank ดังนี้


26,XXX (9/146)

27,XXX  (9/147)

27,XXX (9/148)

31,XXX (9/157)

31,XXX (9/158)


ขณะที่ นายชินรัตน์ หรือ เสี่ยแต๋มอุดร ขอไฟฟ้า ทั้ง 5 หลัง บ้านเลขที่ 9/146, 9/147, 9/148, 9/157 และ 9/158

--------------

โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะออกหมายเรียกให้ “เฮียแต๋ม” และภรรยา มาให้ข้อมูลถึงการครอบครองบ้านทั้ง 5 หลัง ในเร็ว ๆ นี้ และ หลังจากนี้ ชุดสืบสวนจะตรวจสอบที่มาของเงินที่นำมาซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ ว่า เป็นเงินที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่


พร้อมทั้ง จะยื่นขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า มีการรับของเกิน 3,000 บาท จากบุคคลอื่นหรือไม่ ซึ่งหากจำเป็นต้องรับทรัพย์สินมูลค่าสูง ตามกฎหมายแล้ว จะต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาใน 30 วัน หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท


ทั้งนี้ มีรายงานว่า ค่าไฟฟ้าบ้าน 5 หลัง ที่ถูกค้นนั้น จ่ายผ่านบัญชีนายครรชิต (สงวนนามสกุล) ซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์เว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ โดยนายครรชิต มีประวัติเคยต้องคดีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ

--------------

วานนี้ (26 ก.ย. 66) เวลา 11.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ว่า

ประเด็นที่ปรากฎชื่อ ผู้ถือกรรมสิทธิ์บ้านทั้ง 5 หลัง คือ เฮียแต๋ม ซึ่งเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่จังหวัดอุดรธานี และพบว่า มีการโอนเงินมาจ่ายค่าส่วนกลางบ้านปีละ 142,000 บาท นั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เฮียแต๋ม เป็นญาติของตน ซึ่งเป็นญาติสนิทกัน และเป็นเจ้าของบ้านทั้งหมด


โดย เฮียแต๋ม ให้ตนเช่าบ้านอยู่ โดยมีสัญญาเช่าชัดเจน ตนเช่าในราคา 50,000 บาท อาศัยอยู่ 2 หลัง ส่วนหลังที่เหลือใช้เก็บของ ซึ่งด้วยความที่เป็นญาติกัน ตนจะจ่ายแพงกว่านี้ แต่เฮียแต๋มก็ไม่เอา


ทั้งนี้ บ้านที่ตนอาศัยอยู่นี้ ตนได้เคยให้การกับ ป.ป.ช. ไว้นานแล้ว และตนบริสุทธิ์ใจ เฮียแต๋มก็ไม่ใช่คนที่ทำผิดกฎหมาย ตนเป็นคนสงขลา จึงมาหาเช่าบ้านอยู่เพื่อความสะดวก

--------------

วานนี้ (26 ก.ย. 66) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.กมค.) กล่าวภายหลังมีข่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทนาย ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เพื่อเอาผิดตำรวจชุดตรวจค้นบ้านพักย่านวิภาวดี 60 ว่า เป็นการค้นโดยมิชอบ โดยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ดังนี้


กรณี เฮียแต๋ม นักธุรกิจขนส่งรายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานีและภรรยา ที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านที่เข้าตรวจค้นทั้ง 5 หลัง และเป็นผู้จ่ายค่าส่วนกลาง ปีที่ผ่านมา เป็นเงิน 142,000 บาท และเป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าให้กับบ้านทั้ง 5 หลัง หลังพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยอมรับว่าเช่าบ้านเฮียแต๋มอยู่ เดือนละ 50,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นญาติกัน


พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องจากสื่อมวลชน แต่เมื่อวันที่ 25 ก.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นบ้านญาติ ไม่ได้มีการเช่า


หลังจากนี้ ก็จะต้องตรวจสอบว่า เฮียแต๋ม มีความสัมพันธ์เครือญาติด้านไหนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หากมีการเช่าจริง ก็ต้องมีสัญญาตามกฎหมาย โดยจะต้องเรียกเฮียแต๋มมาให้ปากคำเร็ว ๆ นี้
--------------
วานนี้ (26 ก.ย. 66)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยวิภาวดี 60 ของ ตามหมายศาล โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงตนเองผู้อยู่อาศัย ตามที่สื่อหลายสำนักรายงานไป


และแหล่งข่าวบอกว่า บ้านทั้ง 5 หลังในหมู่บ้าน ดังกล่าว ชื่อผู้ครอบครองเป็นของ เฮียแต๋ม และภรรยา เป็นคนที่ทำธุรกิจอยู่ที่ จ.อุดรธานี ได้ซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ไว้ และให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัย


เมื่อวานนี้ (26 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงาน บริษัทขนส่งรายใหญ่แห่งหนึ่ง ใน จ.อุดรธานนี ซึ่งเป็นกิจการของ เฮียแต๋ม


โดยผู้สื่อข่าวได้ขอติดต่อเข้าพบเฮียแต๋มผ่านพนักงาน แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานว่า เฮียไม่อยู่ ไม่เข้ามาจะเดือนแล้ว เมื่อขอให้พนักงานโทรศัพท์ติดต่อเฮียก็ไม่รับสาย ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางกลับ โดยทราบจากพนักงานว่า เฮียแต๋มกลับมาที่อุดรเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนใหญ่จะสั่งงานธุรกิจทางโทรศัพท์


สำหรับเฮียแต๋ม มีธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งสินค้ารายใหญ่ใน จ.อุดรธานี และภาคอีสาน เคยเป็นกรรมการทำงานสังคมส่วนรวม หลายคนบอกนิสัยดี ไม่ใช่นักเลง


แหล่งข่าวคนหนึ่งบอกว่า เฮียแต๋มไม่ใช่ญาติกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แน่นอน รู้จักกันโดยบังเอิญหลังจากบิ๊กโจ๊กมาปฏิบัติภารกิจที่ จ.อุดรธานี เมื่อประมาณปี 54-55


ทั้งนี้ หากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางมายังจังหวัดอุดรธานี ก็จะมาหาเฮียแต๋มทุกครั้ง และชอบชวนกันไปนั่งกินข้าวต้มกันที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านประจำ


สำหรับเฮียแต๋ม หลายคนใน จ.อุดรธานี รู้จักกันว่าเป็นคหบดีที่สนับสนุนเส้นทางชีวิตราชการสายตำรวจของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และนายตำรวจอีกหลายท่านอีกด้วย

--------------
วานนี้ (26 ก.ย. 66) เวลา 17.00 น. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่สโมสรตำรวจ เพื่อพบกับกลุ่มสมาคมชาวปักษ์ใต้ที่เดินทางมาให้กำลังใจในการทำงาน โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนานกว่า 45 นาที ถึงประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น


เรื่องบ้าน ที่มีทั้งหมด 5 หลัง โดยเป็นของ เฮียแต๋ม เศรษฐีนักธุรกิจชาวอุดร เป็นญาติผู้ใหญ่ที่ตนให้ความเคารพนับถือ สนิทสนมกันมานาน ตั้งแต่สมัยตนเป็นสารวัตร


ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เฮียเเต๋มก็เคยไปให้การกับ ป.ป.ช. ว่า เป็นผู้ให้ตนอาศัยอยู่ที่บ้าน โดยการเช่ารายเดือน เดือนละ 50,000 บาท มีการทำสัญญากันชัดเจน โดยตนจ่ายค่าเช่าเพียง 2 หลัง ที่ทำสัญญาเช่าเท่านั้น


ส่วนการเช่าบ้านของเฮียแต๋มทั้ง 5 หลัง เฮียแต๋มเคยเข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช. และตนก็เคยชี้แจงเช่นกัน โดยบ้านทั้ง 5 หลัง ที่ตนได้เช่าอยู่นั้น ตนใช้อยู่ 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นพ่อของตนที่เคยอาศัยอยู่ ส่วนที่เหลือใช้เก็บของ และให้กับลูกน้องของตนไว้พัก


ตนทราบว่า ตอนนี้ สื่อได้มีการพยายามโทรศัพท์ไปหาเฮียแต๋ม แต่ขณะนี้ เฮียแต๋ม ยังไม่สะดวกเปิดตัว แต่ในวันพรุ่งนี้ จะเปิดตัวเพื่อตอบข้อสงสัยต่าง ๆ กับสื่อ


ขอยืนยันว่า เฮียแต๋มไม่ยุ่งเกี่ยวกับเว็บพนันแน่นอน เพราะมีธุรกิจซึ่งได้เงินอยู่ต่อปีประมาณ 7-8 ร้อยล้านอยู่แล้ว


ส่วน เฮียแต๋ม ก็รับผิดชอบจ่ายค่าส่วนกลาง เพราะมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านจะต้องรับผิดชอบในส่วนนี้  ซึ่งข้อเท็จจริงทั้งหมดนั้นเฮียเเต๋ม จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนพร้อมทนายความ ในวันนี้ (27 ก.ย. 66) เชื่อว่าเฮียแต๋ม จะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ยืนยันว่า เฮียแต๋มเป็นนักธุรกิจ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาเป็นเงินบริสุทธิ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน

--------------


















คุณอาจสนใจ

Related News