สุดเหี้ยม พ่อแท้ๆ ฆ่าลูกวัย 2 ขวบโบกปูน สารภาพหลังถูกจับ ทำร้ายลูกอีก 2 คน

เป็นเหตุการณ์ที่ต้องบอกว่าสะเทือนขวัญสำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ กับเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายเด็กอายุ 12 ขวบ 4 ขวบ และ 2 ขวบ

โดยเหตุการณ์นี้ เริ่มมาต้นตั้งแต่ วันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ชาวบ้านในซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 ร้องเรียน เพจ กัน จอมพลัง ให้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิง ถูกพ่อแม่ทำร้ายร่างกาย

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง จึงได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 12 ขวบ และ 4 ขวบ ซึ่งสภาพร่างกายตอนนั้น พบว่า เด็กหญิงวัย 12 ขวบ มีร่องรอยบาดแผลถูกไฟเผาตามร่างกาย ตั้งแต่ นิ้วมือ แผ่นหลัง และเกือบทั้งตัว

ส่วน เด็กหญิงวัย 4 ขวบ มีอาการปากแหว่งเพดานโหว่ และตามร่างกายก็มีร่องรอยบาดแผล รวมไปถึงดวงตา ซึ่งจากเดิมเคยป่วยเป็นโรคตาบอดสี แต่ถูกพ่อเลี้ยงใช้สายชำระฉีดน้ำเข้าเบ้าตา จนตาบอดสนิท

-------------

ทีมข่าวสอบถาม นายพล คมสันต์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่เขาช่วยเหลือเด็กทั้งสองคน เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา นายพล เล่าว่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่ข้างห้อง ไม่เคยได้ยินเสียงเด็กร้อง

จนกระทั่ง วันที่ 10 ก.ย. เด็กอายุ 12 ขวบ วิ่งมาเคาะประตู แล้วขอความช่วยเหลือว่า ให้ช่วยพาออกไปจากที่นี่ ก่อนที่พ่อจะกลับมา จากนั้น ตนจึงวิ่งไปบอกผู้ดูแลตึก ให้เข้ามาช่วย และเห็นสภาพเด็กมีรอยแผลไฟไหม้ตามนิ้วมือทุกนิ้ว และตามหลังร่องรอยต่าง ๆ เป็นทั้งบาดแผลใหม่ และรอยเก่า ทั้งร่างกาย

ส่วน เด็กหญิงวัย 4 ขวบ มีอาการปากแหว่งเพดานโห่ว ก็มีร่องรอยบาดแผลถูกไฟไหม้ เช่นกัน และ ดวงตาบอดสนิท

โดย เด็กหญิงวัย 12 ขวบ พี่สาว เล่าว่า

น้องถูกพ่อนำสายฉีดชำระฉีดน้ำเข้าที่เบ้าตา เพราะน้องป่วยเป็นโรคตาบอดสี แต่พ่อใช้น้ำฉีดเข้าตาอย่างแรง โดยไม่ทราบเหตุผล จากนั้น เอ็มและชาวบ้านจึงช่วยเหลือทั้งสองพี่น้อง โดยประสานผ่านทาง เพจ กัน จอมพลัง โดยแม่ของเด็ก อ้างว่า แผลที่เกิดขึ้นเด็กทำเอง เพราะชอบเล่นไฟแช็กลนตัวเอง ซึ่งในวันนั้นนายเอ็ม พ่อเด็ก ไม่อยู่ และหายตัวไป

กรณีของเด็กที่บาดเจ็บ มีความสัมพันธ์กับนายเอ็ม เป็นลูกแต่กับภรรยาอีกคน และภรรยาคนนี้ ยอมเลี้ยงดูลูกของภรรยาอีกคนให้ และก็ถูกนายเอ็ม พ่อแท้ ๆ ทำร้ายบาดเจ็บ

-------------

ผ่านมา 8 วัน ตำรวจพร้อมสหวิชาชีพ สอบถามเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ถึงเหตุการณ์ที่ถูกกระทำ

โดย เด็กหญิงวัย 12 ขวบ ให้การว่า ทุกวัน จะถูก นายส่องศักดิ์ ส่งแสง อายุ 47 ปี หรือเอ็ม เป็นพ่อแท้ ๆ ใช้ไฟแช็กลนตามร่างกาย และหากร้องก็จะโดนหนักไม่หยุดทำ เวลาถูกไฟลนก็จะอดกลั้นไม่ร้องไห้ออกมา เพื่อที่จะไม่ต้องโดนหนัก

และที่สำคัญคือ เด็กวัย 12 ปี บอกว่า มีน้องอายุ 2 ขวบ หายตัวไป กลัวจะเกิดอันตราย

จากนั้น วันที่ 19 ก.ย. ตำรวจจึงสืบสวนหาข้อมูล และพบข้อมูลที่เชื่อได้ว่า พ่อและนางสุนันท์ นาหัวนิน อายุ 40 ปี แม่ของเด็ก 2 ขวบ ได้ทำร้ายร่างกายเด็ก 2 ขวบจนเสียชีวิตจริง จึงไปควบคุมตัวนายเอ็ม และนางสุนันท์ พ่อและแม่แท้ ๆ มาสอบปากคำ

นายเอ็ม ให้การรับสารภาพว่า ทำร้ายลูกอายุ 12 ขวบ และ 4 ขวบ ได้รับบาดเจ็บจริง นอกจากนี้ ยังฆ่าลูกวัย 2 ขวบด้วย โดยร่วมกับนางสางสุนันท์ แม่ของเด็ก ทำร้ายร่างกายในบ้านพักที่ กทม.

พอรู้ว่าลูกเสียชีวิต ก็นำร่างใส่ถุงดำ 3 ชั้น มาที่บ้านจังหวัดกำแพงเพชร จากนั้น ขุดหลุมลึก 60 ซม. และนำดินมาเทกลบ ก่อนจะใส่ปุ๋ยคอกกลบอีกชั้น คาดว่าจะทำให้เป็นปุ๋ย จากนั้น ซื้อปูนมาโบกปิดทับเพื่ออำพราง

และ ไม่เคยเล่าเรื่องราวนี้กับใคร เมื่อมีคนถามถึงลูกสาวคนเล็ก ก็จะบอกว่า ให้ญาติที่ต่างจังหวัดเลี้ยง จึงไม่มีใครสงสัย จนกระทั่งวันนี้ เจ้าตัวยอมรับสารภาพ

จากนั้นช่วงเย็น พนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลบางเขน จึงควบคุมตัวพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็ก ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อไปชี้จุดที่ฝังโบกปูนลูกวัย 2 ขวบ ในพื้นที่อำเภอขาณุลักษบุรี หมู่ 15 ตำบลคลองใหม่พัฒนาจ.กำแพงเพชร

-------------

ด้าน พล.ต.ต อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดจากการที่ นายกัน จอมพลัง เข้าไปช่วยเหลือสองพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บ จากการกระทำของนายเอ็ม ที่หอพัก ในซอยพหลโยธิน 48 แยก 11

จากนั้น พนักงานสอบสวนพร้อมด้วยสหวิชาชีพ ได้มีการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กทั้งสองคน โดยเด็กอายุ 12 ขวบ ให้การว่า มีน้องอีกหนึ่งคน อายุ 2 ขวบ อยู่ในอันตราย ซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิต โดยถูกอำพราง และโบกปูนในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร

เมื่อทราบข้อมูล ตำรวจจึงประสานงาน และตรวจสอบ ก็พบว่า ข้อมูลที่เด็ก 12 ขวบ ให้นั้น เป็นจริง และพบร่างของเด็กหญิง 2 ขวบ เสียชีวิต และถูกโบกปูนทับในห้องครัว ของบ้านนางสาวสุนันท์ ซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ของเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ส่วนรายละเอียดทางคดี ขอเวลาพนักงานสอบสวนสอบปากคำอย่างละเอียดก่อน

จากนั้น พล.ต.ต อรรถพล ประชุมกับพนักงานสอบสวน กว่า 3 ชั่วโมง ก็ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า จากการสอบสวนพบว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ราย คือ ตัวพ่อแม่เด็ก และอีกหนึ่งคน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

โดยเบื้องต้น เข้าข่ายทำความผิดข้อหา กระทำการให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและบาดเจ็บสาหัสจนถึงแก่ชีวิต และข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ

ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ยังไม่ขอให้ข้อมูล ขอการสอบปากคำให้เสร็จสิ้นก่อน และจะมีการแถลงการรายละเอียดของคดีนี้ ในวันนี้ เวลา 09.30 น.

ทั้งนี้ ยอมรับว่า คดีนี้เป็นเรื่องสะเทือนใจอย่างมาก ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นพ่อแม่แท้ ๆ ที่ลงมือกับเด็ก

ส่วนสาเหตุและแรงจูงใจ ยังไม่ขอตอบ เพราะขอสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ได้แยกกันทำงานแบ่งเป็นชุดตรวจสอบที่เกิดเหตุของจังหวัดกำแพงเพชร สภ.ปางมะค่า

ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิตนั้น อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ สน.บางเขน

-------------

ทั้งนี้ แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพ่อแม่แท้ ๆ แต่ลงมือกับลูกเล็ก ทั้งทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส และฆ่าลูกของตนเอง พบว่า นายเอ็มซึ่งเป็นพ่อ เป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน และชอบใช้ความรุนแรง หากไม่พอใจอะไร ก็จะทำร้ายลงมือทุบตี ไม่ว่าจะเป็นลูก หรือภรรยา ก็โดนทำร้ายร่างกายเช่นกัน

ส่วนมูลเหตุการทำร้ายร่างกายเด็กหญิงวัย 2 ขวบ จนถึงแก่ชีวิตนั้น ยังไม่แน่ชัดว่ามีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ และมีรายงานว่า ก่อนจะทุบตีนั้น พ่อและแม่เด็กทะเลาะกันว่า เด็กไม่ใช่ลูกของนายเอ็มกับนางสาวสุนันท์ จึงมีการทำร้ายร่างกายเด็ก ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด รอความชัดเจนจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่จะแถลงในเช้าวันนี้ (20 ก.ย. 66)

-------------

ด้าน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า

ในกรณีที่เคยช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ และ 12 ขวบ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ในพื้นที่ สน.บางเขน โดยในวันนั้น ได้ลงพื้นที่สอบถามแล้วทราบว่า มีลูกทั้งหมด 3 คน แต่สามารถไปช่วยเหลือได้เพียง 2 คน ส่วนอีกคนหายตัวไป

ส่วนตัวพ่อเด็ก เพิ่งให้การรับสารภาพว่า ลูกอีกหนึ่งคนที่หายตัวไป ได้เอาร่างไปโบกปูนไว้ที่บ้านในพื้นที่ตำบลบ่อถ้ำ จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งจากข้อมูลการรับสารภาพของพ่อเด็ก มีรายงานว่า แม่เด็กเป็นคนไปซื้อปูนให้

ผังความสัมพันธ์ ครอบครัวนายเอ็ม มีเมีย 3 คน และมีลูกด้วยทุกคน ประกอบด้วยนางสาวเจษฎา มีเพียร อายุ 33 ปี คือคนที่ดูแลลูกอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นลูกของนายเอ็ม และยังดูแลเด็กอายุ 4 ปี เป็นลูกของนางสุนันท์ เมียอีกคน ซึ่งเด็กทั้งสองคนโดนทำร้าย ตอนนี้อยู่ในความดูแลของ พม.

ทั้งนี้นางสุนันท์ คือเมียคนล่าสุด และเป็นแม่ของเด็กที่เสียชีวิต ส่วนเมียคนที่ 3 (ไม่ทราบชื่อ) และไม่ทราบมีลูกหรือไม่

-------------

วานนี้ (19 ก.ย. 66) เวลา 15.00 น. ตำรวจ สภ.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครกู้ภัย เตรียมเข้าตรวจสอบจุดฝังร่างเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ที่ 15 บ้านคลองใหม่พัฒนา ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร

หลังจากที่ นายเอ็ม ผู้เป็นพ่อ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าลูกสาวของตนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนจะนำศพมาฝังที่จังหวัดกำแพงเพชร ในช่วงวันที่ 9 - 11 ส.ค.66 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี อยู่ระหว่างควบคุมตัวนายเอ็มผู้เป็นพ่อมาทำแผน ในช่วง 17.00 น. วันนี้ 

จากการสอบถาม นายสายยันต์ นาหัวนิล ญาติของเมียผู้ก่อเหตุ เล่าว่า

เพิ่งจะทราบจากตำรวจว่า นายเอ็มได้ฆ่า น้องโมเดล ลูกสาววัย 2 ขวบ  เลยมาดูที่เกิดเหตุ และเตรียมรอเจ้าหน้าที่นำตัวมาชี้จุดโบกปูนฝังศพ

ที่ผ่านมา ตนไม่รู้ว่าครอบครัวนี้มีความรุนแรงอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนาน ๆ จะกลับมาบ้านที ประมาณ 2-3 เดือน จะมาครั้งหนึ่ง มาทีหนึ่งก็เปิดเพลงเสียงดัง ซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ แต่ทราบว่า ทัังคู่ทะเลาะกันบ่อย เพราะเห็นรอยช้ำที่หน้าของหลานของตน (เมียนายเอ็ม)

ขณะที่ นายสังวร หลึ่งเทพ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นญาติที่รับเลี้ยงลูกคนเล็ก อายุ 6 เดือน ของผู้ก่อเหตุ ระบุว่า

หลังคลอด น้องโจโจ้ ลูกชายคนเล็ก ได้ 2 วัน นายเอ็มและภรรยาก็ได้ทิ้งลูกไว้ให้ตนเองเลี้ยง ไม่สนใจอะไรเลย ไม่ได้ส่งเสียใด ๆ ตอนนี้ เลี้ยงได้ 6 เดือนแล้ว

ส่วนสาเหตุหรือแรงจูงใจที่ทำร้ายลูกจนเสียชีวิต ตนไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งลูก ๆ ของนายเอ็มและภรรยา ตนเองก็ได้เลี้ยงจนโต เดินได้ คุยได้ สักพักก็มารับไปอยู่ด้วย ซึ่งช่วงหลัง เมียนายเอ็มที่เป็นหลาน ได้โทรมาร้องไห้กับภรรยาตน ว่า ทะเลาะกันบ่อยครั้ง พอรู้ข่าวก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะโหดร้ายขนาดนี้

ส่วน นายจำปี ละลี อายุ 59 ปี (ญาติฝ่ายภรรยาของผู้ก่อเหตุ) เล่าว่า

“ปกติครอบครัวนี้ จะมาพักที่บ้านหลังดังกล่าว นาน ๆ ครั้ง โดยจะมาอยู่ครั้งละ 3-4 วัน ซึ่งปกติก็จะทักทายกันประจำ โดยความผิดสังเกตเกิดขึ้นเมื่อครั้งล่าสุด ที่เดินทางมาบ้าน ตนสังเกตเห็นเด็กที่นั่งมาหน้ารถ มีร่อยรอยพกช้ำตามตัว ก็สงสัยว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย

โดยครั้งที่กลับมาอยู่นานสุด ประมาณ 1 เดือน มักจะมีปากเสียงกัน อาจเป็นเพราะมีปัญหาตกงานทั้งคู่ ซึ่งบางครั้งทะเลาะกัน ก็ใช้เชือกมัดมือภรรย าและมัดห้อยแล้วใช้ไม้แขวนเสื้อตีภรรยา ร้องโหยหวนโอดครวญตลอดทั้งคืน

ส่วนลูกคนเล็ก ได้ให้ญาติฝั่งภรรยาเลี้ยงไว้ ก่อนจะนำตัวเด็ก 12 ขวบ และ 4 ขวบ ไปเลี้ยงดูเองที่กรุงเทพ โดยหลังจากที่นำไปเลี้ยงแล้ว ตนก็พยามติดต่อพูดคุย แต่เมื่อตนขอวิดีโอคอลคุยกับเด็ก แม่เด็กก็ปฏิเสธ กลัวว่าสามีจะรู้ และทำร้ายตน

-------------

ต่อมา เวลา 17.00 น. ตำรวจควบคุมตัวพ่อและแม่เข้ามาชี้จุดเกิดเหตุที่ฝังลูก 2 ขวบ โดยได้โบกปูนฝังไว้ที่บริเวณครัวหลังบ้าน พบว่า หนาประมาณ 5 ชม. ต้องใช้ค้อนทุบปูน และขุดลงไปประมาณ 60 ถึง 70 เซนติเมตร มีการเอาดินปนขยะมาทับ และมีทรายทับไว้

จากนั้น เจอสภาพศพคือ อยู่ในถุงดำ 3 ชั้น ลักษณะนั่งหลังพิง สภาพศพเน่าเปื่อยเริ่มหลุด ดูจากสภาพศพคาดว่าตายมาแล้ว 3-4 เดือน โดยระหว่างตำรวจกำลังทำการหาหลักฐานอยู่ พบว่า มีชาวบ้านมารอดูกันหลายร้อยคน และต่างส่งเสียงสาปแช่งพ่อและแม่เด็ก ระหว่างนำตัวเข้า-ออกจากพื้นที่ ตลอดเวลา

ด้าน พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 กล่าวว่า

หลังจากทราบการประสานเกี่ยวกับอาชญากรรมเกี่ยวกับเด็ก จากโรงพยาบาลรามา กรุงเทพ และนักสังคมสังเคราะห์ เมื่อวาน ซึ่งจากที่ กัน จอมพลัง ได้ไปช่วยเด็กเมื่อวันที่ 10 ก.ย.66 ว่า พ่อทำร้ายลูกได้รับบาดเจ็บ และมีเด็กอีกคนที่หายตัวไป

จึงได้ขอป้ายทะเบียนรถยนต์คนก่อเหตุ จนสามารถสกัดจับได้แล้ว และได้เอาตัวมาสอบปากคำ ซึ่งก็พบว่า เป็นพ่อแม่เด็ก

ในช่วงแรก ทั้งคู่ไม่ยอมบอกข้อมูล แต่ช่วงหลังจากนั้น บอกว่า เอาลูกสาววัย 2 ขวบ ไปฝากไว้กับปู่ จึงมีการนำปู่มาสอบปากคำ และทราบว่า ทั้งคู่ให้การไม่ตรงกับปู่

ต่อมา นายเอ็มยอมสารภาพกับพ่อของตัวเอง ซึ่งก็คือปู่ของเด็ก ว่า ได้ฆ่าเด็กและเอามาฝังไว้ที่บ้านในจังหวัดกำแพงเพชร โดยระหว่างการทำแผนชี้จุด และขุดเอาศพ ออกมา พบว่า ทั้งคู่อยู่ในอาการร้องไห้

แต่จากการตรวจสภาพจิตใจ และอาการจิตเวช ไม่พบว่ามีประวัติ จึงจะต้องตรวจสอบต่อว่า กรณีลูกที่ถูกทำร้าย นำไปทำอะไร และมีกรณีอื่น ๆ ก่อนหน้านี้อีกหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบอีกที แต่ตอนนี้ เบื้องต้นมีเพียง 2 สามีภรรยาที่ร่วมกันก่อเหตุ  และจะสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน นายสมยศ ภู่ขำ อายุ 58 ปี รองหัวหน้ากู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดสลกบาตร เล่าว่า

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามายังที่เกิดเหตุ ได้ตรวจสอบความหนาแน่นของปูนที่ฝังศพเด็กไว้ พบว่า หนาประมาณ 5 ชม. ต้องใช้ค้อนทุบปูน และขุดลงไปประมาณ 60 ถึง 70 เซนติเมตร มีการเอาดินปนขยะมาทับ และมีทรายทับไว้

จากนั้น เจอสภาพศพคือ อยู่ในถุงดำ 3 ชั้น ลักษณะนั่งหลังพิง สภาพศพเน่าเปื่อยเริ่มหลุด ดูจากสภาพศพคาดว่าตายมาแล้ว 3-4 เดือน

จากคำพูดของ นายเอ็มและนางจุ๋ม บอกว่า ฆ่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 66 ซึ่งระหว่างที่ขุดศพ นายเอ็มและนางจุ๋มร้องไห้ ก้มหน้าตลอดเวลา และบอกว่าช่วยกันทำ 2 คน

-------------

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของร้านค้า ที่อยู่บริเวณตรงข้ามซอยเข้าบ้าน กับเรื่องลี้ลับที่ได้เจอ

เมื่อเจ้าของร้านเปิดเผยว่า พึ่งจะเห็นเด็กหญิงที่เสียชีวิต มากับคนรู้จัก มาซื้อของที่ร้านค้าของตน เพียงหนึ่งวัน ก่อนจะทราบว่า มีการนำศพมาฝังไว้ที่บ้านในซอยตรงข้ามร้านเอง

น.ส.ขนิษฐา อายุ 29 ปี เจ้าของร้านค้าหน้าซอยเข้าบ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า มีหญิงรายหนึ่งเป็นลูกค้ามาชื้อของที่ร้านขายของชำของตน โดยตนก็ได้เดินออกมาขายของ ใด้เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงนั่งอยู่หน้ารถของลูกค้ารายนี้ ตนจึงได้ถามกลับไปว่า แล้วเด็กผู้หญิงลูกสาวพี่ที่นั่งอยู่หน้ารถหายไปไหน โดยลูกค้าได้ตอบกลับมาว่า ไม่มี มาคนเดียว

ซึ่งหญิงสาวรายนี้ เพิ่งจะไปเก็บใบมะกอกหน้าบ้านจุดเกิดเหตุ เมื่อวาน และกลับออกมาซื้อของร้านตนเอง จนตอนนี้ ตนก็ยังงงว่าสิ่งที่เห็นคือใครกันแน่

จนมารู้ว่า มีการฆ่าโบกปูนเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ภายในบ้านหลังดังกล่าว วันนี้ ซึ่งปกติ เด็กหญิงวัย 2 ขวบ จะเดินข้ามถนนออกมาซื้อของกับยายเป็นประจำ คาดว่าน่าจะเป็นวิญญาณของเด็กหญิงรายดังกล่าวที่ นั่งมากับลูกค้าตนเองเมื่อวาน ก็เป็นได้

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/fdTEJRH6Qb8