อาชญากรรม

เปิดวงจรปิดย้อนไทม์ไลน์ 'ผกก.เบิ้ม' ส่งสัญญาณ ก่อนจบชีวิต - วิถีกระสุน-เขม่าดินปืน ชี้ชัดปลิดชีพตัวเอง

โดย petchpawee_k

13 ก.ย. 2566

351 views

ย้อนดูไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่ส่งสัญญาณอันตรายของผู้กำกับเบิ้ม ก่อนจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังถูกสังคมกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้รุ่นน้องถูกยิงเสียชีวิต  


09.33 น. ของวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน ผู้กำกับเบิ้มดีดตัวเองออกจากกลุ่มไลน์ "นรต.55" หลังเกิดเหตุ พันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรศิว โดนนายหน่อง ท่าผา ยิงเสียชีวิตในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ที่จังหวัดนครปฐม ได้เพียง 4 วัน โดยไม่มีการแจ้งเหตุผล หรือร่ำลาอะไรกับเพื่อนๆ

ทำให้เย็นวันที่ 10 กันยายน "บอย" เพื่อนนักเรียนตำรวจ ซึ่งเป็น "บัดดี้" กันมาตั้งแต่โรงเรียนนายร้อย นัดกินข้าวแถวเมืองทองธานี ก่อนจะแยกย้ายกันราว 4 ทุ่ม โดยเพื่อนเปิดโรงแรมให้ "ผู้กำกับเบิ้ม" นอน ซึ่งวันนั้นผู้กำกับเบิ้ม บอกให้ลูกน้องค่อยมารับตอน 9 โมงเช้า เพื่อไปรายงานตัว ก่อนจะเข้าห้องพักของโรงแรม


04.00 น. ผู้กำกับเบิ้มเดินไปเรียกแท็กซี่สีชมพู ที่หน้าอาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เพื่อกลับบ้าน โดยไม่ได้แจ้งใคร รวมถึงลูกน้องที่นัดให้มารับที่โรงแรมด้วย


04.51 น. ของวันที่ 11 กันยายน รถแท็กซี่สีชมพูขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในซอยที่ 3 ของหมู่บ้านกรีนพาร์ค ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของ ผู้กำกับเบิ้ม จากนั้น "ผู้กำกับเบิ้ม" ปีนเข้าไปในบ้าน แล้วรถแท็กซี่ก็ขับออกไป


3 นาที หลังผู้กำกับเบิ้มเข้าไปในบ้าน 04.54 น. ก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ซึ่งกล้องวงจรปิดบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ในซอยเดียวกัน บันทึกเสียงนี้เอาไว้ได้ และนี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมที่บ้านซึ่งอยู่ถัดไป 3 หลังบันทึกไว้ได้เช่นกัน ในเวลา 04.54 น. เช่นกัน

จากนั้นราว 14.00 น.พลขับมาดูผู้กำกับเบิ้มที่บ้าน เพราะไปรับที่โรงแรมแล้วไม่เจอตัว พอมองเข้าไปในบ้านก็เห็นรองเท้าผู้กำกับถอดอยู่หน้าบ้าน แต่ประตูบ้านล็อคกุญแจแบบรหัสไว้ จึงโทรศัพท์หาภรรยาของผู้กำกับ เพื่อขอรหัสเปิดประตูบ้าน พอเข้าไปก็พบว่าที่ห้องนั่งเล่น เจอร่างของผู้กำกับเบิ้มนอนเสียชีวิตอยู่หน้าที่ทีวี สภาพศพนอนหงาย สวมกางเกงขายาว เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมถุงเท้า มือขวาค้างเกร็ง โดยมีปืนสั้นตกอยู่ข้างศีรษะ ตู้เก็บของเปิดอยู่ปลายเท้า คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่ใช้เก็บปืน


เจ้าหน้าที่กู้ภัยเปิดเผยกับทีมข่าวว่าได้รับแจ้งเหตุตอน 14.20 น. แต่พอมาถึงตำรวจก็เต็มพื้นที่แล้ว และไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในบ้าน
-------------------------------------------

ผบช.พฐ.ยันไม่มีคนทำให้ ผกก.เบิ้มตาย วิถีกระสุน เขม่าดินปืน บ่งบอกว่า เป็นการฆ่าตัวตาย


พลตำรวจโทอิทธิพล อัจฉริยะประสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบ้านพักที่พบศพ พันตำรวจเอก วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง หรือ ผู้กำกับเบิ้ม โดยตำรวจท้องที่แจ้งว่า พบศพในเวลาประมาณ 14.00 น. แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้เสียชีวิตเข้ามาในบ้านพักในเวลาประมาณ 04.00 น. โดยการปีนรั้วเข้าไปในบ้าน ซึ่งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พิสูจน์ทราบยืนยันว่าเป็นผู้กำกับเบิ้มจริง ด้วยการตรวจดีเอ็นเอ และเมื่อเข้าตรวจสภาพศพผู้เสียชีวิต ได้มีการตรวจสอบทิศทางกระสุนปืน พบว่า กระสุนปืนทะลุจากขมับขวาไปขมับซ้าย สอดคล้องกับรอยกระเซ็นของเลือด และพบเขม่าดินปืนหลังมือทั้งสองข้าง น่าเชื่อว่า เป็นการจับปืนด้วยมือขวา โดยใช้มือซ้ายประคอง และยิงเพียง 1 นัด


ส่วนกระสุนปืน ถูกเครื่องทำความสะอาดพื้นอัตโนมัติ เก็บทำความสะอาดไป ซึ่งมีการตั้งเวลาทำความสะอาดไว้ ในเวลา 08.00 น. ซึ่งการพบหัวกระสุนปืนจากเครื่องทำความสะอาดพื้นอัตโนมัติ เนื่องจาก เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดบนพื้น มีลักษณะการถูกกวาดเป็นวงกลมจากเครื่อง และมีร่องรอยไปจนถึงเครื่องทำความสะอาดที่กลับไปยังแท่นตัวเครื่อง จึงมีการตรวจสอบจนพบหัวกระสุนปืน


ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่ามีการลากศพ พลตำรวจโทอิทธิพล กล่าวว่า ลักษณะของการลาก มักจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง แต่ร่องรอยที่พบ เป็นลักษณะหมุนวน ตามลักษณะของเครื่องทำความสะอาดอัตโนมัติ ประกอบกับคำให้การจากแพทย์ชันสูตรศพ ที่ระบุว่า ผู้กำกับเบิ้ม เสียชีวิตมาแล้ว 8 – 12 ชั่วโมง สอดคล้องกับหลักฐานจากภาพจากกล้องวงจรปิด


ขณะที่ การตรวจสอบลักษณะการเสียชีวิต มีการนั่งยอง เมื่อยิงตัวเองแล้ว ทำให้ตัวหงายไปกับพื้น ทำให้บริเวณก้นจนถึงเท้า ไม่มีรอยเลือดปรากฏ ส่วนลักษณะแขนเป็นไปตามปกติ และสร้อยคอ ยังอยู่ที่เดิม จึงน่าเชื่อว่า ไม่มีลากหรือเคลื่อนย้ายศพแต่อย่างใด นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ได้มีการทดสอบเขม่าดินปืนเพื่อนผู้กำกับเบิ้มที่เข้ามาพบศพทุกคน ซึ่งไม่พบผู้ใดมีเขม่าดินปืน มีเพียงผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่พบเขม่าดินปืน


อย่างไรก็ตาม ในที่เกิดเหตุ ไม่พบโทรศัพท์มือถือของผู้กำกับเบิ้ม แต่ทราบว่า ทางกองปราบปรามพบแล้ว จึงไม่สามารถตอบได้ว่า โทรศัพท์ที่พบในจุดอื่น มีนัยยะสำคัญอย่างไร ซึ่งหากทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐานฯ ได้รับโทรศัพท์มาตรวจสอบ ก็จะตรวจได้ว่า มีการโทรศัพท์ถึงบุคคลใดบ้าง


ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ย้ำว่า จากหลักฐานที่ปรากฏทั้งหมด ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่า ผู้กำกับเบิ้ม ถูกบุคคลอื่นทำให้เสียชีวิต เนื่องจาก บ้านพักของผู้กำกับเบิ้ม จะต้องใช้การใส่รหัส หากมีบุคคลอื่น จะต้องมีการเข้าไปดักรอก่อน แต่หลักฐานจากกล้องวงจรปิด ไม่พบผู้ใดเข้าหรือออกในช่วงการเสียชีวิตของผู้กำกับเบิ้ม ประกอบกับ วิถีกระสุน เขม่าดินปืน สามารถบ่งบอกได้ว่า เป็นการฆ่าตัวตาย    


นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า มีกล้องของเพื่อนบ้านอีกตัวที่เก็บเสียงปืนหลังจากที่ ผกก.เบิ้ม ปีนเข้าไปในบ้านตอน 04.51 น. เข้าไปได้ 3-4 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนปรากฎในกล้องวงจรปิดของบ้านข้างๆ


เมื่อถามว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นหลังจากปีนเข้าไป 3-4 นาที ค่อนข้างกระชันชิดเกินไปหรือไม่ พลตำรวจโทอิทธิพล เปิดเผยว่า ระยะทางจากประตูบ้านไปที่ลิ้นชักเก็บปืนไม่ไกลกันมาก


ส่วนการตรวจสอบเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุยิงตำรวจทางหลวง และภายในบ้านของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการกู้เซิฟเวอร์จากทั้งสองจุด หลังถูกนำไปทิ้งน้ำเพื่อทำลายหลักฐาน โดยอยู่ในขั้นตอนการทำให้แห้ง ตามวิธีทางวิทยาศาสตร์ เพื่อป้องกันความเสียหายภายใน โดยมั่นใจว่า สามารถกู้ข้อมูลจากเซิฟเวอร์ได้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญของคดี โดยจะมีการสำรอง หรือ แบ็คอัพข้อมูลไว้ส่วนหนึ่งด้วย และหากเกิดปัญหา ยังสามารถประสานบริษัทเจ้าของเซิฟเวอร์ นำผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ มาช่วยกู้ข้อมูลได้



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Xnw_8TDx3YQ

คุณอาจสนใจ

Related News