อาชญากรรม

วงจรปิดเผยพฤติกรรม 'แจ๊บ-เมีย' สุดใจเย็นอำพรางศพเด็ก 12 - แม่แท้ๆร่ำไห้แทบขาดใจ รับร่างลูก

โดย passamon_a

5 ก.ค. 2566

5.1K views

จับแล้ว 'แจ๊บ' พ่อเลี้ยงโหด หลังใช้ไม้เบสบอลฟาด ด.ญ.วัย 12 ปี ดับ นำศพยัดถังน้ำแข็ง โบกปูนถมดินทับ หลังหนีกบดานโรงแรมย่านอินทามระ ตำรวจเผยแจ๊บสารภาพทุกข้อหา อ้างชนวนเหตุไม่พอใจเด็กมาก่อน เลยตีไป 10 ครั้ง จนแน่นิ่ง ไม่คิดว่าตาย สุดท้ายต้องอำพรางศพเพราะกลัวมีความผิด ครอบครัวร่ำไห้แทบขาดใจ หลังร่างน้องปีใหม่มาถึงวัด ญาติ ๆ ส่งเสียงสาปแช่งพ่อเลี้ยงโหด เตรียมสวด 3 คืน ก่อนฌาปนกิจ


จากกรณี น.ส.นิรมล หรือ มิ้น อายุ 30 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ว่า นายยุทธนา หรือ แจ๊บ อายุ 29 ปี สามี ก่อเหตุฆาตกรรม ใช้ไม้เบสบอลตีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ที่รับมาอุปการะ จนเสียชีวิต อำพรางศพยัดถังน้ำแข็งโบกปูนทับ หลบหนีไป


เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 สามารถจับกุมตัวนายแจ๊บ ได้ภายในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยอินทามระ 34 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ ขณะนอนหลับอยู่ ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดสีฟ้า หลังก่อเหตุได้หลบหนีมากบดานที่นี่ โดยการจับกุมครั้งนี้เจ้าของโรงแรมจำหน้าผู้ต้องหาได้ จึงแจ้งเบาะแสโทรแจ้งตำรวจ 191 ประสานตำรวจ สน.สุทธิสาร เจ้าของพื้นที่เข้าปิดล้อมจับกุม ก่อนควบคุมมาสอบสวนที่ สน.บางเขน


จากนั้นชุดสืบสวนได้ควบคุมนำตัวนายแจ๊บ มาถึง สน.บางเขน เจ้าตัวสีหน้านิ่งเรียบเฉยเคร่งเครียด ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงชนวนเหตุและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายแจ๊บไม่ตอบคำถามใด ๆ โดยตำรวจได้กันสื่อมวลชน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาเข้าไปภายในห้องสืบสวนเพื่อให้ปากคำ


ชุดสืบสวนได้เชิญตัว น.ส.กิ๊ฟ หญิงสาวที่อยู่ในห้องโรงแรมด้วยกันมาสอบปากคำ รวมทั้งเชิญน้องสาว น้องชาย และเพื่อนของนายแจ๊บ มาสอบปากคำด้วยเพื่อประกอบสำนวนคดี พร้อมกันนี้ชุดสืบสวนได้ไปยึดกล้องวงจรปิดในบ้านหลังเกิดเหตุมาตาวจสอบเพิ่มเติมด้วย


ชุดสืบสวนควบคุมตัวนายแจ๊บ เข้าห้องขังหลังสอบปากคำนานเกือบ 5 ชั่วโมง เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทำไปเพราะวูบ โมโหก่อนลงมือทะเลาะกับเด็กนิดหน่อยเรื่องขโมยของและเงินบ่อยครั้ง อ้างว่าบางครั้งเด็กขโมยเงินหลักแสนบาท สาเหตุที่ใช้ไม้เบสบอลตีเพราะอยู่ใกล้มือ โดยมิ้น แฟนสาวรู้เรื่องทุกอย่างตั้งแต่แรก ขณะที่ตนตีน้อง มิ้นนั่งดูไม่ได้พูดอะไร


นายแจ๊บ บอกว่า สาเหตุที่อำพรางศพเพราะตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก เพราะน้องตาย มันตื้อไปหมด ทีแรกจะฆ่าหั่นศพอยากให้หายไปเลย ยอมรับตีน้องไปหลายครั้ง รู้สึกเสียใจ ขอโทษครอบครัวของน้อง หลังเกิดเหตุหนีไปอยู่แถวดินแดง ตั้งใจจะมอบตัว ทีแรกตั้งใจจะผูกคอตายหนีความผิด แต่ไม่ทำเพราะสงสารแม่


ส่วนถังน้ำแข็งไปซื้อมาจากตลาดไท ตอนอำพรางศพมิ้น แฟนสาว ช่วยทุกอย่าง เพราะตนทำคนเดียวไม่ได้เนื่องจากร่างของน้องแข็งหมดแล้ว ยอมรับบังคับให้มิ้น ลบภาพวงจรปิดในบ้าน แต่มิ้นไม่ลบ ตนสำนึกผิดเพราะไม่ได้ตั้งใจ ทั้งนี้ตนได้เสพยาไอซ์ ก่อนลงมือก่อเหตุ โดยมิ้นเป็นคนลงมือตีน้องก่อนไม่ได้นับว่ากี่ครั้ง ก่อนที่ตนจะลงมือตีต่อ


พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหา เผยว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานขอศาลอาญา ออกหมายจับนายยุทธนา หรือแจ๊บ 2 ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย, ปิดบังซ้อนเร้นทำลายศพ หลังจากนี้ต้องสืบสวนเพิ่มเติมว่ามีใครช่วยผู้ต้องหาหลบหนีหรือไม่


จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยเล่าเหตุผลอ้างว่าไม่พอใจเด็กที่ขโมยของ จึงทำร้ายด้วยการใช้ไม้เบสบอลตีไปนับ 10 ครั้ง จนเด็กแน่นิ่ง จึงลากร่างของน้องออกมาเพราะคิดว่าเสียชีวิตแล้ว ก่อนหน้านี้นายแจ๊บ มักจะทะเลาะกับเด็ก และเคยใช้ไม้ตี แต่ไม่ใช่ไม้เบสบอล


ส่วนการอำพราง ผู้ต้องหาอ้างว่ากลัว จึงไปซื้อถังน้ำแข็งที่ตลาดไทย จากนั้นซื้อปูนและดินปลูกต้นไม้มาก่อเหตุอำพราง ส่วนที่เด็กเปลือย นายแจ๊บอ้างว่าตอนก่อเหตุเสื้อผ้าเด็กเปื้อน ตั้งใจจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่สุดท้ายไม่ได้ใส่ และปฏิเสธว่าไม่ได้คิดจะหั่นศพ รวมถึงไม่ได้ล่วงละเมิด โดยตอนนี้ตำรวจพบเสื้อผ้าเด็ก ไม้เบสบอล และหลักฐานทั้งหมดแล้ว


ทั้งนี้พบว่านายแจ๊บ มีประวัติการใช้ยาเสพติด ส่วนเด็กหญิงที่เสียชีวิตนั้น น.ส.มิ้น ภรรยานายแจ๊บ รับอุปการะมา โดยการไปขอกับแม่ของเด็กที่ จ.อุทัยธานี ตั้งแต่เด็กอายุราว 7 ขวบ อ้างว่าตั้งใจจะเอามาส่งเรียน แต่เด็กไม่ได้เรียน


เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต และซ่อนเร้นอำพรางศพ ขณะที่ น.ส.มิ้น ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และจะพิจารณาข้อหาในภายหลัง  


ส่วนผู้หญิงที่เจออยู่ด้วยกันในห้องพักของโรงแรม ตอนถูกจับไม่ได้เกี่ยวข้องทางคดี ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ได้ไปที่บ้านเพื่อน และบ้านญาติ ส่วนสาเหตุที่ไปกบดานซ่อนอยู่ที่โรงแรมดังกล่าว เนื่องจากบ้านน้องชายอยู่ละแวกนั้น


ทั้งนี้ ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดภายในบ้านหลังเกิดเหตุ ช่วง 01.17 น. ของวันที่ 2 กรกฎาคม เป็นช่วงจังหวะที่นายแจ๊บ ผู้ต้องหา ใช้ไม้เบสบอลตีเด็กหญิงวัย 12 ปี บริเวณลำตัวจนแน่นิ่ง น.ส.มิ้น ชะโงกหน้ามามอง ก่อนที่นายแจ๊บจะลากเด็กออกมา และพูดอะไรบางอย่างกับ น.ส.มิ้น โดย น.ส.มิ้น นั่งชันเข่าและมองเหตุการณ์อยู่เฉย ๆ


วงจรปิดภายในบ้านยังเห็นภาพน้องวัย 12 นอนแน่นิ่ง นายแจ๊บนั่งอุ้มร้องไห้ลักษณะเหมือนตกใจสติแตกทำอะไรไม่ถูก และดึงมือมิ้นมาสวมกอด โดยมิ้นปลอบใจนายแจ๊บ พยายามเขย่าตัวน้องวัย 12  โดยมิ้นยืนดูพูดอะไรบางอย่างกับแจ๊บ แจ๊บอุ้มน้องวัย 12 ลุกขึ้นยืนในสภาพแน่นิ่ง จากนั้นจับน้องนอนลงกับพื้น แจ๊บร้องไห้เดินไปสวมกอดมิ้น ทั้งคู่นั่งมองดูร่างเด็กวัย 12


นอกจากนี้ ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุ พบว่าวันที่ 3 ก.ค. ในช่วงเวลา 10.07 น. มีรถเก๋งสีบรอนทอง คาดว่าเป็นของนายยุทธนา ขับเข้ามาจอดบริเวณริมถนน ก่อนมีผู้หญิงเดินนำเข้ามาภายในบ้าน ตามด้วยชายใส่เสื้อสีชมพูใส่กางเกงขาสั้น คาดว่าน่าจะเป็นนายแจ๊บ


จากนั้นช่วงเวลา 15.46 น. มีรถเก๋งขับเข้ามาบริเวณหน้าบ้าน จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง บอกว่า คาดว่าจะเป็นรถของลูกค้าที่เข้ามาจอดส่งของที่บริเวณหน้าบ้าน เวลา 16.54 น. รถของบริษัทขนของเข้ามาที่หน้าบ้านเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อขนสินค้า


ส่วนนาทีที่จับภาพได้ในวันดังกล่าวเป็นภาพสุดท้ายก่อนเจ้าหน้าที่จะพบศพเด็ก ช่วงเวลา 18.56 น. มีผู้ชายเดินออกมาจากบ้าน ขึ้นรถเก๋งสีบรอนทองไปอีกครั้ง และถอยรถมารับผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนขับรถอกไปจากซอยโดยที่ไม่ได้กลับเข้ามาอีกเลย


ภาพสุดท้าย ช่วงเวลา 23.02 น. พบมีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับเข้ามาวนที่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุ มีคนนั่งราว 3-4 คน ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำรวจเข้ามาที่บ้านดังกล่าว


หากย้อนกลับมาวันที่ 2 ก.ค. ช่วงคืนวันก่อเหตุ กล้องวงจรปิด เวลา 00.39 น. จับภาพคนในบ้านหลังเกิดเหตุ ผู้ชายถอยรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน โดยมีผู้หญิงเป็นคนซ้อนท้ายออกไป จากนั้นช่วงเวลา 00.49 น. ทั้งคู่ได้กลับเข้ามาที่บ้านอีกครั้ง ใช้เวลาออกไปข้างนอกเพียง 10 นาที เท่านั้น


นอกจากนี้ทีมข่าวได้คลิปวงจรปิดบ้านนายแบงค์ ที่นายแจ๊บมายืมเลื่อย เมื่อวันที่ 2 ก.ค. โดยคลิปแรกความยาว 4.44 วินาที ช่วงวินาทีที่ 02.49 น. นายแจ๊บ ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับ น.ส.มิ้น ภรรยา เข้ามาจอดหน้าบ้านนายแบงค์


จากนั้นนายแจ๊บ เดินนำเข้ามาในบ้านของนายแบงค์ มีท่าทีเคร่งเครียด ลุกลี้ลุกลน ก่อนจะสูบบุหรี่แล้วไปเปิดถังน้ำแข็งหยิบขวดน้ำใบกระท่อม พร้อมกับพูดขอยืมสว่าน จากนั้นนายแจ๊บเดินเข้าไปหยิบกล่องสว่านออกมาเปิดดู ซึ่งนายแบงค์ก็ได้ออกมาพูดคุยกับนายแจ๊บ ช่วงเวลาประมาณ 02.52 น. นายแจ๊บเข้าไปในบ้าน เพื่อยืมเลื่อยมือไปแทน แล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกไป


คลิปที่ 2 ความยาว 0.27 วินาที ช่วงเวลา 02.53 น. นายแจ๊บ กับภรรยา ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านของนายแบงค์ แต่ออกไปเพียง 1 นาที


คลิปที่ 3 ความยาว 2.19 วินาที เวลาประมาณ 02.54 น. นายแจ๊บ ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้านของนายแบงค์อีกครั้ง เพื่อนำเลื่อยมาคืน และถามหาเลื่อยตัดเหล็กและถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ แต่แบงค์ไม่มี จากนั้นนายแจ็บก็ขี่รถออกไป


ทีมข่าวได้คุยกับนายแบงค์ เพื่อนของนายแจ๊บ เล่าว่า ช่วงใกล้ตี 3 วันที่ 2 ก.ค. นายแจ๊บได้มาหาที่บ้านเพื่อมายืมสว่าน ตนก็บอกให้ไปหยิบเองและตนเองก็ยืนมอง เห็นนายแจ๊บ เปิดกล่องอุปกรณ์ ไม่ได้หยิบสว่านที่อยู่ภายในกล่อง แต่ไปหยิบเครื่องเมื่อเจียหินแทน และถามตนเองว่ามีมีดใบตัดหรือไม่ ซึ่งตอนนั้นตนบอกไปว่าไม่มี ถ้าอยากได้ก็ไปซื้อเอา


จากนั้นนายแจ๊บ ก็ถามว่า มีเลื่อยมั้ย ตนก็บอกไปว่ามีแต่เลื่อยสำหรับเลื่อยไม้ ซึ่งตอนนั้นตนก็เห็นว่านายแจ๊บ มีท่าทีลุกลี้ลุกลน ดูรีบร้อน จากนั้นก็ถือเลื่อยสำหรับตัดไม้ออกไป ออกไปได้แป๊ปเดียว (ไม่ถึง 5 นาที) ก็กลับมาใหม่ มาถามตนว่ามีเลื่อยสำหรับตัดเหล็กมั้ย ตนก็บอกไปว่าไม่มี แล้วนายแจ๊บก็คืนเลื่อยอันแรกที่ยืมไป แล้วบอกว่า "ใช้ไม่ได้ ไม่ได้"


จากนั้นนายแจ๊บ ถามตนว่าถังน้ำแข็งหรือไม่ ตนก็บอกไปว่าไม่มี แล้วนายแจ๊บ ก็ถามต่อว่า มีหม้อใบใหญ่มั้ย ตนก็บอกว่าไม่มี มีแต่ใบเล็ก ถ้ามึงจะเอาไปต้มอะไรก็เอาไป จากนั้นแจ๊บ ก็ไม่ได้หยิบอะไรแล้วก็กลับออกไป


นางแบงค์ บอกว่า ตนไม่ได้เอะใจอะไร เพราะแจ๊บจะมาหาเวลานี้แล้วก็จะมายืมของ ยืมเครื่องมือช่างเป็นประจำ แต่ที่ตนเองรู้สึกผิดสังเกตก็ตอนที่แจ๊บถามหาสว่านแต่กลับไปหยิบเครื่องเจียหินแทน ทั้งที่สว่านก็อยู่ตรงหน้า


อีกทั้งที่ผ่านมาตนก็รู้ว่าแจ๊บ เสพยาเสพติด (ไอซ์) แล้วนิสัยก็เปลี่ยนไป จากที่ช่างพูดก็ยิ่งพูดมายิ่งขึ้น และมีมาบ่นกับตนเองเสมอว่า ผู้ตาย (เรียกว่าอ้วน) ชอบแอบขโมยของที่ขายไปกินและไปซ่อน ซึ่งแจ๊บก็ยอมรับเลยว่าทุกครั้งที่จับได้ก็จะลงโทษด้วยการทุบตี แต่ตนไม่ทราบว่ารุนแรงขนาดไหน


ด้าน น.ส.ยุ้ย อายุ 32 ปี แฟนสาวของนายแบงค์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ช่วงบ่ายขณะที่แบงค์กำลังขี่มอเตอร์ไซค์ แจ๊บได้โทรมาหาตนรับสาย แจ๊บบอกว่า "เราจะไม่ได้เจอกันแล้วนะ ผมหวดไอ้อ้วนตายแล้ว" แล้วก็ถามว่าศพอยู่ไหน แจ๊บบอกว่าแช่แข็งไว้ ที่รามอินทราซอย 21 (แจ๊บอ้างซอยขึ้นมาลอย ๆ)  ซึ่งขณะที่แจ๊บพูดนั้น มีน้ำเสียงดูลก ๆ


จากนั้นแบงค์ก็โทรกลับไปหา น.ส.มิ้น ภรรยาแจ๊บ ก็ยืนยันกลับมาว่าแจ๊บก่อเหตุจริง หลังจากทราบเรื่องตนเองยอมรับว่าตกใจ แบงค์ก็ตกใจที่เพื่อนสนิทก่อเหตุแบบนี้ เพราะก็รู้จักกันมานานประมาณปีกว่า และก็รับรู้เรื่องราวมาตลอด อยากให้แจ๊บมามอบตัวทำผิดก็ให้ออกมายอมรับผิด


ในเวลาต่อมา รถอาสากู้ภัยได้นำร่างไร้วิญญาณของน้องปีใหม่ มาส่งให้ครอบครัวทำพิธีตามศาสนา โดย นางสาวตรีรัตน์ หรือ จอย อายุ 28 ปี แม่ของน้องปีใหม่ ได้จุดธูปเพื่อเชิญวิญญาณของน้องปีใหม่ ซึ่งทางอาสากู้ภัยก็ช่วยกันยกโลงลงมา แล้วไว้ที่ศาลาของวัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง จ.อุทัยธานี


นางสาวตรีรัตน์ นั้นร่ำไห้ พร้อมกับบอกอยู่ตลอดเวลาว่าลูกไม่น่าจะตายแบบนี้เลย และร้องไห้จนเป็นลมล้มพับ ทางเพื่อนและญาติต้องหายาลมมาให้


จากนั้นก็ทำการเปิดโลงศพเพื่อหวังว่าจะดูหน้าน้องปีใหม่ ลูกสาว เป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะศพนั้นเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว ทางอาสากู้ภัยที่ทำศพจำเป็นจะต้องห่อหรือพันศพด้วยพลาสติกที่ไม่เห็นแม้แต่ร่างของน้องปีใหม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้ญาติทำพิธีตามศาสนาได้โดยไม่มีกลิ่น


โดยร่างของน้องปีใหม่จะทำการสวนอภิธรรมจำนวน 3 วัน จากนั้นก็จะทำการฌาปนกิจ ซึ่งบรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ อีกทั้งยังร่วมสาปแช่งคนที่ก่อเหตุขอให้ตายตกไปตามกัน ด้วยโทษประหารชีวิต


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/w8PgjJ5Azuo

คุณอาจสนใจ