สลด หลานชายวัย 14 ทาสยา คลั่งกัญชา ใช้มีดฟันปู่สาหัส ก่อนหนีไปผูกคอตาย

สลด หลานชายวัย 14 ทาสยาเสพติด คลั่งกัญชา ใช้มีดฟันปู่ ถูกบริเวณใบหน้า ศีรษะ สาหัสจมกองเลือด ก่อนหนีไปหลังบ้าน ผูกคอตายหนีความผิดคาต้นไม้


ผู้สื่อข่าวจังหวัดหนองบัวลำภู รายงานว่า เวลา 05.30 น. รับแจ้งข่าว มีผู้ถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัส ส่งรักษาตัวโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ผู้ก่อเหตุผูกคอตายหนีความผิด เหตุเกิดที่บ้านกุดจิก หมู่ที่ 1 ต.กุดจิก อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู


ที่เกิดเหตุพบว่า ตำรวจและแพทย์เวรกำลังทำการชันสูตรพลิกศพ ผู้เสียชีวิตเป็นชาย แขวนคอตัวเอง กับต้นกระท้อนหลังบ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 1 ซึ่งเป็นบ้านเกิดเหตุ สภาพศพเป็นเด็กชายวัยรุ่น สวมเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงยืดขาสั้น เท้าแตะพื้นเข่างอ มีรองเท้าแตะกับโทรศัพท์วางทิ้งอยู่ที่ปลายเท้า แพทย์เวรยืนยันว่าเสียชีวิตมาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ทราบชื่อภายหลังคือ เด็กชายพีรวิชญ์ หรือซิมการ์ด อายุจะครบ 15 ปี ในวันที่ 26 มิถุนายน 2566


ร้อยตำรวจเอกสุรชาติ ไชยทองรัตน์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เล่าว่า ได้รับแจ้งเหตุเวลาประมาณ 05.30 น. จึงแจ้งแพทย์เวร ออกร่วมสอบสวน และชันสูตรศพ เบื้องต้นทราบว่า เด็กชายพีรวิชญ์ เป็นหลานชายของ นายสง่า โดยบิดามารดาของเด็กชายไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด เด็กชายพีรวิชญ์อาศัยอยู่กับปู่ ย่า ตั้งแต่แรกเกิด โดยบิดามารดาจะกลับมาเยี่ยมในช่วงเทศกาล

ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำ เด็กชายพีรวิชญ์มีปากเสียงกับปู่ ก่อนจะแยกย้ายกันหลับนอน ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. นางติ๋ม ย่าของเด็กชายพีรวิชญ์ ได้ยินเสียงนายสง่า สามี ซึ่งนอนอยู่ข้างกัน ร้องลั่น หันไปมองเห็นเด็กชายพีรวิชญ์ กำลังใช้มีดฟันผู้เป็นปู่ไม่นับ ย่าตกใจวิ่งร้องออกมาขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านข้างเคียง เข้ามาช่วยเหลือพบว่า นายสง่า ซึ่งป่วยขา 2 ข้างเดินไม่สะดวก ได้กระเสือกกระสน วิ่งออกไปนอนล้มฟุบอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ห่างจากที่นอนประมาณ 20 เมตร มีแผลฉกรรจ์ที่แก้ม ท้ายทอย จนเลือดไหลนองพื้น

จึงโทรเรียก 1669 ให้ส่งรถมารับ หลังจากรถพยาบาลออกไปแล้ว จึงมาตามหาเด็กชายพีรวิชญ์ ผู้ก่อเหตุ ช่วง 05.00 น. มีผู้พบว่าเด็กชายพีรวิชญ์ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า การ์ด เฉย ๆ ผูกคอตัวเอง เสียชีวิตในท่ายืนงอเข่า กับต้นกระท้อนที่หลังบ้าน


เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายในบ้าน และที่นอนที่อยู่กระท่อม หลังบ้านใกล้กับจุดที่ผูกคอตาย พบว่าเด็กชายพีรวิชญ์ มีห้องนอนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ใกล้กับห้องโถงที่ปู่นอน กับที่นอนที่กระท่อมหลังบ้าน โดยปกติเด็กชายพีรวิชญ์ มักนอนอยู่ที่กระท่อมหลังบ้าน ในเวลากลางวัน และดึก ๆ จะกลับเข้าไปนอน ในห้องที่บ้านหลังใหญ่ ตำรวจพบพืชกัญชา จำนวนหนึ่งในห้องที่บ้านหลังใหญ่ และพบอุปกรณ์การเสพเป็นบ้องไม้ไผ่ ดัดแปลงเป็นบ้องกัญชา อยู่ที่ที่นอนที่กระท่อมหลังบ้าน


เพื่อนบ้านคนหนึ่ง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า พ่อแม่ของเด็กชายพีรวิชญ์ ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่งเงินมาให้ครอบครัว เลี้ยงดูเด็กชายพีรวิชญ์ ตั้งแต่แรกเกิดมาจนถึงปัจจุบัน โดยบ้านหลังนี้อยู่กันแค่ 3 คน คือปู่ ย่า และตัวเด็กชายเอง ยอมรับว่าทราบว่าเด็กชายพีรวิชญ์ติดกัญชา มักเก็บตัวอยู่หลังบ้านไม่สุงสิงกับบุคคลอื่น


หลังจากการชันสูตรพลิกศพ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้นำอาวุธมีดของกลางที่พบอยู่ที่ใกล้ที่นอนของนายสง่า เป็นมีดปังตอสแตนเลส เปื้อนเลือด 1 เล่ม และมีดปลายแหลมใช้ในครัว อีก 1 เล่ม ที่พบอยู่ใกล้กัน มาส่งให้ร้อยเวร เก็บไว้เป็นหลักฐาน พันตำรวจเอกเกียรติภูมิ สุวรรณตรัย ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ซึ่งเข้ามาดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ อยู่ตลอดเวลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด พร้อมกำชับให้ ตรวจสอบรอยเลือด และนำโลหิตของผู้เสียชีวิตไปตรวจพิสูจน์หาสารเสพติด เพิ่มเติมว่า มีชนิดใดบ้าง แม้เบื้องต้นรับทราบว่า เด็กชายผู้ตายเสพกัญชาแต่เพียงอย่างเดียวก็ตาม


ชาวบ้านหลายคนที่มามุงดูเหตุการณ์ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปู่ย่าเลี้ยงหลานทะนุถนอมมาก ตามใจทุกอย่าง แม้บางครั้งเด็กชายจะเอะอะโวยวาย ปู่ย่าก็จะเงียบ ไม่นึกว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น สอบถามญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย หลัง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้วจะมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ivlXUqbvwWI