มอบตัวแล้ว! หนุ่มกร่างขับเบนซ์ ฉุนบีบแตร ชักปืนขู่คู่กรณีกลางถนน ตร.ค้นบ้านเจอปืนอีกเพียบ

มอบตัวแล้ว หนุ่มกร่างขับเบนซ์ชักปืนขู่กลางถนนค้นบ้านเจอปืน 13 กระบอก ไม่จบผู้เสียหายอีกราย เข้าแจ้งความ หนุ่มกร่างชักปืนกลางถนน และลงมาข่มขู่จะยิงทิ้ง พร้อมกับมีคลิปหน้า โลกออนไลน์ขุดคลิปสุดเกรียน อวดทั้งปืน เงิน และเสพกัญชา ว่อน

จากกรณีกรณีที่หนุ่มลูกหลานนักการเมืองชื่อดังเชียงใหม่สุดกร่าง ชักปืนขู่คู่กรณีกลางสี่แยกไฟแดง เหตุไม่พอใจถูกบีบแตรใส่เพราะขับปาดหน้า ขณะที่ผู้เสียหายนักธุรกิจลูกครึ่งเยอรมันหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมหลัง นำหลักฐานคลิปกล้องหน้ารถเข้าแจ้งความเอาผิด แต่ตำรวจกลับนำภาพคนอื่นมาให้ชี้ตัว แถมผู้ก่อเหตุโพสต์เย้ยอ้างเคลียร์ตำรวจได้ พร้อมข่มขู่จะยิงทิ้ง จนเกรงกลัวไม่รับความปลอดภัย

ขณะที่โลกโซเชียลขุดพบโพสต์ภาพถ่ายกับอาวุธปืนเป็นประจำ แม้กระทั่งพกเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงชื่อดังย่านนิมมานฯ ชนิดไม่ยำเกรงกฎหมาย ชี้ชัดปล่อยปละละเลยอาจกลายเป็นภัยสังคมร้ายแรงก่อเหตุสลดอย่างไม่คาดฝัน จี้ต้องเร่งกำจัดตัดไฟแต่ต้นลม

ความคืบหน้าเช้าวานนี้ (วันที่ 18 พ.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ดอยสะเก็ด ขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านของผู้ที่ก่อเหตุ ในพื้นที่อำเภดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ผลจากการตรวจต้นไม่พยตัวผู้ต้องหาแต่พบอาวุธปืนจำนวนมากทั้งปืนสั้น ปืนยาวหลายขนาด จำนวนมากถึง 13 กระบอกด้วยกัน เบื้องต้บพบว่าเป็นปืนที่มีใบอนุญาตซึ่งของผู้ก่อเหตุจำนวน 3 กระบอก และของพ่อของผู้ก่อเหต และมี 8 กระบอกที่เป็นชื่อผู้อื่นซื้อขายแล้วไม่มีการโอน จึงได้ตรวจยึดและดำเนินคดี ในข้อหาครอบครอบอาวุธปืนของผู้อื่นเพิ่มเติม

หลังจากนั้นแม่ของผู้ก่อเหตุได้พาลูกชาย คือนายสิทธิพัฒน์  อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นคนในคลิปเข้ามอบตัวกับ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นก็ได้ให้ผู้เสียหายชี้ตัว ซึ่งผู้ก่อเหตุเองกยอมรับว่าตนเองเป็นคนในคลิปภาพ


หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมาร่วมสอบปากคำเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ที่ก่อเหตุไปเพราะเกิดจากความโมโห ที่มีการบีบแตรรถใส่กันโดยอ้างว่าผู้เสียหายได้ชูนิ้วกลางให้ตนเอง และมีการเปิดกระจกตะโกนต่อว่ากัน แต่พอจอดรถปาดหน้าแล้วตนเองก็เตรียมอาวุธปืนไว้เพื่อป้องกันตัวหวั่นว่าจะถูกทำร้ายร่างกายด้วย จึงได้นำอาวุธปืนออกมาเตรียมไว้

หลังจากนั้น พล.ต.ต.ธวัชชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุรับสารภาพทั้งหมดว่าเป็นคนในคลิปจริง เบื้องต้นบอกว่าไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ ฝากขอโทษสังคม และชาวเชียงใหม่ที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ส่วนอาวุธปนทั้ง 13 กระบอกนั้น เป็นของพ่อผู้ก่อเหตุ 2 กระบอก ของผู้ก่อเหตุ 3 กระบอก และอีก 8 กระบอกเป็นของผู้อื่นแต่มีการซื้อขายกันแล้วยังไม่ได้โอน แต่ก็ถือว่ามีความผิดที่ครอบครองอาวุธปืนของผู้อื่น


ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต และข้อหาทำให้ตกใจกลัว ทั้งนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจท้องที่ สืบสวนเพิ่มเติม กรณีที่มีการโพสต์ภาพคู่อาวุธปืนนั้น สืบเนื่องมากจากที่บ้านทั้งพ่อ และผู้ก่อเหตุชอบอาวุธปืน และพ่อเป็นนักกีฬายิงปืน แต่ในส่วนจองผู้ก่อเหตุก็จะให้เจ้าหน้าที่ทำเรื่องเพิกถอนในอนุญาตครอบครองอาวุธปืนด้วย

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าตอนนี้มีผู้เสียหายเพิ่มเติม ซึ่งพบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรายเดียวกัน ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ที่มีการขับรถปาดหน้าจอดขวางและใช้อาวุธปืนข่มขู่ เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ตอนนี้กำลังมาแจ้งความที่ สภ.แม่ปิงเพิ่มเติม


โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายชัยคูณ  อายุ 20 ปี ผู้เสียหายอีกรายที่ถูกนายสิทธิพัฒน์ ผู้ต้องหาพร้อมพวกอีก 2 คนได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันคือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พค.เวลา 18.00-18.30 น. ผู้เสียหายขับรถมาตามทางชิดฝั่งขวาเพื่อที่จะยูเทิร์นรถ แต่รถของผู้ก่อเหตุได้ขับมาขับรถปาดหน้ากันบริเวณแยกศาลเด็กและขับรถเบียดกันมาตามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์-เชียงใหม่-ลำปาง ก่อนจะมาปาดหน้าที่บริเวณแยกเทพปัญญา หลังจากนั้นก็เปิดกระจกรถตะโกนด่าทอ


หลังจากนั้นนายสิทธิพัฒน์ ได้ลงมาจากรถตรงมาที่รถผู้เสียหายก่อนที่จะตะโกนเรียกให้ลงจากรถ และพยายามเปิดประตูรถ แต่ผู้เสียหายล็อกรถ และแง้มกระจกลงเพื่อพูดด้วยเท่านั้น แต่ไม่ยอมเปิดรถหรือลงจากรถไปหา จากนั้นเพื่อนอีกสองคนของผู้ก่อเหตุลงมาทุบรถ และพยายามข่มขู่ตน และยังมีคำพูดคำหนึ่งที่ออกมาว่า "เดี๋ยวยิงทิ้้งแม่ง" แต่ตนไม่ยอมลงรถหลังจากนั้นทั้งหมดก็กลับขึ้นรถแล้วขับรถออกไป


เนื่องจากเริ่มมีรถด้านหลัง และเป็นช่วงกลางวันและอยู่กลางถนน จึงยอมขับรถออกไป หลังจากนั้ตนเองก็มาทบทวนว่าไปทำผิดตรงไหน หรือย้อนกับไปดูคลิปหน้ารถก็ไม่พบว่ามีการขับรถกระทบกระทั่งหรือปาดหน้ากันตรงจุดไหนเลยมีเพียงจุดก่อนเกิดเหตุที่ผู้ก่อเหตุขับรถปาดหน้าตนเองก็บีบแตรรถให้สัญญาณเตือนเท่านั้น

วานนี้หลังจากที่เห็นในข่าวพบว่าเป็นคนๆเดียวกัน จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความเนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวน่าจะเป็นบุคคลที่อันตรายต่อสังคม จึงได้นำหลักฐานที่เป็นคลิปกล้องหน้ารถเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 3 คนในข้อหาข่มขู่ทำให้ตกใจ


อย่างไรก็ตามในโลกออนไลน์ได้มีการขุดคลิปที่นายสิทธิพัฒน์ ได้โพสต์ลงโซเชียลซึ่งส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างจะเกรียนและแสดงออกถึงความรุนแรง ทั้งคลิปที่อวดอาวุธปืน คลิปอวดภาพยิงปืน คลิปอวดรวย อวดเงิน และยังมีคลิปดูดกัญชาด้วย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/B00kUO34weA