ทำเพื่อชาติ! 'กบ' แก๊งอุ้มจีนเทารีดค่าไถ่ อ้างก่อนคอตกเข้าเรือนจำ - แม่ยัน 'น้ำเพชร' ไม่เกี่ยว เผยมีแผนแต่งงาน

คุมตัวนายกบ หรือนายณัฐภัทร หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาคดีร่วมกันอุ้มชาวจีนไปรีดไถ่ทรัพย์ฝากขังผัดแรก เจ้าตัวอ้างทำเพื่อชาติ ชี้นายกายเป็นหัวโจก คนสั่งการ ด้านครอบครว-เพื่อนเพชรลดา ยัน อดีตนางงามไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอุ้มรีดค่าไถ่หนุ่มจีน


 ภายหลังตำรวจสามรถจับ 6 ผู้ต้องหา แก๊งอุ้มชาวจีนเรียกค่าไถ่เกือบ 4 ล้านบาทได้ครบแล้วเมื่อวันที่ 17 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่ง 6 รายนี้ประกอบด้วย

1.นายนายณัฐภัทร หรือ กบ อายุ 27 ปี ซึ่งจับได้ซึ่งหน้า ทำหน้าที่ขึ้นไปอุ้มและซ้อมผู้เสียหาย แล้วจับยัดลงกล่อง และรับโอนเงิน 2.9 ล้านบาท บาทจากผู้เสียหาย

 2.นายนายณัฐพงษ์ หรือจูน อายุ 24 ปี ทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้เสียหายที่รีสอร์ท

3.นายศุภพล  หรือกาย อายุ 24 ปี ทำหน้าที่เป็นหัวโจก ร่วมกันวางแผน และเป็นคนขับรถ

4.นายธนายุทธ  หรือโจ ทำหน้าที่ขึ้นไปอุ้มและซ้อมผู้เสียหาย แล้วจับยัดลงกล่อง

5.น.ส.สริตา  หรือตา อายุ 28 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้รับโอนเงิน 1 ล้าน 3 หมื่นบาท   และยังทำหน้าที่ไปกดเงินสดเพื่อนำไปแบ่งกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอีกด้วย และ

6.น.ส.น.ส.เพชรลดา ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ข้อมูล ร่วมวางแผนลักพาตัวเรียกค่าไถ่ รวมถึงเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการให้คีย์การ์ดกับรถยนต์ อีกทั้งยังคบหาดูใจกับนายกายอีกด้วย ทั้งนี้ จากตรวจสอบประวัติเคยเป็นอดีตผู้สมัครนางงามเวทีชื่อดังอีกด้วย

โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 รายถูกตั้งข้อหา คือ ร่วมกันเรียกค่าไถ่เอาตัวบุคคลกว่าสิบห้าปีขึ้นไป โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หรือหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด

ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้ผู้ถูกกระทำนั้นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

 ล่าสุดวานนี้ (18 เม.ย.66) เวลา 12:30 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ควบคุมตัวนายกบ หรือนายณัฐภัทร สวัสดี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาคดีร่วมกันอุ้มชาวจีนไปรีดไถ่ทรัพย์จากคอนโดย่านถนนวิทยุ ไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

โดยก่อนขึ้นรถควบคุมตัว เจ้าตัวเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนทราบมาว่า ผู้เสียหายคนจีนรายนี้เป็นนักธุรกิจสีเทาที่รัฐบาลจีนต้องการตัว โดยคนที่สั่งการและให้ข้อมูล คือนายนายศุภพล ฮาลมันหรือกาย ด้วยความที่ตนอยากช่วยเหลือประเทศชาติ จึงร่วมมือก่อเหตุด้วย ซึ่งยืนยันว่าข้อมูลที่กายให้มาไม่ได้โกหก ส่วนได้เงินส่วนแบ่งหรือค่าจ้างเท่าไหร่ ตนขอปฏิเสธไม่ตอบคำถามนี้ โดยไม่ระบุว่าเพราะเหตุใด อีกทั้งย้ำยืนยันว่า น้ำเพชรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเหตุการณ์ในครั้งนี้

ส่วนเรื่องทำความผิดครั้งนี้นั้น ตนขอรับสารภาพ แต่อ้างว่า ไม่ทราบเรื่องอาวุธปืนที่ตำรวจตรวจยึดจากการจับกุมนายโจ หรือนายธนายุทธ พลนาคู ที่ จ.ปทุมธานี ตนไม่รู้ว่า ระหว่างก่อเหตุมีปืนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

ส่วนเรื่องการประกันตัว ตนขอไม่ยื่นประกันตัวและไม่ขอต่อสู้คดี เพราะยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขั้น นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายว่า อยากให้ทางตำรวจตรวจสอบผู้เสียหายชาวจีนรายนี้ เนื่องจากเขาทำธุรกิจผิดกฎหมายและไม่โปร่งใส ย้ำว่าทุกอย่างทำเพื่อประเทศชาติ ก่อนที่รถจะขับออกไป

ภายหลังนำตัวส่งฝากขังต่อศาบ ศาลได้พิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าทางผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเป็นคดีอุฉกรรจ์สำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ ประกอบกับเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ศาลพิจารณาเห็นควรอนุญาตให้ฝากขังได้ พร้อมออกหมายขังผัดแรก 12 วัน ตั้งแต่ 18 - 29 เมษายน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนายกบ ผู้ต้องหาไปคุมตัวขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป โดยไม่มีการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวแต่อย่างใด

--------------------------------------------------------

ขณะที่เพื่อนรุ่นพี่ของ น.ส.เพชรลดา ประมาณ 3 คน เดินทางมาเยี่ยมเพชรลดา โดยเพื่อนรุ่นพี่หนึ่งในนี้ ยืนยันว่า น.ส.เพชรลดาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพชรลดาเป็นคนดี รักครอบครัวและเป็นกำลังหลักของครอบครัว เฟรนลี่ ชอบช่วยเหลือทุกคน พร้อมเล่าที่มาที่ไปว่า น.ส.น้ำเพชรคบกับนายหวัง เมื่อปี 2565 ประมาณ 1 ปีเต็ม ซึ่งรู้จักจากการทำงานร่วมกัน แล้วเพิ่งมาเลิกกันเมื่อสิ้นปี 2565 โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่จากนั้นไม่นาน  ก็มีนายกายซึ่งจริง ๆ ชื่อว่านายบอส ได้มาคบหากับ น.ส.เพชรลดาจากการเที่ยวสถานบันเทิง ในช่วงเดือนมกราคม 2566 จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2566 นายหวัง ก็กลับมาตามง้อขอคืนดีกับ น.ส.เพชรลดาจนกลับมาคบกันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ และเลิกกับนายกายหรือบอสในที่สุด


 ทั้งนี้ ช่วงที่น้ำเพชรคบกับผู้เสียหาย ทางผู้เสียหายก็ให้เงินดูแลเพชรลดาอยู่เยอะมาก แต่ตนไม่ทราบว่าเท่าไหร่ และเพชรลดาก็มีเงินมีทอง มีการมีงานดี ไม่เคยมีปัญหาด้านการเงิน ที่ผ่านมาตนก็พยายามห้ามปราม น.ส.เพชรลดามาโดยตลอดว่าทำไมถึงต้องคบกับนายกาย เพราะนายกายเองมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรและชอบเล่นการพนัน อีกทั้งมาอยู่เกาะอาศัยอยู่กับเพชรลดาโดยไม่ได้ทำอาชีพอะไรเลย แต่ไม่เคยเล่านายกายหรือบอสขอเงินเพชรลดาไหม ซึ่งตนเชื่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เพชรลดาไม่ใช่คนทำ แต่เป็นนายกายที่เป็นคนต้นเรื่องและก่อเหตุทั้งหมด

มองว่าที่นายบอสทำไปเพราะความหึงหวง และอาจจะมีปัญหาเรื่องเงินที่นำไปเล่นการพนัน เนื่องจากก่อนหน้านี้เพชรลดาเคยเล่าวว่า กายหรือบอสมีปัญหาทางการเงิน อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบว่าเพชรลดากับคนจีนมีปัญหาอะไรไหม


ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่า น.ส.เพชรลดาเคยถูกข่มขู่หรือถูกบังคับจากนายกายมาก่อนหรือไม่ก่อนเกิดเหตุ ส่วนรถยนต์ BMW ที่ผู้เสียหายชาวจีนซื้อให้เพชรลดานั้น นายกายมักจะชอบเอาไปขับเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนคีย์การ์ดคอนโดผู้เสียหาย คาดว่าเป็นความประมาทของเพชรลดาที่ทิ้งคีย์การ์ดไว้ในรถ อีกทั้งตัวนายกายเขาก็รู้ข้อมูลห้องของผู้เสียหายอยู่แล้วจากการเคยกดเรียกรถให้ไปรับเพชรลดาจากคอนโดของผู้เสียหาย จึงทำให้รู้สถานที่ ชั้นและห้องผู้เสียหายเป็นอย่างดี

 สำหรับในคืนเกิดเหตุนั้น 14 เมษายน ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 1 ทุ่มถึงสามทุ่ม เพชรลดาไปเที่ยวสงกรานต์แถวถนนพระราม 9 แต่ปรากฎว่าช่วงเวลา 01:59 เพชรลดาโทรมาหาตนว่า เขาโทรหานายหวังผู้เสียหายไม่ได้ โดยโทรติดต่อครั้งสุดท้ายตอน 23:30 น. ซึ่งนายหวังกล่าวแค่ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องมาที่คอนโดผู้เสียหายแถวถนนวิทยุ เพราะคืนนี้มีเพื่อนมาหา

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่าย ๆ นายหวังโทรหาเพชรลดาว่าเดี๋ยวจะไปปาร์ตี้ที่รังสิต ทำให้เพชรลดาเริ่มเอะใจว่าทำไมถึงไม่ให้กลับห้อง ทั้งที่ปกติเพื่อนผู้เสียหายมาห้อง เพชรลดาก็อยู่ได้ตามปกติ ตอนแรกจึงคิดว่าผู้เสียหายพาหญิงอื่นมาห้อง อีกทั้งเพื่อนผู้เสียหายช่วยดูวงจรปิดของคอนโดแล้วพบว่าผู้เสียหายยืนคุยกับผู้ชายกับผู้หญิง จึงพยายามโทรหานายหวัง จึงไม่ติด เลยโทรให้ตนเดินทางไปที่คอนโดแถวถนนวิทยุพร้อมกันเพื่อตามหานายหวัง

พอถึงคอนโด ตนกับเพชรลดาจะขอดูวงจรปิดแต่นิติบุคคลไม่อนุญาต ประกอบกับ รปภ.ของคอนโดเห็นว่านายหวัง ยืนคุยกับชายและหญิงตอนประมาณ 18:30-19:00 น. / จนกระทั่งประมาณ 02:30 นายหวัง โทรมาหาเพชรลดาสั้น ๆ ว่า ตอนนี้อยู่พัทยากับเพื่อน ไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องมาหาที่ห้อง ซึ่งตนกับเพชรลดาก็เอะใจว่า ทำไมเพื่อนทุกคนของนายหวังโทรหาไม่ติด มีแต่เพชรลดาคนเดียวที่นายหวังโทรหา และเอะใจว่าทำไมนายหวังถึงไปพัทยา ทั้งที่ตอนแรกจะไปรังสิตด้วยซ้ำ

หลังจากนั้นเมื่อเห็นว่าเวลาอันสมควรเพราะดึกเกินไป ตนจึงแยกย้ายกับเพชรลดากลับไปพักผ่อน กระทั่งช่วงเช้าวันเดียวกัน เพชรลดาก็ไม่สามารถติดต่อพี่หวังได้อีกครั้ง เพชรลดาจึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความเนื่องจากยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง จากนั้นเพชรลดาก็อยู่ที่คอนโดย่านสุขุมวิทเรื่อยมาโดยที่ไม่ทราบเหตุการณ์ จนถูกจับกุมเมื่อวานนี้

ส่วนตัวกังวลว่า ตอนนี้เพชรลดาตกเป็นจำเลยสังคมและถูกต่อว่าอย่างหนักจึงไม่สบายใจอย่างมาก โดยเฉพาะข่าวจากบางเพจที่อ้างว่าน้องรับสารภาพซึ่งเชื่อว่าไม่เป็นความจริง เพราะน้องไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือทำผิดในครั้งนี้ หากนายกายหรือบอสจะให้การซักทอดก็นำพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงมาต่อสู้ยืนยันได้เลย อยากให้สังคมอย่าพึงตัดสินเพื่อนของคนจากเพียงแค่คำให้การของบอส

ด้านคุณแม่ของนางสาวเพชรลดา ได้เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ยืนยันว่านางสาวเพชรลดาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการลักพาตัวและไม่จำเป็นต้องรักพาตัวสามีตนเองไปเรียกค่าไถ่เพราะตลอดเเวลา ตั้งแต่คบกันสามีคนนี้ ก็ดูแลนางสาวเพชรลดาและครอบครัวมาเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเตรียมวางแผนที่จะแต่งงานและมีลูกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมีชื่อของลูกสาวเข้าไปเกี่ยวข้อง

 อีกทั้งในวันเกิดเหตุนั้นนางสาวเพชรลดาเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีกับครอบครัว ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องใดใดทั้งสิ้น ส่วนการที่มีคีย์การ์ดเข้าห้องของสามีนางสาวเพชรลดา นั้นพบว่ามีเพื่อนชาวจีนรายหนึ่งเข้ามาขอคีย์การ์ด กับนางสาวเพชรลดา อ้างว่าจะเข้าไปหาสามีนางสาวเพชรลดาจึงยอมให้คีย์การ์ดไป

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนั้นทางครอบครัวมีหลักฐานทั้งภาพถ่ายและเหตุการณ์ต่างๆขณะที่ก่อเหตุนางสาวเพชรลดาอยู่ที่ใด และในวันนี้ ตำรวจควบคุมตัวไปฝากขังทางครอบครัวก็เตรียมหลักทรัพย์ทั้งเงินสดและทรัพย์สินต่างๆเตรียมที่จะยื่นประกันตัวต่อสู้คดี

ทั้งนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทางครอบครัวตั้งข้อสังเกต ว่า หากนางสาวเพชรลดาต้องการเงินสามล้านบาทก็สามารถขอจากสามีได้โดยตรงไม่จำเป็นต้องก่อเหตุเช่นนี้ ซึ่งการก่อเหตุลักษณะนี้เหมือนมีนัยยะอะไรบางอย่าง แต่นางสาวเพชรลดาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/gvAH0qJJYiA