อาชญากรรม

ขับรถกระบะส่งสินค้าตบตาตำรวจ แท้จริงลำเลียงยาเสพติด

โดย taweelap_b

9 มี.ค. 2566

309 views

เมื่อวันที่ 9 มี.ค.65ที่ บก.สปพ. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รองผบช.น. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี  พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ  รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ  พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดยาเสพติด2,490,100 เม็ด , คีตามีน น้ำหนัก 10 กิโลกรัม , อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ,รถยนต์กระบะปิดทึบ จำนวน 2 คัน  โดยตรวจยึดได้ที่บ้านหลังหนึ่งในชุมชนบ่อบำบัด ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ


พล.ต.ต.สำเริง กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจ 191 ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีพฤติการณ์ใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบส่งสินค้า ตระเวนรับส่งยาเสพติดเพื่ออำพรางและหลีกเลี่ยงการจับกุมของตำรวจ ตระเวนส่งยาเสพติดให้ลูกค้าในพื้นที่ปริมณฑล เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนติดตามจนสืบทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวได้รับยาเสพติดจำนวนมากไปซุกซ่อนไว้ที่ชุมชนบ่อบำบัด ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ  จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นในบ้านต้องสงสัยภายในชุมชนบ่อบำบัด พบยาบ้าจำนวน 2,490,100 เม็ด , คีตามีน น้ำหนัก 10 กิโลกรัม , อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ,รถยนต์ และโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่พบเจ้าของยาเสพติด จึงขยายผลขอศาลอนุมัติหมายจับ กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด 3 คน จากนั้นเมื่อสืบทราบได้ติดตามไปแต่ไม่เจอตัวพบเพียงรถกระบะตู้ส่งสินค้าจอดทิ้งไว้ในอำเภอแม่วงค์ จังหวัดนครสวรรค์


 พล.ต.ต.สำเริง กล่าวว่า  รูปแบบของเครือข่ายนี้มักจะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไปเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ค้ายาเสพติดมีอาขีพลูกจ้างบริษัทเอกชนที่รับขนส่งสินค้า โดยใช้รถกระบะส่วนตัวซึ่งมีป้ายทะเบียนถูกกฎหมายตระเวนส่งพัสดุให้ลูกค้าตามบ้าน แต่มักจะลอบเอายาเสพติดใส่กล่องพัสดุเตรียมส่งให้ลูกค้ายาเสพติดพ่วงไปด้วย  บางครั้งยังมีการซุกซ่อนยาบ้าในลังน้ำแข็งไปในรถกระบะตบตาอีกด้วย

ทั้งนี้จากปริมาณของกลางและสิ่งที่ตรวจยึดได้ ทั้งอาวุธปืน แสดงให้เห็นว่าขบวนการยาเสพติดพร้อมต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ระมัดระวังขณะเข้าจับกุม  พร้อมสั่งการให้ขยายผลเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตามหาผกประชาชนหากพบเบาะแส การกระทำความผิด หรือการค้ายาเสพติด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนตำรวจ 191 ตลอด 24 ชม.

คุณอาจสนใจ

Related News