อาชญากรรม

ครอบครัวเด็ก 15 ขับ BMW ชนบัณฑิต เยียวยาไปแล้ว 8.6 แสน

โดย kanyapak_w

8 มี.ค. 2566

306 views

ความคืบหน้าคดีเด็กอายุ 15 ปี ขับรถ BMW ฝ่าไฟแดงชนรถจักรยานยนต์ของนายธนพล หรือ เต้ อายุ 24 ปี บัณฑิตจบใหม่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จนเสียชีวิตเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งทางสภาทนายความฯ จะรับทำหน้าที่ฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากครอบครัวเด็กอายุ 15 ปีจำนวนกว่า 15 ล้านบาท



ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวีระศักดิ์ กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 ถึงรายละเอียดการต่อสู่คดีทางแพ่งจนนำมาสู่การฟ้องเรียกค่าเสียหายในจำนวน 15 ล้านบาทว่า เป็นเงินที่เรียกเยียวยาในคดีฝั่งแพ่งบนมูลฐานคดีละเมิด ก่อนหน้านี้ได้เสอนเงินจำนวนนี้ให้แก่ทางครอบครัวเด็กอายุ 15 ปี แต่ฝั่งคู่กรณีปฏิเสธที่จะเจรจาตามที่เสนอ จึงต้องนำเงินจำนวนนี้ฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อชั้นศาล โดยเงินจำนวน 15 ล้านบาทนี้ คิดคำนวณจากเงิน 3 ค่าที่สามารถเรียกร้องได้บนมูลฐานละเมิด ได้แก่ ค่าปลงศพของน้องเต้ ค่าขาดประโยชน์ โดยคิดคำนวณจากการชดเชยภาระแรงงานในบ้านของครอบครัวที่ต้องสูญเสียน้องเต้ไป




สุดท้ายคือค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาของน้องเต้ โดยคำนวณจากวุฒิปริญญาโทและเอกที่น้องเต้จะได้มีโอกาสเรียนในอนาคต ร่วมกับตำแหน่งหน้าที่ทางการงานของน้องเต้ที่ก่อนจะถึงแก่กรรม มีเงินเดือนสูงถึงประมาณ 3-4 หมื่นบาท โดยน้องเต้ได้แบ่งเงินกว่า 15,000 บาทส่งมาที่บ้านเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ฉะนั้นการจากไปของน้องเต้ทำให้ครอบครัวขาดเสาหลักในการดูแลเลี้ยงดู ซึ่งคาดคะเนว่าในระยะเวลา 25 ปีต่อจากนี้ โดยวุฒิการศึกษาของน้องเต้มีสิทธิที่จะได้รับเงินเดือนสูงกว่า 80,000 บาทได้ และจะทำให้ครอบครัวของน้องเต้กินดีอยู่ดีมากขึ้น





ด้วยเหตุเช่นนี้ จำนวนเงินที่คิดในมูลค่า 15 ล้านบาท นอกจากจะเป็นค่าปลงศพและ ยังเป็นค่าขาดประโยชน์และค่าขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูที่เสียไปจากการเสียชีวิตของน้องเต้ โดยหลังจากนี้ทางทนายความจะรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำแสดงพิสูจน์ต่อชั้นศาลให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่า หากน้องเต้ไม่เสียชีวิตในระยะเวลา 25 ปี จะสามารถทำเงินให้แก่ครอบครัวสูงถึง 15 ล้านบาท โดยมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี และเตรียมจะยื่นฟ้องต่อศาลภายในสัปดาห์หน้าตามกรอบระยะเวลา 7 วันที่ประกาศไว้เมื่อวานนี้





ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ เข้าใจดีว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีคดีเทียบเคียงอย่างคดีชนรถตู้เสียชีวิต 9 ศพเมื่อปี 2553 ที่ตอนนั้นครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ได้เงินชดเชยไม่เต็มจำนวนตามฟ้องเรียกร้องในชั้นศาล ฉะนั้นจึงมีโอกาสว่าครอบครัวน้องเต้อาจจะไม่ได้ครบตามจำนวน เพราะผลสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจการตัดสินในชั้นศาล แต่ยืนยันว่า ทีมงานทนายความได้เตรียมพยานหลักฐานพร้อมพิสูจน์ให้ศาลเห็นถึงความเป็นไปได้ในจำนวนเงิน 15 ล้านบาทที่เรียกร้องเอากับครอบครัวเด็กอายุ 15 ปี และมั่นใจว่าจะสามารถทำให้ศาลพิพากษาให้ชดใช้เงิน 15 ล้านบาทตามเป้าหมายได้




นายวีระศักดิ์ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการฟ้องพ่อแม่ของเด็กอายุ 15 ปีให้ชดใช้ความเสียหายทางแพ่งว่า เนื่องจากตามหลักกฎหมายคดีละเมิด เหตุครั้งนี้เป็นฝีมือของเด็กอายุ 15 ปีอันเป็นผู้เยาว์ ฉะนั้นทางพ่อแม่ของเด็กซึ่งเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม ต้องเข้ามาร่วมรับผิดในฐานละเมิดเนื่องจากบกพร่องในภาระหน้าที่เลี้ยงดูบุตรไม่ให้ไปทำละเมิดกับผู้อื่น เว้นแต่พ่อแม่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่า ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ในระดับวิญญูชนที่จะดูแลบุตรไม่ให้ไปก่อละเมิด ซึ่งนายวีระศักดิ์เชื่อว่า ฝั่งพ่อแม่เด็กอายุ 15 ปีจะใช้ข้อยกเว้นนี้มาต่อสู้ แต่ทางฝั่งตนก็พร้อมจะพิสูจน์สู้กลับว่าคดีนี้พ่อแม่ปล่อยปะละเลยไม่ได้ดูแลจนเด็กอายุ 15 ปีมาก่อคดีนี้





สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาแก่ฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิตจากครอบครัวเด็กอายุ 15 ปี นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ต้องแยกให้ออกว่าเงิน 15 ล้านบาทเป็นการเรียกร้องฐานละเมิดในคดีแพ่ง ซึ่งจะต้องมีการต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป แต่ในฐานคดีอาญา ทางฝั่งครอบครัวเด็กอายุ 15 ปีได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นในคดีอาญาแล้วจำนวน 8.6 แสนบาท อันเป็นมูลค่าที่คิดจากค่าทำศพจนถึงทำบุญครบ 100 วัน และค่าความเสียหายจากอุบัติเหตุในฝั่งผู้เสียชีวิต เช่น โน้ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงรถจักรยานยนต์ของน้องเต้ ซึ่งเงินก้อนนี้ครอบครัวเด็กอายุ 15 ปีทยอยจ่ายไปแล้วจนครบจำนวนเมื่อสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดังนั้นกล่าวโดยสรุปว่า ตอนนี้ทางครอบครัวน้องเต้ได้เงินที่เป็นค่าชดใช้ในฝั่งคดีอาญาแล้วจำนวน 8.6 แสนบาท คงเหลือแต่ฝั่งคดีแพ่งในฐานละเมิดจำนวน 15 ล้านบาทที่คิดจากค่าปลงศพ ค่าขาดประโยชน์ และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูจากการเสียชีวิตของน้องเต้ที่ต้องต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป




ด้านผลของคดีอาญา นายวีระศักดิ์กล่าวว่า เด็กอายุ 15 ปีถูกพนักงานอัยการฟ้องใน 4 ข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และขับรถในที่สาธารณะโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งเด็กอายุ 15 ปีให้การในชั้นศาลรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และศาลได้พิจารณาให้ใช้มาตรการบำบัดฟื้นฟูเยาวชนผู้กระทำความผิดตามกฎหมายวิธีพิจารณาความคดีเด็กและเยาวชน โดยกำหนดแผนให้เด็กอายุ 15 ปี บำบัดฟื้นฟูพฤติกรรม บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ และช่วยเหลือแก่ครอบครัวน้องเต้ โดยเฉพาะการแบ่งเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันเทนนิสแก่ครอบครัวน้องเต้จำนวน 2/3 ของเงินรางวัล โดยกำหนดระยะเวลาแผน 3 ปี และต้องมารายงานตัวต่อศาลทุก ๆ 3 เดือน


ด้านพ่อเยาวชนวัย 15 ปี ที่ขับรถยนต์ BMW ชนบัณฑิตวิศวะ เกียรตินิยม เสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 30 กันยายน 2565 จังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดทีมข่าวได้สอบถาม คุณพ่อ หลังสภาทนายความ มีการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ว่าเยาวชนดังกล่าว ต้องมารายงานตัวที่ศาลทุก 3 เดือนเป็นเวลา 3 ปี และจะต้องทำกิจกรรมสาธารณะต่างๆ ตามแผนฟื้นฟู และห้ามขับรถยนต์ทุกชนิดจนกว่าจะมีใบขับขี่ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและต้องมีการรายงานผลการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องของ การเยียวยา ทางคุณพ่อ ได้บอกว่า ได้เยียวไปแล้วกว่า 8 แสนบาท ส่วนจะไปฟ้องทางแพ่ง จำนวนเงิน 15 ล้านบาท ก็ไปว่ากันในชั้นศาล



ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของเยาวชน ตอนนี้เริ่มจิตใจดีขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าเสียโอกาสทางการกีฬา แต่ก็ยังพอไปซ้อมบ้าง ส่วนตัวคุณพ่ออยากให้เรื่องจบเพราะทางคดีอาญานั้นจบไปแล้ว และก็ได้เยียวยาไปแล้วเช่นกัน ส่วนเรื่องอื่นค่อยไปว่ากันในศาลแพ่ง




ด้านมารดาของนายธนพล หรือเต้ ผู้วายชนม์ เปิดเผยกับทีมข่าว ว่า จนถึงตอนนี้ทางครอบครัวเด็กอายุ 15 ปียังไม่ได้ติดต่อเพื่อมาขอโทษหรือเจรจาเรื่องค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งแก่ครอบครัว มีแต่จ่ายเงินค่าเสียหายในคดีอาญาจำนวน 8.6 แสนบาทไป ซึ่งทยอยจ่ายจนครบในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องทางคดีได้มอบหมายให้ทีมทนายความดำเนินการทั้งหมด แต่ยอมรับว่าก็คาดหวังจะได้เงินครบตามที่เรียกร้องไป 15 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ศาลจะพิจารณาและเป็นไปตามการพิสูจน์ต่อสู้คดีในชั้นศาลของทีมทนายความ




คุณอาจสนใจ